ตำหนักตระกูลจางเมืองชิงหยุน แก้วชาใบวิจิตรถูกปาทิ้งจนแตกเป็นผุยผง จางช่าวฉงหัวหน้าตระกูลจางสีหน้าเคร่งขรึม
"พวกเฉินหู่ล้มเหลวเหรอ? เขาเป็นถึงจอมยุทธ์ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงฆ่าเด็กหนุ่มการกลั่นร่างขั้น7ตัวเล็กๆคนหนึ่งไม่ได้?” จางช่าวฉงถามคนที่อยู่ด้านล่างด้วยความโมโห
"หัวหน้าตระกูลครับ เฉินหู่ไม่ใช่แค่ล้มเหลวเท่านั้น แต่ยังตายด้วยครับ หอกยอดลมของเขาถูกขาย ทั้งยังมีคนเจอศพเฉินหู่ที่เขาปาฉี" คนรับใช้ที่เป็นเหมือนผู้ดูแลพูดด้วยความเคารพ
"ไอ้ขยะ!” จางช่าวฉงสบถ พูดเสียงเหี้ยม: “เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปไหม?"
"ทางสำนักยุทธ์ยังไม่มีทีท่าอะไรครับ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร" ผู้ดูแลพูด
ในเวลาเดียวกัน ม้าขนเหลืองวิ่งเข้าเมืองชิงหยุน
หลังจากกลับเข้าเมือง หลัวซิวเปลี่ยนชุดแล้วมาที่สำนักยุทธ์ เตรียมที่จะมุ่งหน้าไปหอเก็บหนังสือ เลือกวิชายุทธ์ระดับ3
ตามกฎของสำนักยุทธ์ วิชายุทธ์ระดับ3สามารถเลือกได้หนึ่งวิชาตอนการกลั่นร่างขั้น7 ขั้น8 ขั้น9 ล้วนมีโอกาสเลือกหนึ่งวิชายุทธ์
เดินอยู่ในสำนักยุทธ์ นักเรียนไม่น้อยที่รู้จักหลัวซิว ต่างสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเขาอย่างชัดเจน
"ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของหลัวซิวจะมากยิ่งขึ้น ตอนที่เขาเดินผ่านฉัน ฉันถึงขั้นรู้สึกเหมือนถูกข่ม"
"หรือว่าเขาจะบรรลุการกลั่นร่างขั้น8แล้ว?ว่ากันว่าเลือดที่ผ่านการผนึกรวมและกลั่นแปรของผู้ฝึกยุทธ์การกลั่นร่างขั้น8 จึงจะมีออร่าที่สามารถข่มได้"
"เป็นไปไม่ได้รึเปล่า? เมื่อเดือนก่อนยังเป็นการกลั่นร่างขั้น7 จะบรรลุการกลั่นร่างขั้น8เร็วขนาดนี้ได้ยังไง"
คนจำนวนไม่น้อยต่างพูดกัน ตั้งแต่จบการสอบประจำปีเมื่อคราวก่อน หลัวซิวมุ่งหน้าไปฝึกที่เขาปาฉี ตอนนี้ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้ว
ความเป็นจริง ไม่ใช่แค่เพราะบรรลุผลการฝึกตน แต่เป็นเพราะร่างกายของหลัวซิวเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่มีใครรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงได้ดีเท่าตัวเขาเองแล้ว
หลังจากประสานรวมกับลูกแก้วอัญมณีแห่งความเป็นความตาย สมรรถภาพทางกายของเขา หลอดเลือดได้รับผลกระทบจากพลังแห่งความเป็นความตาย ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงช้าๆ
บวกกับระยะหลังมานี้ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเป็นความตายกับแดนภายในใจ การขัดเกลาของอารมณ์ บุคลิกของเขา จึงเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ระหว่างมุ่งหน้าไปยังหอเก็บหนังสือ ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าหลัวซิวกะทันหัน
เขาคือผู้อาวุโสที่ผมและเคราขาวไปหมด สวมชุดสีขาว ใบหน้าเปื้อนยิ้ม มือทั้งสองไขว้หลัง เหมือนคนแก่ทั่วไป ไร้ซึ่งการผันผวนของลมปราณ
แต่ว่าในสายตาของหลัวซิว ผังลายเส้นชีวิตของผู้อาวุโสชุดขาวคนนี้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เส้นลมปราณและจุดฝังเข็มทรงพลัง เหนือกว่าจอมยุทธ์พวกนั้นที่หลัวซิวเคยพบเจอ แข็งแกร่งกว่าไม่รู้เท่าไหร่
แดนพรสวรรค์!
หลัวซิวสามารถยืนยันได้ว่า คนตรงหน้าคือปรมาจารย์ระดับแดนพรสวรรค์!
ไม่เพียงแค่นี้ ผู้อาวุโสคนนี้หน้าตาคุ้นมากๆ คือผู้อาวุโสที่ทำการสอบเขาตอนที่อยู่องค์กรนักล่าอสูร
เห็นได้ชัด ผู้อาวุโสคนนี้ไม่เพียงทำงานที่องค์กรนักล่าอสูร แต่ยังเป็นผู้อาวุโสในสำนักยุทธ์แห่งเมืองชิงหยุนด้วย
"หลัวซิว เคารพผู้อาวุโสครับ"
สำนักยุทธ์มีผู้อาวุโสทั้งหมดห้าคน หลัวซิวเคยเจอแค่ผู้อาวุโสที่ตอนนั้นรับผิดชอบคุมสอบ ผู้อาวุโสเฝ้าหอเก็บหนังสือเท่านั้น สำหรับผู้อาวุโสอีกสามท่าน เขาไม่เคยเจอมาก่อน
"หลัวซิว ตามฉันมา" จวงหนานเทียนพยักหน้า ยิ้มแล้วพูด
เพิ่งสิ้นเสียง จวงหนานเทียนหมุนตัวหันหลังเดินออกไป ภายในใจของหลัวซิวเกิดความสงสัย จึงเดินตามไป โดยที่ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสสำนักยุทธ์มาหาตนเพราะเรื่องอะไร
เดินตามผู้อาวุโสชุดขาว หลัวซิวมาถึงห้องใต้หลังคาในสวนแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ส่วนลึกของสำนักยุทธ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...