วันถัดมา งานแถลงข่าวจัดขึ้นตามกำหนดการณ์
สถานเสริมความงามระดับต่างๆที่เหมือนกับสปาหรงเหมยกับสปาเชียนเหยียน ในทุกปีจัดงานสมนาแลกเปลี่ยนกันหนึ่งครั้ง ซึ่งเรียกอีกอย่างว่างานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากจะปรับปรุงอิทธิพลของผลิตภัณฑ์ในเมืองแล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับอุตสาหกรรมความงามชั้นนำและครอบครัว
สปาหรงเหมยกับสปาเชียนเหยียนเป็นสถาบันเสริมความงามยักษ์ใหญ่ ดูไปแล้วเหมือนจะเป็นมิตรปรองดองกัน แต่ความเป็นจริงแล้วแต่แท้จริงแล้วพวกเขามักจะแข่งขันกันอย่างลับๆ ใครๆก็อยากเป็นร้านเสริมสวยชั้นนำทาง ดังคำกล่าวที่ว่าเสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ เมื่อสองยักษ์ใหญ่เข้าห้ำหั่นกัน ต้องมีคนจำนวนไม่น้อยคอยดูอย่างแน่นอน
ครั้งนี้ สถาบันเสริมความงามทั้งสองเลือกที่จะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคลับความงามทั้งสองแห่งเลือกที่จะเปิดตัวในเวลาเดียวกันและที่เดียวกัน และสิ่งที่พวกเขาเปิดตัวคือผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็น
มีข่าวลือมากมายว่า ผู้บริหารระดับสูงของสปาหรงเหมยมีการเปลี่ยนแปลง นำความลับของบริษัทเข้าร่วมกับสปาเชียนเหยียน ดังนั้นครั้งนี้ สปาเชียนเหยียนจึงจงใจแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกับสปาหรงเหมย ต่อหน้าของผู้มีศรีทุกท่าน เพื่อตอกหน้าในครั้งนี้
แต่สปาหรงเหมยกับนิ่งเฉย ยังคงจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อไป และยังเปิดเผยต่อภายนอกว่า เพื่อเป็นการแสดงว่าผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็นของพวกเขา มีผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ดังนั้น งานแถลงข่าวในครั้งนี้ มีตระกูลผู้ลากมากดีนับไม่ถ้วนต่างพากันมาที่นี่
นอกจากจะมาเพื่อดูความครื้นเครงแล้ว ยังมีเศรษฐินีไม่น้อยมาเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ลบรอยเป็น
มู่เซิ่งตื่นเช้ามา ก็เห็นเจียงหว่านออกไปทำงานอย่างสดชื่นมีชีวิตชีวาแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ยังเตรียมอาหารเช้าไว้เต็มโต๊ะด้วย แต่กลับไม่รู้ว่าจ้าวหลินไปไหน คาดว่าน่าจะไปหาจางเหวินเจี๋ย มู่เซิ่งไม่อยากคิดอะไรมาก ถึงอย่างไรหากจางเหวินเจี๋ยกล้ามาหาเรื่องเขาอีก เขาจะทำให้จางเหวินเจี๋ยเสียใจ ว่าทำไมเขาจะต้องเกิดมาในโลกนี้อย่างแน่นอน
“ไปโรงแรมไป่ถัง”
มู่เซิ่งพูดกับคนขับรถแท็กซี่
โรงแรมไป่ถัง เป็นทรัพย์สินของตระกูลอู๋ จงใจใช้เป็นสถานที่จัดงานแถลงข่าว เพื่อเป็นการสนับสนุนสปาเชียนเหยียน
ถึงแม้ว่า สปาเชียนเหยียนจะเป็นธุรกิจที่อู๋เยว่เปิดเล่นๆ แต่เขาก็ได้บริหารบริษัทที่มูลค่าหกถึงเจ็ดพันล้านเชียวนะ ถึงแม้จะเยอะมาก แต่ตระกูลอู๋ยังคงให้การสนับสนุนเขาตามความเหมาะสม
“น้องชาย นายไปนั่งแกร่ว ที่โรงแรมไป่ถังหรอ?”คนขับรถแท็กซี่กล่าว เช้าวันนี้ เขาพาผู้ชายจำนวนไม่น้อยไปนั่งแกร่วที่โรงแรมไป่ถังหลายคน
“นั่งแกร่ง?หมายความว่าไงครับ?”มู่เซิ่งถาม
“นั่นเป็นงานแถลงข่าวของสปาหรงเหมยกับสปาเชียนเหยียน ในงานแถลงข่าวทุกปี พวกเขาจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา มีจำนวนจำกัดหนึ่งร้อยชิ้น ดังนั้นในทุกปี จะมีนักเก็งกำไรนับไม่ถ้วนเข้าคิวที่ประตูเพื่อแย่งชิงผลิตภัณฑ์”คนขับแท็กซี่พูดปนตลก
ผลิตภัณฑ์ความงามเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่สุภาพสตรี อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของสปาหรงเหมย ถึงจะขายแพงแค่ไหนก็มีคนซื้อ หากราคาเปิดตัวผลิตภัณฑ์คือสองหมื่น ในตลาดของนักเก็งกำไรจะไปถึงหนึ่งแสน แต่ก็มีผู้หญิงเยอะมากที่พากันแย่งซื้อ กำไรน่าทึ่งมาก ถึงว่าทำไมมีนักเก็งกำไรมากมายรออยู่ที่งานทั้งวัน
“พี่ครับ ผมไม่ได้มาแย่งสินค้าหรอกครับ”มู่เซิ่งตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าคนขับจะเห็นว่าเขาเป็นนักเก็งกำไร จึงอดที่จะเผยรอยยิ้มกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ไม่ใช่นักเก็งกำไร?แล้วนายไปที่นั่นทำไม?”
“ผมได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานแถลงข่าวครับ”มู่เซิ่งกล่าว
“นายจะเข้าร่วมงานแถลงข่าว?”คนขับหันกลับไปมองมู่เซิ่ง แล้วอดขำไม่ได้“น้องชาย พูดตามตรงนะ ฉันไม่ได้ดูถูกนายนะ งานแถลงข่าวหรงเหมย คนที่เข้าร่วมได้ต้องมีฐานะมากๆนะ คนที่สวมเสื้อผ้าธรรมดาๆอย่างนาย นั่งแท็กซี่ไปงาน ฉันพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเนี่ยแหละ”
“นี่ลูกพี่ ผมไม่ได้ล้อเล่นจริงๆนะ คุณขับเร็วหน่อยได้ไหมครับ ผมจะต้องขึ้นเวทีนะ”มู่เซิ่งพูดอย่างขำๆ
คนขับรถชูนิ้วโป้งให้กับมู่เซิ่ง แล้วพูดว่า“ฉันยอมใจแล้ว นายเป็นคนแรกที่ฉันเห็นว่าขี้โม้เก่งขนาดนี้ ใครไม่รู้บ้างว่า มีแค่คนที่รับผิดชอบสปาหรงเหมยกับสปาเชียนเหยียนเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ขึ้นไปบนเวที?”
“นายคงไม่ใช่ หนึ่งในชื่อของเจ้าของสปามีชื่อนายหรอกนะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...