เห็นว่าบนเวทีประลองนั้น มีสาวน้อยสวมชุดแดงยืนอย่างมั่นใจอยู่บนนั้น สายตามองเยอะเย้ยมายังคนทางด้านล่างเวที แล้วยิ้มพูดว่า “หรือว่าสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนจะไม่มีคนเก่งแล้วหรือไงกัน? แค่ผู้หญิงอย่างฉันคนเดียวก็สู้ไม่ได้ กระจอกจริงๆ !”
พอพูดออกมาดังนั้น นักเรียนในสำนักยุทธ์ทั้งหลายก็โมโหมาก แต่ก็ไม่มีคำพูดไหนพูดสู้ได้
บนห้องใต้หลังคา เจ้าสำนักชิงหยุนก็หน้านิ่ง ฝั่งตรงข้ามหยามเกียรติบนเวทีประลองแบบนี้ จะให้เจ้าสำนักเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ฮ่าๆ เจ้าสำนักชิงหยุนอย่าเพิ่งโมโหไป เด็กน้อยมันไม่รู้ความ” เจ้าสำนักซินฉือเอามือลูบเคราพูด
“เหอะ!” เจ้าสำนักชิงหยุนส่งเสียงไม่พอใจ “คุณกล้าพาคนมาท้าทายถึงเมืองชิงหยุนของผม เพียงเพราะอาศัยอัจฉริยะอา15ปีที่เป็นจอมยุทธ์ชี่ไห่คนนี้น่ะหรือ?”
เรื่องของเมืองซินฉือสำนักยุทธ์นั้น เจ้าสำนักชิงหยุนก็พอรู้มาบ้าง รู้ว่าเมืองซินฉือมีสาวน้อยอัจฉริยะ ชื่อว่า เนี่ยเสี่ยวเตี๋ย ก็คือสาวน้อยชุดแดงบนเวทีประลองคนนี้
หลังจากที่จบการประลองยุทธ์ สวี่ชิวเซิงและหานซานก็เก็บตัวฝึกตนไม่ออกมา เพื่อพยายามไปให้ถึงแดนฝึกชี่ไห่ ตอนนี้ก็มีแต่เฟิงเซวียนจวี๋ ที่มีพลังมากที่สุด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยเลย
“ไม่รู้ว่าหลัวซิวจะสู้กับเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยได้ไหม”
เจ้าสำนักชิงหยุนขมวดคิ้ว โดยไม่รู้ว่าหลัวซิวกลายเป็นจอมยุทธ์ชี่ลึกลับแล้ว
“หลัวซิวมาแล้ว!”
“หลัวซิวจริงๆ ด้วย!”
“หลัวซิวเป็นยอดฝีมืออันดับ1ของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนเรา จะต้องเอาชนะผู้หญิงคนนี้ได้แน่!”
ทันใดนั้น ผู้คนข้างเวทีประลองก็ดังกระหึ่มขึ้นมา สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปยังชายหนุ่มชุดดำที่แบกกระบี่ไว้ที่หลัง
“ยอดฝีมืออันดับหนึ่งงั้นหรือ? ไม่รู้ว่าจะรับกระบวนท่าของฉันได้สักท่าหรือเปล่า?” สาวน้อยชุดแดงบนเวทีพูดอย่างไม่สนใจ
พอได้ยินเสียงเหยียดหยามกันแบบนี้ หลัวซิวก็มองขึ้นไปบนเวทีประลองยุทธ์ แล้วก็สังเกตลายเส้นชีวิตของสาวน้อยชุดแดงคนนั้นอย่างชัดเจน
“จอมยุทธ์ชี่ไห่งั้นหรือ?ถึงว่าอวดเก่งไม่เบา……”
จากพลังในลายเส้นชีวิต หลัวซิววินิจฉัยได้ว่าผลฝึกตนของสาวน้อยชุดแดงคนนี้อยู่ที่วิชาชี่ไห่ขั้น1น่าจะเหมือนกับตนเอง ที่เพิ่งบรรลุแดนชี่ไห่ได้ไม่นาน
แต่ว่าหลัวซิวไม่ได้สนใจสาวน้อยชุดแดงคนนั้น แต่มองไปยังบนห้องใต้หลังคาเพื่อทำความเคารพเจ้าสำนักชิงหยุนก่อน
“เจ้าสำนักชิงหยุนพยักหน้า แล้วพูดเสียงขรึมว่า “หลัวซิว คนบนเวทีนั้น ก็คือเนี่ยเสี่ยวเตี๋ย สาวน้อยยอดอัจฉริยะของเมืองซินฉือสำนักยุทธ์”
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็มองไปยังตัวของหลัวซิว เหล่านักเรียนของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนทั้งหลายล้วนรู้ดี ว่าหลัวซิวเป็นยอดฝีมืออันดับ1 ถ้าแม้แต่เขาก็ยังแพ้ล่ะก็ ก็ต้องนอกจากสวี่ชิวเซิงหรือหานซาน ใครสักคนบรรลุขั้นออกจากการฝึกตนมา ไม่อย่างนั้นวันนี้สำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนคงจะต้องขายหน้าแล้วล่ะ
“มี!” หลัวซิวค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ใบหน้ามีรอยยิ้มด้วยความมั่นใจ บนร่างกายก็ปล่อยพลังของจอมยุทธ์ชี่ไห่ออกมา เหล่านักเรียนของสำนักยุทธ์โดยรอยล้วนรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่ส่งเข้ามา
“หลัวซิวบรรลุแดนฝึกชี่ไห่แล้วงั้นหรือ?”
“ไม่เสียแรงที่เป็นยอดอัจฉริยะอันดับ1ในการประลองยุทธ์ หลัวซิวจะต้องเอาชนะเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยคนนี้ได้แกฎเกณฑ์”
“หลัวซิว!หลัวซิว!หลัวซิว!……”
เหล่านักเรียนของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนก็กระหึ่มดังกันขึ้นมา คนนับร้อยเรียกชื่อของเขา
การต่อสู้ครั้งนี้เกี่ยวกับศักดิ์ศรีของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุน หลัวซิวบรรลุแดนฝึกชี่ไห่ ไม่แปลกที่จะทำให้ทุกคนมองเห็นถึงความหวัง มีคนเชียร์กันมากมายถึงที่สุด
พอสัมผัสถึงปราณแท้ที่บนตัวของหลัวซิว เจ้าสำนักชิงลึกลับนก็มีสีหน้าออกมาเล็กน้อย เดิมทีเขายังคิดว่าอย่างน้อยอีก1-2เดือนหลัวซิวถึงจะสามารถบรรลุแดนฝึกชี่ไห่ได้
“ฮ่าๆ เจ้าสำนักซินฉือเมื่อครู่คุณบอกว่าอยากจะพนันกับผมใช่ไหม?” เจ้าสำนักชิงหยุนหันตัวไปมองเจ้าสำนักซินฉือ
เจ้าสำนักซินฉือที่มีรูปร่างท้วมๆ ก็มองหลัวซิว แล้วพูดในใจว่า “นี่ก็คืออัจฉริยะที่ฝึกพลังหยางบริสุทธิ์สำเร็จงั้นหรือ? บรรลุแดนฝึกชี่ไห่แล้วเหมือนกันนี่.........”
เจ้าสำนักซินฉือบ่นพึมพำ เห็นได้ชัดว่าการบรรลุของหลัวซิว ทำให้ในใจของเขาเริ่มไม่ค่อยมั่นใจแล้ว
“ทำไมล่ะ? เจ้าสำนักซินฉือไม่กล้าพนันแล้วงั้นหรือ?” เจ้าสำนักชิงหยุนแกล้งพูดหยอกเล่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...