มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 162

“โอ้ ขยะอย่างพวกเธอสองคนก็มาซื้อของที่นี่ด้วยเหมือนกันหรือ?”

เฉินเสว่หัวเราะลั่นพลางกล่าว การแต่งการบนร่างเธอ สวมใส่แว่นตาสีทอง ต้องการของล้ำค่ามากแค่ไหนก็มีของล้ำค่ามากเท่านั้น ดูท่าแล้วหลังเจียงมู่หลงได้เงินเก้าร้อยห้าสิบล้านไปแล้ว ก็ให้เงินในครอบครัวของเขาไปเยอะมากเลยสินะ

“ฉันมาที่นี่จะซื้อหรือไม่ซื้อของ มันเกี่ยวอะไรกับคุณหรือคะ?” เจียงหว่านกล่าวอย่างเย็นชา

หลังถูกพุ่งเป้าจากตระกูลเจียงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้เรื่องราวของเจียงเทาฉินก็ทำให้เธอมองตระกูลเจียงทั้งตระกูลออกทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมีต่อตระกูลเจียง มันได้มลายหายไปตั้งนานแล้ว

“เธอซื้อของไม่ไหว มีสิทธิ์อะไรมาที่นี่?” เฉินเสว่เย้ยหยันหนึ่งเสียง ชี้นิ้วไปยังผ้าคลุมหน้าเจียงหว่านพลางกล่าว “เจียงหว่าน เธอปกปิดใบหน้า หรือกลัวว่าขโมยของแล้วจะถูกคนจับได้ใช่หรือเปล่า?”

“เฮ้อ อันที่จริงเธอขอร้องฉันสักสองสามประโยค ให้ฉันซื้อเสื้อผ้าให้เธอพอเอาไปวัดไปวาสักชุด มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เหมือนกันนะ ในเมื่อครอบครัวของพวกเรามีเงินนี่นา”

หลังเฉินเสว่กล่าวมาจนถึงตอนสุดท้าย อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างลำพองตนออกมา

หลังเจียงมู่หลงได้เงินกู้หลายร้อยล้านนั่นไปแล้ว จู่ ๆ ครอบครัวของพวกเขาก็มีเงินกันขึ้นมา มีเงินจนกระทั่งไม่รู้ว่าควรที่จะใช้จ่ายอย่างไรแล้ว เฉินเสว่ทำให้ตนเองแปรเปลี่ยนเป็นคุณนายมั่งมีทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รถหรูและคฤหาสน์ กระเป๋าแบรนด์เนมต่าง ๆ สิ่งของทุกสิ่งทุกอย่างล้วนซื้อเข้าบ้านทั้งสิ้น ไม่แคร์เลยแม้แต่นิดเดียวเช่นกัน

ตอนนี้เสื้อผ้าธรรมดาสามัญตัวหนึ่งของเขา ก็ต้องใช้เงินหลายหมื่น สิ่งของที่เจียงหว่านสวมใส่ในสายตาเธอนั้น มันราวกับขยะเลยก็ไม่ปาน

“ฉันไม่ต้องการให้คุณซื้อของให้ค่ะ ตัวฉันหาเงินพอจ่ายเองได้!”

เจียงหว่านขมวดคิ้วพลางกล่าว

“ฮ่า ๆ ฉันดูเธออิจฉาก็คืออิจฉาสิ ยังบอกว่าชอบใช้เงินที่ตัวเองหามาได้อีก ภายในหัวใจของเธอคงริษยาฉันจะตายอยู่แล้วกระมัง?” เฉินเสว่หัวเราะร่าพลางกล่าว “แต่นี่ล้วนต้องดูที่ชะตากันทั้งนั้น สิ่งของเหล่านี้ ถึงแม้ว่าเธอจะตรากตรำมาทั้งชีวิต มันก็จะไม่มีทางเป็นของเธอหรอก ยกตัวอย่างเช่นตำแหน่งผู้นำตระกูล แล้วก็สร้อยเส้นนี้”

พูดจบ เฉินเสว่ก็หยิบสร้อยอัญมณีที่ทรวงอกเส้นนั้นออกมา กล่าวอย่างโอหังลำพองตนว่า “เจียงหว่าน เธอรู้ไหมว่าสร้อยเส้นนี้ราคาเท่าไหร่?”

“สิบล้าน สร้อยเส้นนี้ราคาตั้งสิบล้านเต็ม ๆ เชียวนะ! สร้อยราคาแพงแบบนี้ เกรงว่าทั้งชีวิตนี้เธอเองก็คงไม่เคยลูบคลำสักครั้งเลยกระมัง?”

“ฮ่า ๆ ๆ”

เจียงหว่านบันดาลโทสะจนมือสั่นเทา เฉินเสว่ผู้นี้มีท่าทีคนชั่วโอหังลำพองตนอย่างคลาสสิก เธอคร้านจะต่อปากกับเธอ หมุนตัวหันไปกล่าวกับมู่เซิ่งว่า “สามี พวกเราไปกันค่ะ”

ฉากทั้งหมดนี้ ดูจนมู่เซิ่งคิดอยากหัวเราะ เขาเปิดปากกล่าวอย่างราบเรียบว่า “เพลิดเพลินกับวันเวลาไม่กี่วันสุดท้ายที่คุณสามารถใช้เงินไปเถอะครับ รอเมื่อถึงตอนที่ธนาคารต้องการเงินแล้ว ในตอนที่คุณไม่มีเงินอ้วกออกมา ไม่รู้ว่าภายในหัวใจจะมีความคิดอะไรได้บ้าง”

“แก แกมันแค่ไอ้ขยะคนหนึ่ง แต่กลับกล้าด่าแช่งฉันหรือ?”

เฉินเสว่บันดาลโทสะ ชี้มู่เซิ่งพลางก่นด่ายกใหญ่

มู่เซิ่งยกยิ้มราบเรียบหนึ่งหน ก่อนจะเดินออกจากประตูกับเจียงหว่านสองคน

เฉินเสว่ขบฟันแน่น ทว่าเธอเอาชนะมู่เซิ่งไม่ได้ ทำได้เพียงแค่จ้องเขม็งมองดูเขาจากไปเท่านั้น สุดท้ายก็สะบัดมือด้วยความโกรธไปหนึ่งหน ส่งเสียงหึเย็นชาว่า “ไอ้ขยะ ครอบครัวพวกแกไม่มีเงินก็ทำได้แค่ก่นด่าสองประโยคเท่านั้นเหมือนกันละนะ ช่างน่าขันเสียจริง”

พูดจบ เธอหันศีรษะกลับไป มองเห็นพนักงานเหล่านั้นที่ยังคงยืนดูละครกันอยู่จึงก่นด่าว่า “ยังไม่รีบเอาเสื้อผ้าออกมาอีกหรือ? ไอ้พวกกลุ่มคนจน!”

พนักงานรีบก้มศีรษะลงกันทั้งที ไปค้นหาเสื้อผ้ากันแล้ว คนมีเงินเหล่านี้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ท่าทางโอหัง เดิมก็ไม่นำพวกเธอไปวางเอาไว้ในสายตาเลย

ทว่าพวกเขาเองก็ไร้หนทาง คุณนายมั่งมีคล้ายเฉินเสว่ที่เป็นสตรีพรรค์นี้ หากร้องเรียนพวกเขาเข้าละก็ งานของพวกเธอก็ล้วนรักษากันเอาไว้ไม่ได้แล้ว

หลังส่งเจียงหว่านกลับบ้านแล้ว มู่เซิ่งไปที่บริษัทด้วยตนเอง เพราะใบหน้าของเธอได้รับบาดเจ็บ ในช่วงนี้ ไม่ว่าจะกล่าวอะไรมู่เซิ่งก็ไม่อนุญาตให้เจียงหว่านไปทำงานอีกแล้ว

เจียงหว่านโต้แย้งมู่เซิ่งไม่ได้ และในช่วงนี้เธอเหนื่อยมากเกินไปแล้วจริง ๆ ดังนั้นจึงพยักหน้าหงึกหงัก ตัดสินใจแล้วว่าจะพักผ่อนอยู่บ้าน

อย่างไรเสียเรื่องราวของบริษัทมู่เซิ่งเองก็ทราบเช่นเดียวกัน เธอจึงส่งมอบให้มู่เซิ่งไปทำอย่างเบาใจ

เช้าวันที่สอง เธอพึ่งลุกจากเตียง กำลังนั่งบนโต๊ะอาหารและดื่มโจ๊กอยู่ ก็มองเห็นจ้าวหลินเดินลงปากบันไดมาด้วยท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ นั่งลงข้างกายเจียงหว่าน ถามกระซิบกระซาบว่า “มู่เซิ่งละจ๊ะ?”

“เขาไปบริษัทแล้วค่ะ” เจียงหว่านประคองโจ๊กดื่มหนึ่งอึกพลางกล่าว

ได้ยินคำนี้แล้ว จ้าวหลินจึงผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ หนึ่งหน

หลังประสบกับเรื่องนั่นแล้ว เมื่อคืนวานเธอนอนไม่ดีตลอดทั้งคืน กลัวว่ามู่เซิ่งจะสังหารเธอเข้า หลังรวบรวมความกล้ามาตั้งแต่เช้าตรู่เสร็จแล้วถึงออกมาได้ กล่าวถามเจียงหว่านอย่างระมัดระวังว่า “มู่เซิ่งเขามีสถานะอะไร ลูกได้ถามหรือเปล่า?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง