“ไอ้ห่าเอ้ย ไอ้เวรนี่มันโอหังเกินไปแล้ว!” มีจอมยุทธ์คนหนึ่งจากเผ่าปีศาจร้ายอยากก้าวไปข้างหน้า แต่กลับถูกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังดึงไหล่เอาไว้ “เจ้าดาซีมันมีพลังเท่ากับมหายุทธ์ขั้นสุดยอดแล้ว นอกเสียจากว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเจ้ายุทธจักรที่ชั้นสองของหอคอยเทวแล้ว เจ้าเข้าไปก็ทำได้แค่เพียงมอบแต้มคุณความดีให้มันเท่านั้น”
หลัวซิวได้ยินบทสนทนานี้ ในใจก็รู้สึกสั่นระรัวขึ้นมา ดูแล้วทั้งสามชั้นของทุก ๆ หอคอยเทว คือแบ่งตามผลการฝึกตน
ชั้นที่หนึ่งต่างเป็นแดนมหายุทธ์ ชั้นที่สองคือเจ้ายุทธจักร เช่นนั้นชั้นสูงสุดชั้นที่สาม ก็น่าจะต้องเป็นเขตแดนของผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว
ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ในโลกเชิ่งถิงนั้นมีจำนวนเพียงน้อยนิดเท่านั้น หลัวซิวคาดการณ์ว่าที่ชั้นสามต้องไม่มีความคึกคักเท่ากับอีกสองชั้นด้านล่างอย่างแน่นอน
สำหรับคู่ต่อสู้ของแดนมหายุทธ์ หลัวซิวไม่ได้มีความสนใจใด ๆ แม้แต่น้อย เช่นนั้นจึงได้วางแผนว่าจะหาทางขึ้นไปที่ชั้นสองแทน
ที่ตำหนักเทวมืด ไม่นานนักหลัวซิวก็หาบันไดทางขึ้นไปชั้นที่สองเจอแล้ว
แต่ด้านหน้าของทางขึ้นบันได กลับมีจอมยุทธ์สองคนที่สวมชุดสีดำยาว รอบตัวแผ่กระจายไปด้วยออร่าแห่งกฎเทวมืดคอยเฝ้ารักษาอยู่
“เจ้าหนุ่ม แต้มห้วงกระบี่ของเจ้าไม่เพียงพอที่จะขึ้นไปชั้นสองได้”
เมื่อเห็นว่าหลัวซิวเดินเข้ามา ชายชราชุดดำคนหนึ่งก็เอ่ยปากพูดด้วยเสียงแหบพร่า
หลัวซิวรับรู้ได้ถึงตัวสำนึกที่กวาดมายังตราประทับบริเวณหน้าอกของเขา เห็นได้ชัดว่าอยู่ที่นี่ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลในตราประทับของผู้อื่นได้
“ไม่ทราบว่า จำต้องมีแต้มห้วงกระบี่เท่าใดจึงจะสามารถขึ้นไปที่ชั้นสองได้หรือ?” หลัวซิวเอ่ยปากถาม
“สามร้อยแต้มห้วงกระบี่” ชายชราชุดคลุมสีดำเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงรำคาญใจ
“เจ้าหนุ่มคนนี้ดูแล้วน่าจะเพิ่งเข้ามาใหม่ มีเพียงแค่ผลการฝึกตนระดับมหายุทธ์ช่วงกลางแต่กลับอยากขึ้นไปที่ชั้นสอง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...