มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 558

สองปีกว่าที่ผ่านมา ผลการฝึกตนของนางยังคงอยู่ที่แดนระดับจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 3 แต่ในเวลาเพียงสองปี ผลการฝึกตนของนางก็ได้ถึงแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9

อันที่จริงด้วยความเร็วและพรสวรรค์ในการฝึกฝนของนางในขณะนี้ ฝึกตนไปถึงแดนมกุฎก็จะไม่ยากมากนัก เพราะเลือดหงส์โบราณนั้นไม่ธรรมดา ไม่เช่นนั้น คนในสำนักใหญ่ของเผ่าหงส์จะไม่ให้ความสำคัญกับนางมากเช่นนี้

แต่ดังที่เฟิ่งหลิงกล่าว หากต้องการใช้ศักยภาพของเลือดหงส์โบราณเพิ่มมากขึ้นก็ต้องมีวิชาฝึกฝนพิเศษ เพราะเหยียนเยว่เอ๋อร์ขาดวิชาพิเศษนี้ ผลการฝึกตนของนางถึงแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 แล้วไม่เพิ่มขึ้นอีก ไม่สามารถทะลุไปถึงขอบเขตแดนมกุฎยุทธ์ ได้

นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากออกมาจากการฝึกตน แล้วรู้เรื่องที่คนของเผ่าหงส์มาที่นี่จากเกาเหลียนหง

จากปากของเฟิ่งหลิง เหยียนเยว่เอ๋อร์ถึงเพิ่งรู้ว่าเหตุผลที่นางถูกล็อกอยู่ในแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ไม่สามารถทะลุไปอีกขั้นได้เพราะขาดวิชาที่เหมาะสมสำหรับฝึกฝนพร้อมเลือดหงส์โบราณ และวิชานี้ต้องอยู่ในสำนักใหญ่ของเผ่าหงส์เท่านั้นถึงจะสามารถสืบทอดได้

แต่เหยียนเยว่เอ๋อร์ก็รู้เช่นกันว่าสำนักใหญ่ของเผ่าหงส์อยู่ห่างไกลจากอาณาจักรใต้มาก อย่างไม่มีใครเทียบ ทันทีที่นางไปสำนักใหญ่ของเผ่าหงส์ ต้องการพบหลัวซิวก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปถึงเมื่ไหร่

“พวกท่านทั้งสาม โปรดกลับไปเถอะ ข้าไม่อยากไปเผ่าหงส์”

ดังนั้น เหยียนเยว่เอ๋อร์ปฏิเสธข้อเสนอของเฟิ่งหลิงโดยไม่ลังเลเลย

การตัดสินใจของเหยียนเยว่เอ๋อร์ทำให้สีหน้าคนทั้งสามคนของเผ่าหงส์แตกต่างกันไป เฟิ่งหลิงขมวดคิ้วจนมีรอยย่น สีหน้าของเฟิ่งเยียนหรานสงบราบเรียบปกติ เฟิ่งหงเสว่แสดงความปิติยินดีออกมาเล็กน้อย

“คนในเผ่าที่ได้ปลุกเลือดหงส์โบราณสำเร็จ จะต้องกลับไปที่สำนักใหญ่ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันไม่มีข้อยกเว้น” เฟิ่งหลิงกล่าวด้วยเสียงขรึม

ภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากสำนักใหญ่คือนำผู้ที่ได้ปลุกเลือดหงส์โบราณสำเร็จกลับไปหากอีกฝ่ายเต็มใจ ถ้าอีกฝ่ายเต็มใจร่วมมือด้วยก็ดีไป ถ้าไม่ร่วมมือ เขาก็พร้อมจะทำการจับกุม

เกาเหลียนหงรู้สึกถึงรัศมีอันตรายจากร่างเฟิ่งหลิงในทันที พลิกฝ่ามือจับตราขลังมังกรเขียวไว้ในมือ

แม้ว่าคนทั้งสามคนของเผ่าหงส์จะอยู่ในค่ายพิทักษ์เขา แต่เฟิ่งหลิงเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎยุทธ์ขั้น 9 และไม่กลัวค่ายกลคุ้มเขาระดับ 7

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ