เจียงมู่หลงได้ยินการก่นด่าต่อว่าของเครือญาติตระกูลเจียงจึงกัดฟันแน่น สบตามองทุกคนอย่างเยือกเย็น “เป็นความผิดของผมหรือ? หรือพวกคุณไม่ได้ใช้เงินเลย? ตอนนี้ต้องคืนเงินแล้ว แต่พวกคุณกลับเริ่มตำหนิผมกันขึ้นมาทีละคน ต้องคืนเงิน? ได้สิครับ เอาส่วนแบ่งก่อนหน้านี้ที่ผมให้พวกคุณออกมาเหมือนกันสิครับ!”
ทุกคนตระกูลเจียงที่ก่นด่าสาปแช่งเหล่านั้นพลันไม่กล่าวคำทันที
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้กันดุเดือดเหมือนอย่างครอบครัวของเจียงมู่หลง แต่เกือบทุกคนก็เอาสองสามล้านออกมากันแล้ว บวกเพิ่มแล้วก็ราว ๆ หลายสิบล้านแล้วเหมือนกัน เงินเหล่านี้พวกเขาไม่ได้ประหยัดใช้ หากต้องคืนตอนนี้ จะสามารถเอาออกมาได้อย่างไรกัน?
“ให้เวลาพวกคุณสามวัน หากไม่เอาเงินออกมา ก็รอไปนั่งในคุกเถอะครับ” ประธานหลี่หยางกล่าว “หากพวกคุณคืนเงินแล้ว ทนายของผมก็จะค่อย ๆ บอกกับพวกคุณว่าเงินชดเชยในการกู้ครั้งนี้ พวกคุณจะได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวนเท่าไหร่”
“สาม สามวันหรือครับ?”
ใบหน้าของเจียงมู่หลงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เวลาสั้นมาขนาดนั้น เขาจะเอาเงินออกมาได้อย่างไรกันเล่า
ส่วนเงินชดเชยหลังจากการคืนเงินแล้วนั้น เขาไม่ต้องคิดก็ทราบดีเช่นกัน อ้างอิงจากเบื้องหลังของธนาคารเจียงหนาน ค้างจ่ายสี่ห้าปีก็ล้วนไม่เป็นปัญหา แต่เมื่อถึงตอนนั้นตระกูลเจียงของพวกเขาก็ไม่มีแล้ว ยังจะมีใครสามารถได้รับเงินชดเชยได้อยู่อีกกัน?
ทว่าสถานการณ์ ณ ตอนนี้ หากเขาไม่ตกปากรับคำละก็ เกรงว่าประธานหลี่หยางคงจะให้เขาสวมชุดนักโทษตอนนี้เลยกระมัง
“ผมทราบแล้วครับ ประธานหลี่หยาง พวกเราจะสมทบเงินเหล่านี้ให้ได้แน่ครับ” เจียงมู่หลงพยักหน้าขึ้นลงอย่างกล้ำกลืน
“ได้ครับ ผมจะรอคุณ ภายในสามวัน นำเงินโอนเข้าในบัญชีเจียงหว่านนะครับ” หลี่หยางกล่าว
เจียงหว่านหรือ?
ทำไมต้องโอนเข้าในบัญชีของเจียงหว่านด้วย?
“มีสิทธิ์อะไรกัน เงินเหล่านี้มาจากการกู้ธนาคารเจียงหนาน ทำไมต้องโอนเข้าบัญชีเจียงหว่านด้วยล่ะ?”
“หรือจะบอกว่าเจียงหว่านกับประธานหลี่มีผลประโยชน์ต่อกัน?”
“เป็นไปได้เป็นอย่างมาก ในตอนนั้นที่เจียงหว่านไปกู้เงินจากในธนาคารมาได้ถึงพันล้านฉันก็สงสัยแล้ว เธอมีสิทธิ์อะไรที่จะมีความสามารถเช่นนี้ได้? ตอนนี้ดูท่าแล้ว ที่แท้ก็มีความสัมพันธ์กับหลี่หยางสินะ”
เมื่อได้ยินพี่น้องแซ่เจียงเหล่านั้นเปิดปาก เจียงมู่หลงขมวดคิ้วแน่น ในใจอดที่จะเกิดความสงสัยเอาไม่ได้ เรื่องราวที่ เฝิงจงเหลียงยกเลิกโครงการ เขาทำให้พี่น้องแซ่เจียงเหล่านั้นไม่สามารถแพร่ข่าวลือออกไปข้างนอกได้ ทว่าหลี่หยางกลับทราบได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้เสียแล้ว แถมยังมาหาถึงหน้าประตูอีก หนึ่งในนั้น หากไม่ใช่เจียงหว่านบอกความลับ เขาล้วนไม่เชื่อ!
“ประธานหลี่หยาง ทำไมคุณจะนำเงินเหล่านี้ โอนให้กับเจียงหว่านไปทั้งหมดหรือครับ?” เจียงมู่หลงเอ่ยถาม
“เงินเหล่านี้เป็นเงินที่ผมให้เจียงหว่านกู้ ย่อมต้องเก็บคืนจากในบัญชีของเธออยู่แล้วครับ ส่วนเมื่อไหร่ผมจะนำเงินไปจากในบัญชีของเธอไปนั้น จำเป็นที่ต้องรับฟังความคิดเห็นของคุณด้วยหรือ?” หลี่หยางกล่าวอย่างเยือกเย็น
แม่ง!
โอนเข้าบัญชีเจียงหว่าน แถมยังบอกว่าขอดูอารมณ์ที่จะเก็บกลับคืนอีก นี่เห็น ๆ กันอยู่ว่าเป็นการให้เงินเจียงหว่านชัด ๆ! นี่มันจะอำนวยความสะดวกให้เธอมากเกินไปแล้ว
เจียงมู่หลงกัดฟันแน่น ทว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับหลี่หยาง ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่กดมันเอาไว้ที่ก้นบึ้งหัวใจเท่านั้น
“หากสามวันหลังจากนี้ผมไม่เห็นเงินแล้วละก็ พวกคุณก็รอไปคุกเถอะครับ!”
หลังหลี่หยางกล่าวจบก็หมุนตัวจากไป
เครือญาติตระกูลเจียงเหล่านั้นทยอยกันนั่งลงบนตำแหน่งทีละคน สีหน้าไม่น่าดูราวกับกินแมลงวันเข้าไปเลยก็ไม่ปาน บรรยากาศในห้องโถงประชุมกดดันบีบคั้นคน
“สามีคะ พวกเราควรทำอย่างไรกันดีละคะ?” เฉินเสว่เอ่ยถามอย่างลนลาน
สายตาดุดันของเจียงไห่เชาสบตามองเฉินเสว่กับเจียงมู่หลงไปหนึ่งหน หากไม่ใช่เพราะพวกเขาทั้งสองคนใช้เงินไปแล้วมากขนาดนั้นแล้วละก็ ปัญหานี้เดิมทีก็ไม่มี ตอนนี้เขาเสียใจในภายหลังแล้วจริง ๆ ที่ไม่ควรนำเงินก้อนนี้มาจากมือของเจียงหว่าน
“ต่อสายโทรศัพท์หาเจียงหว่าน บอกเธอไป บอกว่าได้เงินก้อนนี้มาแล้ว!” หลังครุ่นคิดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆ เจียงไห่เชาก็กล่าวโพล่งขึ้นมา
ได้ยินคำนี้แล้ว ดวงตาของเจียงมู่หลงพลันเปล่งประกายทันที
ใช่สิ
ในเมื่อเงินนี้ต้องโอนให้กับเจียงหว่าน ขอเพียงแค่ให้เจียงหว่านบอกกันหลี่หยางเท่านั้น บอกว่าได้รับเงินแล้วก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือไง?
ไม่นานนักเจียงมู่หลงถือโทรศัพท์มือถือขึ้น ก่อนจะต่อสายโทรศัพท์หาเจียงหว่านแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...