เฟิงเซวียนจวี๋ออกกระบี่เร็วขึ้นเรื่อยๆ รังสีคมกระบี่รวมตัวกันมากดั่งเม็ดฝน โจมตีครอบคลุมไปทั้งจุดสำคัญบนตัวของหานซาน
ส่วนหานซานก็ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ มือกำดาบเปิดเขาผายออกมา ปัดป้องกันโจมตีของเฟิงเซวียนจวี๋ทั้งหมด หลบไม่ได้ก็ต้องผนึกปราณป้องกันแบบนี้
ผ่านไปพักใหญ่ สุดท้ายปราณในของหานซานก็หมดก่อน พลังปราณแข็งไม่อาจจะใช้ได้ต่อไป แล้วถูกรังสีคมกระบี่ของเฟิงเซวียนจวี๋ฟันจนเสื้อที่หน้าอกขาดไป เลือดก็สาดออกมา
ส่วนเฟิงเซวียนจวี๋ ตอนนี้ก็เหงื่อท่วมตัว ถ้าผ่านไปอีกสักพัก เขาเองก็ต้องหมดแรงเหมือนกัน
“เฟิงเซวียนจวี๋ชนะ!”
จากสนามนี้ ทุกคนล้วนมองออกว่า พลังของหานซานกับเฟิงเซวียนจวี๋พอๆ กัน เพียงแต่หานซานจะถูกโจมตีมากกว่า ปราณในก็เลยหมดเร็วกว่า
จากนั้น ก็ถึงคิวของหลัวซิวขึ้นเวทีประลอง ส่วนคู่ต่อสู้ของเขา ก็คือสวี่ชิวเซิงยอดฝีมืออันดับ1ที่ได้รับการยอมรับ!
สองคนนี้มาเจอกัน เรียกได้ว่าเก่งเจอเก่ง ผลงานของหลัวซิวนั้นได้ใจผู้ชม อายุเพียง14ปีก็บุกมาได้ถึงรอบนี้ แถมยังมีโอกาสที่จะได้เป็นผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนเลยทีเดียว
งานประลองยุทธ์ในแต่ละปีที่ผ่านมานั้น คนที่ได้แชมป์ล้วนเป็นยอดฝีมือของชั้นหัวกะทิ
รอบนี้ ได้รับการสนใจจากสายตาของทุกคน ในใจของทุกคนล้วนกำลังลุ้นว่าใครจะชนะ
สวี่ชิวเซิงขึ้นเวทีประลอง มือกำปืนเงิน สีหน้าไร้อารมณ์ มีวิชาหอกระดับ3ระดับแดนบริบูรณ์ พลังของเขาสามารถที่จะอวดทุกคนได้
“นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่กูจะได้เข้าร่วมงานประลองยุทธ์ หวังว่ามึงจะไม่ทำให้กูผิดหวัง”
สวี่ชิวเซิงจ้องมองหลัวซิว แล้วพูดนิ่งๆ ปีนี้เขาอายุ18แล้ว หลังจากงานประลองยุทธ์นี้ เขาก็จะจบการศึกษาแล้ว
หลัวซิวพยักหน้า “ผมก็อยากจะขอเรียนรู้วิชาหอกของพี่เสียหน่อย”
“ลงมือเถอะ กูจะไม่ออมมือเด็ดขาด” ปืนเงินในมือสวี่ชิวเซิงขยับ แล้วก็วาดโค้ง คล้ายเป็นแสงสีเงินออกมา พริบตาก็แทงเข้ามาตรงหน้าหลัวซิวแล้ว
กระบวนท่าแรกที่สวี่ชิวเซิงโจมตีออกมา หลัวซิวก็สัมผัสได้ถึงความเย็นทะลุกระดูก รังสีแหลมคมพุ่งเข้าหน้า
“ฟุบ!”
หลัวซิวขยับตัว ปลายหอกแทบจะลากผ่านลำตัวของเขาไป เสื้อขาด บนผิวหนังเผยเป็นรอยเลือด
ถึงแม้จะเป็นทักษะยุทธ์หลบหลีกในระยะมิลลิเมตร หลัวซิวก็หลบหลีกการโจมตีได้อย่างอันตรายมาก แต่รังสีความแรงที่ปืนเงินนำพามาด้วย ทำให้เสื้อของเขาขาด และบาดเข้าหนังจนเป็นรอยเลือด
“วิชาหอกร้ายกาจมาก!” หลัวซิวกระตุกจิต รู้ว่าครั้งนี้ตนเองเจอกับคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกันเข้าแล้วจริงๆ
พลังของสวี่ชิวเซิง มันสามารถเทียบกับจอมยุทธ์ชี่ไห่ธรรมดาได้เลย ทำให้หลัวซิวรู้สึกว่าร้ายกาจกว่าครั้งที่ตนเองเจอกับเฉินหู่ที่เขาปาฉีในครั้งก่อน
“ฟุบ!”
ปืนเงินในมือของสวี่ชิวเซิงก็เปลี่ยนท่า หลัวซิวชักกระบี่ออกมาไม่ทัน พลังรังสีความคมกริบก็ปกคลุมไปทั่วร่างเขา
“ไม่ได้การแล้ว!”
หลัวซิวหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ตัวก็ถอยร่นไป แต่วิชาหอกของคู่ต่อสู้ก็กินพื้นที่มาก เขาไม่มีทางที่จะหลบหลีกได้
“เหอะๆ ถึงแม้หลัวซิวคนนี้จะไม่เลว แต่เทียบกับสวี่ชิวเซิง ก็ยังห่างอยู่อีกหลายขุม” บนที่นั่งชม ผู้อาวุโสแซ่หลี่ยิ้มพูดขึ้นมา
แต่ในตอนนั้นเอง หลัวซิวก็ยืนมือทั้งสองออกมา ระหว่างนิ้วมือก็มีปราณในสาดออกมา โดยที่ไม่ใช่แสงน้อยๆ แต่มันลุกโชนเหมือนดวงไฟ
“ตูม!”
ตอนที่เขากำลังจะถูกหอกฟันมานั้น เขาก็ซัดสองมือออกไป ทำให้ปืนเงินของสวี่ชิวเซิงลอยกระเด็นไป
ปืนเงินสั่นถี่มาก ปราณในที่แข็งแกร่งก็ส่งเข้ามา ทำให้ง่ามมือของสวี่ชิวเซิงชาไป จนปืนเงินเกือบจะหลุดมือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...