มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 374

เธอรู้ดีว่าพละกำลังของอาจารย์คนนี้แข็งแกร่งมาก ถึงแม้จะมีแค่ผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้น1 แต่กลัวว่าพละกำลังจะแกร่งกล้ากว่ากู้เผิง ราชายุทธ์ขั้น8 เสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นคนที่สามารถเอาวิชาปฐมอสูรฟ้ามาได้ จะธรรมดาได้อย่างไร

ไม่ต้องพูดเรื่องที่เขามีบุญคุณกับตัวเอง มีผู้แข็งแกร่งแบบนี้ร่วมทางไปด้วย มีเพียงแต่ประโยชน์เท่านั้น พวกกู้เผิงมองการณ์ตื้นเขิน ไล่เขาไป ช่างโง่เขลาสิ้นดี

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เชิญตามสบาย!” กู้เผิงพูดเคร่งขรึม เขาไม่เข้าใจว่าศิษย์น้องคนนี้เป็นอะไรไป ทำไมถึงให้ความสนใจกับคนแปลกหน้าเช่นนี้

หลัวซิวมองฮู๋ชิงชิง ยิ้มแล้วพูดว่า “แม่นางชิงชิงไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการพอดี ขอลาก่อน”

ระหว่างพูด หลัวซิวพลิกมือหยิบม้วนหยกออกมา ยื่นให้ฮู๋ชิงชิง พูดผ่านตัวสำนึกว่า “ในม้วนหยกนี้เป็นวิชาฝึกตนแดนราชายุทธ์ วิชาปฐมอสูรฟ้า หลังจากเธอฝึกตน พละกำลังน่าจะแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย”

เพราะข้อจำกัดของผลการฝึกตนของตัวเอง เขาจึงได้รับเพียงวิชายุทธ์ที่ไม่เกินระดับราชายุทธ์ ผ่านเทพแห่งวัฏจักรชีวิต สำหรับวรยุทธ์ที่ตามหลังวิชาปฐมอสูรฟ้ามานั้น ต้องรอให้เขามีระดับผลการฝึกตนถึงจักรพรรดิยุทธ์ขึ้นไป

ฮู๋ชิงชิงยื่นมือมารับม้วนหยก ขณะกำลังจะเอ่ยขอบคุณ ก็เห็นหลัวซิวหันหลังเดินไปแล้ว ร่างกายแวบไปมาไม่กี่ครั้ง ก็หายวับไปทันที

หวูสงที่โดนงูพิษกัดก่อนหน้านี้ ได้กินยาแก้พิษแล้ว เห็นหลัวซิวเดินจากไป ก็พูดอย่างเคร่งขรึม “ไอ้หมอนี่มีพละกำลังแข็งแกร่ง ถ้าไม่มีเจตนาไม่ดี ทำไมถึงช่วยแค่ศิษย์น้องชิงชิง แต่ไม่ช่วยฉันล่ะ”

เขาเอาการที่ตัวเองโดนงูพิษกัด ผลักเป็นภาระให้หลัวซิว ที่เห็นคนจะตายแล้วไม่ช่วย

เมื่อพูดจบ เขาหันไปมองฮู๋ชิงชิง แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องชิงชิง ม้วนหยกที่เขาให้เธอ ทางที่ดีดูให้ละเอียดสักหน่อย ว่ามีวิธีอะไรไม่ดีหรือเปล่า”

ฮู๋ชิงชิงส่งเสียงหึ เพราะการที่หลัวซิวจากไป เธอรู้สึกหดหู่ใจ แต่เธอไม่สามารถอธิบายเรื่องหลัวซิวให้คนพวกนี้ฟังได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงปล่อยให้คนพวกนี้เข้าใจเขาผิด

เมื่อมองพวกกู้เผิง ฮู๋ชิงชิงรู้สึกหงุดหงิด ถ้าให้เธอเลือก เธอยอมไปกับหลัวซิว ดีกว่าอยู่กับพวกเมืองฝูถู ที่หยิ่งยโสเป็นอย่างมาก

ในแดนแต่งตั้งราชา ไม่ได้ห้ามเหาะเหิน หลัวซิวเหาะบนท้องฟ้า ใช้วิชาท่าร่างบรรลุมังกรเขียว ร่างกายกลายเป็นเงาเลือนรางรูปมังกรสีเขียวอ่อน เหมือนลอยไปตามลม ราวกับฝนดาวตกพาดผ่านขอบฟ้า สว่างวาบแล้วหายไป

ทันใดนั้น ลมปราณอันโหดเหี้ยมโถมเข้ามา อินทรีย์ขนทองที่มีหงอนบนหัวบินเข้ามา

อินทรีย์ขนทองทั่วไป เป็นอสูรกายระดับ5 แต่ถ้ามีหงอนด้านบน จะเป็นระดับ5 ขั้นสูงสุด เมื่อหงอนแตกออกจะมีเขางอกออกมาหนึ่งอัน จะเป็นอินทรีย์ขนทองเขาสายฟ้า กลายเป็นอสูรกายระดับ6 ทัดเทียมกับผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์

หลัวซิวรู้ดีว่าหากใช้พละกำลังของตัวเอง ฆ่าอินทรีย์ขนทองระดับ5 ขั้นสูงสุด ต้องสูญเสียพละกำลังอย่างมาก และการฆ่ากลางอากาศ เรียกความสนใจจากคนอื่นด้วย ทำให้โดนจับตามองได้ง่าย

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลัวซิวจึงไม่คิดจะขัดแย้งกับเจ้าแห่งท้องนภาตัวนี้ เขาหายตัวแวบลงมาจากท้องฟ้า

“แกว๊ก!”

อินทรีย์ขนทองไม่ได้ไล่ตามมา แต่ส่งเสียงร้องออกมา ราวกับกำลังประกาศว่าท้องนภาแห่งนี้คือถิ่นของมัน

“ไม่เสียแรงที่เป็นวิชาท่าร่างระดับยิ่งเลิศ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ