มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 77

หอเซียวเหยามีทั้งหมดสองชั้น ชั้นหนึ่งเก็บวิชายุทธ์ระดับ5 เอาไว้ ชั้นสองเก็บวิชายุทธ์ระดับ6

หากต้องการฝึกฝนวิชาที่สูงกว่าอย่างวิชายุทธ์ระดับ7 ก็จะต้องเข้าในสำนักกลายเป็นศิษย์หลัก ถึงจะได้รับการถ่ายทอด

วิชายุทธ์ระดับ7 นั้นเป็นการถ่ายทอดที่สูงที่สุดของสำนักเชียวเหยา เป็นธรรมดาที่จะไม่ถ่ายทอดอย่างง่ายได้ ต่อให้เป็นผู้อาวุโสในสำนักบางคน ยังไม่มีคุณสมบัติฝึกฝน

วิชายุทธ์ระดับ5 ที่อยู่ในชั้นหนึ่งนั้นมีเยอะมาก วิชาหมัด วิชาเท้าวิชาเตะ วิชาหมัด วิชาดรรชนี วิชาดาบ วิชากระบี่และอื่น ๆ มีครบทุกอย่าง

ทว่าหลัวซิวเหลือบมองอยู่หนึ่งรอบ ก็ไม่พบวิชายุทธ์ที่ยอดเยี่ยมกว่าวิชากระบี่แสงเหนือและวิชาเงาเศษสิบช่อง

หลังจากที่เดินอยู่หนึ่งรอบ หลัวซิวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย หากไม่เลือกวิชายุทธ์ระดับ5 ทว่าในอนาคตตนเองได้แสดงวิชายุทธ์ระดับ5 ออกมา แถมยังไม่ใช่เคล็ดวิชาที่หอเซียวเหยามีอยู่ พอถึงตอนนั้นจะอธิบายเช่นไร?

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หลัวซิวก็ได้บอกเรื่องคลังสมบัติราชายุทธ์กับลู่เมิ่งเหยา สำหรับกระบวนการที่อันตรายถึงชีวิตนั้น ถูกเขาละเว้นไป

เขาเชื่อลู่เมิ่งเหยา ดังนั้นถึงได้บอกกับนาง

แม้ว่าหลัวซิวจะกล่าวอย่างสบาย ๆ สิ่งที่ได้จากคลังสมบัติราชายุทธ์เหมือนจะมากมาย ทว่าลู่เมิ่งเหยาทราบดี ไม่มีโอกาสใดในโลกนี้ที่ได้มาอย่าง่ายดาย ยิ่งเป็นโอกาสที่ดี ก็จะยิ่งอันตราย

ทว่านางคิดไม่ถึงว่า หลัวซิวจะได้รับคลังสมบัติของราชายุทธ์ที่แข็งแกร่งทิ้งเอาไว้ ทรัพยากรความมั่งคั่งที่อยู่ในนั้น ต่อให้เป็นระดับสูงสุดของสำนักเซียวเหยา เกรงว่าคงจะต้องใจสั่นหวั่นไหวแน่นอน!

“หลัวซิว เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล ศิษย์มากมายออกไปฝึกฝนที่ด้านนอก มีบางครั้งก็ได้รับเช่นกัน ได้รับการสืบทอดวิชายุทธ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นนอกสำนักหรือในสำนัก สำหรับเรื่องนี้ล้วนไม่มีกฎเกณฑ์มาผูกมัด”

สำหรับปัญหาของหลัวซิว ลู่เมิ่งเหยาได้ให้คำอธิบาย

“นอกจากนี้หากเจ้ามีเคล็ดวิชายุทธ์ที่ตนเองไม่ได้ใช้ สามารถเอาออกมาเก็บไว้ที่หอเซียวเหยาได้ ตามระดับของเคล็ดวิชายุทธ์ที่เจ้ามอบออกมา ก็จะสามารถได้รับรางวัลตามความเหมาะสม”

ลู่เมิ่งเหยากล่าวต่อ “วิชายุทธ์ระดับ5 เคล็ดวิชาหนึ่ง สามารถแลกกับยาฝึกปราณสามเม็ด”

“ยาฝึกปราณสามเม็ด?” หลัวซิวชะงักเล็กน้อย

ตามมูลค่าที่แท้จริงแล้ว ยาฝึกปราณสามเม็ดมิอาจทัดเทียมได้กับวิชายุทธ์ระดับ5 เคล็ดวิชาหนึ่ง แต่วิชายุทธ์ที่ไม่ได้ใช้เก็บเอาไว้ก็ไร้ประโยชน์ แลกกับยาฝึกปราณนับเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย

หลัวซิวไม่ได้แลกยาฝึกปราณมาในตอนนี้ เขาใช้ไปแล้วหนึ่งเม็ด ยังเหลืออีกสองเม็ด พึ่งจะทะลวงถึงขั้นชี่ไห่ขั้นสาม จะต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อให้ผลการฝึกตนเสถียรภาพ สามารถรอแลกในตอนที่ต้องการในอนาคตได้

ออกมาจากหอเซียวเหยา หลัวซิวได้กลับไปที่ที่พักของตนเอง ในตอนที่สร้างความเสถียรภาพให้กับวิชาชี่ไห่ขั้น3 นั้น ขณะเดียวกันก็เริ่มฝึกวิชากระบี่แสงเหนือและวิชาท่าร่างเงาเศษสิบช่อง

มีวิชากระบี่ฟ้าแลบและวิชาดาบเร็วเป็นที่พึ่ง หลัวซิวเข้าใจวิชากระบี่แสงเหนือได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ก็ได้เข้าใจประเด็นหลักของขั้นปฐมภูมิ

วิชากระบี่แสงเหนือแบ่งเป็นสามกระบวนท่า แยกเป็นกระบี่สะท้อนแสง กระบี่พรากชีวี กระบี่แสงเหนือ

สามกระบวนท่าเป็นไปตามนี้ กระบวนท่าหนึ่งมีพลังสูงกว่าอีกกระบวนท่าหนึ่ง หลัวซิวใช้เวลาทั้งวัน ก็เพียงเข้าใจกระบี่สะท้อนแสงขั้นต้นเท่านั้น

ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็เริ่มฝึกฝนวิชาเงาเศษสิบช่อง นึกผังลายเส้นชีวิตอยู่ในหัว พัฒนาวิชายุทธ์ทั้งสองนี้

ส่วนเรื่องกำลังภายใน ถึงแม้ว่าพลังหยางบริสุทธิ์จะเป็นระดับ3 ขั้นสุดยอด ทว่าในความเป็นจริงผลลัพธ์ที่แท้จริงสามารถทัดเทียมกำลังภายในระดับห้า เพียงแค่ยากที่จะฝึกฝน ดังนั้นถึงถูกจัดให้อยู่ในระดับสาม

รอจนผลการฝึกตนถึงชี่ไห่ระดับ7 หลัวซิวก็จะสามารถฝึกพลังพรสวรรค์ ผสมผสานกับพลังหยางบริสุทธิ์ ฝึกฝนพลังหยางบริสุทธิ์พรสวรรค์

โดยไม่รู้ตัว หลัวซิวหมกมุ่นอยู่กับการบรรลุความลึกซึ้งของวิชายุทธ์ เขาเข้านอกสำนักเซียวเหยามา เป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว

ในช่วงเวลานี้ เข้าได้ฝึกฝนวิชาเงาเศษสิบช่องจนถึงแดนบรรลุผล สามารถแยกเงาร่างออกมาได้ถึงเจ็ดสาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ