“คนต่อไป!”
มู่เซิ่งแบะปากยิ้ม
หยิ่งผยอง ห้าวหาญ ไร้เทียมทาน!
นาทีนี้ เขาผู้ที่ยืนอยู่บนสังเวียน ดูเสมือนหนึ่งได้กลับสู่สมรภูมิในการสงครามชายแดน เทพแห่งหน่วยมังกร! ที่ข้าศึกศัตรูได้ยินก็หัวหดขวัญหาย
ปึง!
ถูกความหยิ่งผยองของมู่เซิ่งกระตุ้นต่อมความโกรธขึ้นมา ไป๋เมี่ยนเซียวกระแทกกำปั้นอย่างหนัก ใส่ลงกับราวระเบียง คำรามออกมาลั่น "พวกขยะ!พวกขยะทั้งฝูง!"
เขาก็ได้สั่งไว้ชัดเจนว่าให้พวกเขาใช้วิธีดึงเกมเป็นหลัก บั่นทอนกำลังมู่เซิ่งให้หมด สรุปไอ้ขยะพวกนี้ กลับให้มู่เซิ่งอัดแค่หมัดเดียวจบ แบบนี้มันจะไปบั่นทอนกำลังมู่เซิ่งได้สักเท่าไหร่กัน พวกมันไม่ใช่ขยะ แล้วจะให้เรียกว่าอะไร?
“ไป๋เมี่ยนเซียว เพื่อความปลอดภัยของลูกน้องแก ฉันว่าแกควรจะรีบยอมแพ้ซะ” จางเสวียนหลงพูดด้วยยิ้มยียวน
เตาจั๋วก็ตื่นเต้นเต็มหน้ากับการที่ได้เห็นฉากนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเขาถูกพันด้วยผ้าก๊อซ น่ากลัวตอนที่มู่เซิ่งซัดหมัดนั้นออกไป เขาคงตื่นใจจนตบราวระเบียงลุกยืนขึ้นแล้ว!
“ชอบใจอะไรกันเชียว ใครจะเป็นคนหัวเราะได้ถึงจบนั้น ยังไม่แน่!”
ไป๋เมี่ยนเซียวสะบัดเสียงฮึ เยือก ๆ สายตามองกลับไปที่สังเวียนต่อ
ความแข็งแกร่งของมู่เซิ่ง ได้ทำให้เขาโกรธแค้นขึ้นมาสุด ๆ แล้ว ในใจไป๋เมี่ยนเซียวได้กำลังคิดอยู่ จะทำยังไงให้เขาอยู่เฝ้าบนสังเวียนนี้ไปตลอดกาล
ไม่นานนัก นักชกคนต่อไป เดินก้าวขึ้นสังเวียน
เขากุมมือทั้งสองยกขึ้นในท่าคำนับ มองไปที่มู่เซิ่ง พูดว่า “พี่น้องท่านนี้ พลังฝีมือของคุณไม่เบาจริง ๆ ผมชื่อหวางเหลียง เป็นหนึ่งในสิบยอดนักชกของสนามมวยแห่งนี้ ในครั้งนี้.....”
“ฉันขี้เกียจไปจดจำชื่อของพวกฝ่ายแพ้” มู่เซิ่งพูดตัดบท กวาดตาเยือก ๆ มองไป เงาร่างพุ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างกับกระสุนปืนใหญ่
สัมผัสได้กับพื้นสังเวียนที่สั่นไหว แววตาของหวางเหลียงแสดงออกถึงความรู้สึกเครียด ก็แค่วิ่งเข้ามา ก็ยังมีพลังออกมาถึงขนาดนี้ เจ้าหมอนี่มันมีต้นทุนที่ทำให้หยิ่งผยองได้จริง!
“แต่ฉันหวางเหลียง ไม่ได้ด้อยไปกว่าแกหรอก!”
พอจบคำที่เขาพูด ทันทีก็พบว่า มู่เซิ่งก็มาถึงข้างหน้าเขาแล้ว
อะไรจะเร็วขนาดนั้น!
หวางเหลียงสูดหายใจเอาลมเยือกเข้าไป ไม่ทันให้คิดอะไรได้ ยกแขนตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ไขว้แขนขวางไว้ที่หน้าอก แทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน แขนของเขาก็รับหมัดที่หนักหน่วงเข้าเต็ม ๆ
ปึง!
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงกระจายไปตามแขน หวางเหลียงทนไม่ไหว ระเบิดเสียงแห่งความเจ็บปวดออกมา เซถอยหลังไปหลายก้าวอย่างยืนไม่ติด สุดท้ายหน้ามืดวูบ ร่วงลงจากสังเวียนไปในที่สุด
หมัดเดียวออกไป
เหมือนเดิม ชัดเจนเฉียบขาด!
“โอ้โหเฮ้ย ไอ้คนนี้เป็นใครนะ?”
“ดุดันอะไรแบบนี้?ดุดันยิ่งกว่าคนที่มาท้าเมื่อวานนี้อีก ช่างเก่งฉกาจจริง ๆ เลย!”
“อีกทั้งยังหนุ่มอยู่ขนาดนี้ คิดไม่ถึงจริง ๆ ในเจียงหนานจะมีนักสู้แบบนี้!”
“ยอดเยี่ยมจริง ๆ เลย โชคดีที่วันนี้ได้ซื้อบัตรเข้ามาดู แค่ดูไปสองรายการที่ผ่านมา ก็คุ้มค่าบัตรแล้ว ฉันดูแล้วเลือดเดือดพล่านเลยอ่ะ!”
บริเวณเขตคนดูระเบิดเสียงตื่นเต้นกันเป็นระลอก โห่ร้องสลับกันไปมา กลบเสียงทั่วไปทั้งหมดในสนาม ถ้าในสนามมวยใต้ดินไม่มีกฎห้ามถ่ายรูป น่ากลัวตอนนี้คงต่างคนต่างควักโทรศัพท์มือถือกันออกมา เก็บภาพอันสะใจแต่ละฉากกันไว้แล้ว
“พวกคุณว่า เขาจะมีความคิดไหมว่า ตัวเขาคนเดียวจะท้าสู้กับคนทั้งสนาม?” ในฝูงคน จู่ ๆ ก็มีคนอดไม่ได้แล้วถามขึ้นมา
คำพูดนี้ ก็เหมือนโยนก้อนหินลงไปในสระน้ำ พาให้เกิดเสียงฮือฮากันทั่วไปในกลุ่มคน
มีคนส่ายหน้า แสดงออกว่าไม่เชื่อ “เขาถึงแม้จะเก่งฉกาจมาก แต่ลูกน้องของท่านเซียว ก็ไม่ใช่พวกระดับโนเนมนะ ยิ่งยังมีงูไวเปอร์อีก ขนาดคนที่มาท้าเมื่อวาน ยังโดนถล่มหักแขนหักขาแล้วจับโยนออกไปเลย คุณคิดว่าไอ้หมอนี่ จะสู้งูไวเปอร์ได้หรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...