มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3191

ช่องจิตของม่านเต๋อ ถูกกิเลนสายฟ้าดั้งเดิมกลืนกิน และร่างของเขาก็แหลกสลายเป็นผง จุดจบถูกกำหนดไว้แล้ว

ภาชนะติ่งปีศาจมังกรตกอยู่ในมือของหลัวซิวอีกครั้ง

เขาถือภาชนะติ่งไว้ในฝ่ามือ สายตามงอยู่บนนั้น ภาชนะติ่งปีศาจสีดำเล็ก ๆนี้ดูเหมือนกำลังสั่นเทาเล็กน้อย

ใบหน้าของหลัวซิวไม่มีสีหน้าใดๆ และเขาไม่พูดอะไรเลย ยิ่งเป็นแบบนี้นยิ่งทำให้ภูตติ่งปีศาจมังกรรู้สึกเหมือนความสงบก่อนจะเกิดพายุฝนมากขึ้น

“เจ้าไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นกลัว เพราะเจ้ารู้ดีว่าด้วยความแข็งแกร่งของข้า ทำอะไรเจ้าไม่ได้”

น้ำเสียงของหลัวซิวสงบมาก ราวกับว่าเขากำลังเล่าเรื่องที่ไม่มีความสำคัญใดๆ

“ข้า...ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว...” ภูตติ่งปีศาจมังกรโผล่หัวออกมาอย่างระมัดระวัง และเสียงของเขาก็สั่นเทา

“เจ้าจะแสร้งต่อไปอีกรึ?”

ร่องรอยของการเยาะเย้ยปรากฏขึ้นที่มุมปากของหลัวซิว “หรือเจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่ที่ถูกเจ้าหลอกไปครั้งหนึ่งแล้วจะถูกเจ้าหลอกอีกเป็นครั้งที่สอง?"

“ตั้งแต่แรกเมื่อข้าได้รับติ่งนี้ เจ้าก็แสร้งทำเป็นเชื่อฟังข้าและกลัวดาบหักเซียนกับเหล็กเซียนชั้นกล้า”

“ในตอนนั้น แดนของข้ายังไม่ได้อยู่ในระดับสูงและข้าก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก แล้วข้ายังเชื่อเจ้าจริงๆ และคิดว่าเจ้าคือภูตติ่งของภาชนะติ่งปีศาจมังกรจริงๆ”

“จนกระทั่งเจ้าตกไปอยู่ในมือของม่านเต๋อ และเปิดเผยนิสัยที่แท้จริงของเจ้าออกมา ข้าจึงตระหนักว่าข้าถูกเจ้าหลอกมาโดยตลอด”

“จริงๆ แล้ว เจ้าไม่ใช่ภูตติ่งของภาชนะติ่งปีศาจมังกร เจ้าเป็นจิตอสูรของปีศาจมังกร เมื่อจักรพรรดิเซียนจิ่วโยวกลั่นแปรร่างกายของปีศาจมังกร เป็นจิตอสูรที่ยังไม่ได้กลั่นแปร!”

หลัวซิวหรี่ตาลงเล็กน้อยและจ้องมองมังกรโลหิตดในติ่ง “ถ้าข้าเดาถูกต้อง ก่อนหน้านี้จุดประสงค์ที่เจ้าซ่อนไว้มาโดยตลอดคือในวันหนึ่งทำให้ข้ากลายปีศาจและใช้จิตอสูรรบกวนข้าอย่างช้าๆ ทันทีที่มีโอกาสก็จะใช้นำข้าไปสู่เส้นทางเดียวกับปีศาจมังกรผู้นั้นจากยุคโบราณหลัง”

ขณะที่หลัวซิวพูดคำเหล่านี้ สีหน้าของความกลัวบนใบหน้าของมังกรโลหิตในติ่งก็ค่อยๆหายไป

“ฮี้ฮี้...ข้าคาดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วเจ้าจะพบเข้า”

สีหน้าของมังกรโลหิตในติ่งเริ่มดุร้าย “เจ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่ดีมาก หากเจ้าสามารถกลายเป็นปีศาจได้ ก็จะได้รับพลังที่ทรงพลังมากขึ้น”

“เจ้าอยากล่อลวงข้ารึ?”

หลัวซิวยิ้มอย่างเหยียดหยาม "มีเพียงพลังที่ฝึกฝนทีละขั้นเท่านั้นที่เป็นของข้า ส่วนพลังที่ผู้อื่นมอบให้ ข้าไม่ต้องการมัน”

“จริงรึ? ในโลกนี้ มีเพียงพลังเท่านั้นที่เป็นนิรันดร์ จุดประสงค์ของการฝึกฝนของอสูรจิตที่มีชีวิตทั้งหมดก็เพื่อไล่ตามพลังเท่านั้นเองไม่ใช่รึ?” จิตอสูรมังกรโลหิตกล่าวพร้อมกับเยาะเย้ย

“พลังก็มีความแข็งแกร่งเช่นกัน”

หลัวซิวพูดอย่างใจเย็น “ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดเรื่องไร้สาระกับเจ้า เจ้าอยากรู้ว่าข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไรหรือไม่?”

“จัดการกับข้า?” จิตอสูรมังกรโลหิตหัวเราะออกมาเสียงดัง “ข้าเป็นจิตอสูรที่ถูกทิ้งไว้โดยปีศาจมังกรระดับมกุฎเซียน เจ้าเป็นเพียงเซียนชั้นฟ้าเล็กๆคนหนึ่ง เจ้าจะจัดการกับข้าได้อย่างไร?”

จิตอสูรมังกรโลหิตนั้นไม่เกรงกลัว มันพูดอย่างนี้ก็มีความมั่นใจในตัวเอง เพราะภาชนะติ่งปีศาจมังกรนั้นถูกสร้างขึ้นจากร่างของปีศาจมังกรระดับมกุฎเซียน และเป็นไปไม่ได้ที่ความแข็งแกร่งของหลัวซิวจะสร้างความเสียหายให้กับมันได้

หากมันสามารถถูกทำลายได้ จักรพรรดิเซียนจิ่วโหย่วคงจะทำลายมันด้วยตัวเองเมื่อเขาค้นพบว่าจิตอสูรยังไม่ได้กลั่นแปรอย่างสมบูรณ์

เหตุผลที่จักรพรรดิเซียนจิ่วโยวไม่ทำเช่นนั้นเพราะหลังจากที่ผู้แข็งแกร่งเผ่ามังกรระดับมกุฎเซียนกลายเป็นปีศาจแล้ว ร่างกายของเขาก็ไปถึงระดับที่สูงมากแล้ว หลังจากได้รับการกลั้นแปรเป็นอาวุธกลายเซียนโดยใช้วิธีของจักรพรรดิเซียนก็ยิ่งแข็งแกร่งและเป็นอมตะมากขึ้น

สิ่งที่จักรพรรดิเซียนจิ่วโยวเหตุใด่ได้ หลัวซิวก็เหตุใด่ได้เช่นกัน อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เหตุใด่ได้

สำหรับจิตอสูรมังกรโลหิต หลัวซิวไม่มีทางทำอะไรกับมันได้ เพราะจักรพรรดิเซียนจิ่วโยวไม่สามารถกลั่นแปนมันได้อย่างสมบูรณ์

นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุใดจิตอสูรมังกรโลหิตจึงมีความมั่นใจมาก

“เจ้าพูดถูก ข้าไม่มีวิธีที่ดีเป็นพิเศษในการจัดการกับเจ้า แต่ข้ามีวิธีอื่นที่จะจัดการต่อกรกับเจ้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ