หวางฮุยและหลูเฟิงไม่กล้าขัดขวางอีก พวกเขารีบหลบทางให้อย่างรวดเร็ว ส่วนหลัวซิวเองก็เดินไปถึงด้านหน้าหอเก็บหนังสือเรียบร้อยแล้ว
ด้านหน้าของประตูหอเก็บหนังสือ หลัวซิวเห็นชายชราผมขาวไว้หนวดไว้เครากำลังนั่งไขว่ห้างอยู่ การต่อสู้กันระหว่างเขากับหวางฮุยและหลู่เฟิงก่อนหน้านี้ ชายชรากลับปิดตาตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้สนใจ
ความขัดแย้งและการต่อสู้กันระหว่างลูกศิษย์ภายในสำนักยุทธ์ ถือเป็นกฎของการคัดเลือกผู้อยู่รอดที่แข็งแกร่งและเหมาะสมวิธีหนึ่งของสำนักยุทธ์ ขอเพียงไม่ถึงแก่ชีวิต สำนักยุทธ์ก็จะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่ง
ชายชราผู้นี้ เป็นผู้อาวุโสของสำนักยุทธ์ที่มีหน้าที่เฝ้าดูแลหอเก็บหนังสือ ในสายตาของหลัวซิว ลายเส้นชีวิตบนร่างกายของผู้อาวุโสท่านนี้ปรากฏเป็นสีเขียวที่ชัดเจนมาก
“ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์แดนพรสวรรค์ !” หลัวซิวหรี่ตาลง จากลายเส้นชีวิตที่เห็น เขาสามารถรู้ได้ทันทีว่าในร่างกายของผู้อาวุโสท่านนี้ มีพลังอันแข็งแกร่งซ่อนอยู่ ซึ่งเหนือกว่าอาจารย์ลู่ที่เป็นนักยุทธ์ในระดับแดนฝึกชี่ไห่หลายเท่าตัวนัก
“ลูกศิษย์ชั้นต้นหลัวซิวขอคารวะผู้อาวุโส” หลัวซิวทำความเคารพแล้วพูดว่า “ผลการฝึกตนของข้าผ่านการกลั่นร่างขั้น4แล้ว จึงอยากจะเข้าไปในหอเก็บหนังสือเพื่อเลือกรับวิชายุทธ์ระดับสองครับ”
ผู้อาวุโสของสำนักยุทธ์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เข้าจ้องมองไปที่หลัวซิวแล้วพยักหน้าพลางพูดว่า : “เข้าไปสิ”
“ขอบคุณครับผู้อาวุโส” หลัวซิวรับคำ จากนั้นจึงหันหลังเดินเข้าห้องสมุดไป
การต่อสู้กันระหว่างหลัวซิวกับหลูเฟิงและหวางฮุย ผู้อาวุโสของสำนักยุทธ์ท่านนี้คอยจับตาดูอยู่ตลอดเวลา การกลั่นร่างขั้น4สามารถเอาชนะการกลั่นร่างขั้น5ได้ ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจนัก สำหรับคนที่มีผลการฝึกตนอยู่ในแดนพรสวรรค์เช่นเขา การกลั่นร่างถือเป็นการฝึกตนที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้มากพอ
หอเก็บหนังสือของสำนักยุทธ์มีการรวบรวมตำราวิชายุทธ์เอาไว้มากมาย ได้ยินมาว่าวิชายุทธ์ระดับที่สูงที่สุดอยู่ในระดับ4 มีเพียงลูกศิษย์ที่ฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดของสำนักยุทธ์เท่านั้น ที่จะมีสิทธิ์ฝึกฝน
ราคาของวิชายุทธ์ระดับ4ก็แตกต่างจากระดับอื่น หากต้องการซื้อวิชาในสำนักยุทธ์ อย่างมากก็ซื้อได้ถึงเพียงแค่วิชายุทธ์ระดับ3เท่านั้น ส่วนวิชายุทธ์ระดับ4ไม่สามารถประเมินค่าได้ด้วยเงิน
สำหรับหลัวซิวแล้ว วิชายุทธ์ระดับ4ถือเป็นเรื่องที่ห่างไกลนัก หากเป็นเมื่อก่อน วิชายุทธ์ระดับ2ก็ถือเป็นความฝันอันสูงสุดของเขาแล้ว
หอเก็บหนังสือมีด้วยกันทั้งหมด3ชั้น ชั้นแรกเก็บวิชายุทธ์ระดับ1และ2 ส่วนชั้น2เก็บวิชายุทธ์ระดับ3 และชั้นที่สูงที่สุดเก็บวิชายุทธ์ระดับ4
หากอิงตามผลการฝึกตนของหลัวซิวซึ่งอยู่ในระดับการกลั่นร่างขั้น4 เขาสามารถเข้าไปเลือกรับวิชายุทธ์ในชั้นที่1ได้ ไม่ว่าจะเป็นกำลังภายใน ทักษะยุทธ์ วิชาท่าร่าง สามารถเลือกออกมาได้ประเภทละหนึ่งอย่าง
ในชั้นที่1 หลัวซิวเห็นลูกศิษย์ของสำนักยุทธ์ยืนอยู่จำนวนไม่น้อย ล้วนแล้วแต่เข้ามาในหอเก็บหนังสือเพื่อเลือกรับวิชายุทธ์
“ฝ่ามือผ่าลม หมัดเสือพิฆาต ท่าร่างปุยหลิว ท่าก้าวรับลม......”
มีเคล็ดวิชายุทธ์ให้เลือกมากมายหลากหลายประเภท เมื่อมองแล้วก็ชวนให้รู้สึกตาลาย
เคล็ดวิชายุทธ์ทั้งหมดถูกจัดแบ่งออกไปตามเขต โดยแบ่งออกเป็นเขตวรยุทธ์ เขตทักษะยุทธ์ และเขตวิชาท่าร่าง
หลังซิวไปที่เขตวรยุทธ์เป็นที่แรก ส่วนมากล้วนแล้วแต่เป็นวรยุทธ์ระดับ1 มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นวรยุทธ์ระดับ2
วรยุทธ์ในระดับล่างส่วนใหญ่จะไม่แตกต่างกันมากนัก หลัวซิวเลือกกำลังภายในระดับ2ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเป็นการฝึกเส้นเอ็นและกระดูก
วรยุทธ์นี้เหมาะสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ที่กำลังอยู่ในขั้นพัฒนาการฝึกเส้นเอ็นและกระดูก สามารถฝึกตนจนถึงการกลั่นร่างระดับ6ได้
ในนั้นจะมีการฝึกเชื่อมโยงไปถึงเส้นลมปราณและจุดฝังเข็มบางส่วน ซึ่งมีพื้นฐานของกำลังภายในที่แข็งแกร่งและพัฒนาไปได้ก้าวไกลมากกว่าการฝึกตนระดับหนึ่งของหลัวซิวก่อนหน้านี้
จากนั้นหลัวซิวจึงเดินมาที่เขตทักษะยุทธ์ ในทักษะยุทธ์ระดับที่1และ2 ส่วนมากจะเป็นวิชายุทธ์ที่เกี่ยวกับการใช้หมัด เท้า และฝ่ามือ ส่วนทักษะยุทธ์ที่ต่อสู้โดยใช้อาวุธ โดยปกติแล้วจะอยู่ในระดับ3ขึ้นไป
การฝึกวิชายุทธ์ควรค่อย ๆ ฝึกไปตามขั้นตอน เพราะก่อนหน้านี้เขามีพื้นฐานในการฝึกหมัดกระทิงบิ่น ดังนั้นทักษะยุทธ์ระดับ2ที่หลัวซิวเลือกจึงเป็นวิชาหมัดประเภทหนึ่งเช่นเดียวกัน มีชื่อว่าหมัดเสือมังกร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...