อีกด้านหนึ่ง ห้องทำงาน จิวเวลรี่มู่เหม่ย
มู่เซิ่งกำลังนั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธาน ดูยอดขายที่เพิ่งขึ้นในช่วงนี้
นักอัญมณีศาสตร์ของตระกูลกู่ได้มาถึงเมืองเยียนจิงแล้ว ความวุ่นวายที่ขาดแคลนนักประเมินในครั้งนี้ผ่านไปแล้ว จิวเวลรี่มู่เหม่ยกลับมาอยู่ในลู่ทางที่ถูกต้องอีกครั้ง กำไรของแต่ละวันถึงแม้จะเยอะ แต่ยังห่างไกลจากความคาดหมายของมู่เซิ่ง
“ประธานมู่ หยกที่คุณเพิ่งเปิดออกช่วงนี้วางขายในงานประมูล ขายออกในราคาห้าสิบเจ็ดล้าน” เลขา หมี่รั่วอวี้รายงานอยู่ด้านข้าง ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่ตัวมู่เซิ่ง
หลายวันมานี้ ยิ่งรู้จัก เธอยิ่งรู้สึกถึงความลึกลับของมู่เซิ่ง
ชายตรงหน้าคนนี้ เหมือนกับมีตาทิพย์ สามารถมองทะลุคุณภาพของหยกทุกชิ้นได้ ต่อให้ไปเปิดหยกที่ร้านจิวเวลรี่มู่เหม่ยตามใจชอบ ก็ไม่มีชิ้นไหนที่ราคาต่ำกว่าสี่สิบล้าน!
นี่น่ามหัศจรรย์มาก!
และจุดนี้ ทำให้หมี่รั่วอวี้คิดหาวิถีทางเพื่อเอาใจมู่เซิ่งทุกวัน ในเมื่อความสามารถแข็งแกร่งขนาดนี้ ต่อให้เรียนรู้แค่ผิวเผิน ก็เพียงพอตลอดชีวิตเธอแล้ว
ในตอนนี้เอง ร่างในชุดคลุมสีดำ ผลักประตูเข้ามาช้าๆ แล้วเดินมากลางห้องทำงาน
ร่างชุดคลุมดำไม่เข้ากับห้องทำงานเป็นอย่างมาก แต่แทบไม่มีใครเห็นว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ รอให้ชายวัยกลางคนชุดคลุมดำยืนอยู่ตรงหน้ามู่เซิ่ง หมี่รั่วอวี้ถึงได้สังเกตเห็นร่างนี้ เธออดสูดหายใจเข้าไม่ได้
“คุณ คุณเข้ามาได้อย่างไรคะ?” หมี่รั่วอวี้ตกตะลึง
“เลขาหมี่ คุณออกไปก่อน” ดวงตาของมู่เซิ่งแข็งทื่อ โบกมือพูดขึ้น
ชายชุดคลุมดำคนนี้ ก็คือที่พึ่งพาที่ท่านพ่อของเขาได้เป็นผู้นำตระกูลมู่ ลุงหราน!
ถึงแม้ทั้งคู่จะเป็นนักเสวียน แต่ผู้อาวุโสยืนอยู่ตรงหน้ามู่เซิ่ง ออร่าที่เปล่งออกมาจากร่างกายของเขาเพียงพอที่จะทำให้มู่เซิ่งรู้สึกหวาดกลัว อย่างน้อยจากความสามารถของเขาในตอนนี้ หากลงมือ เขามีความมั่นใจที่จะชนะเพียงสามสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
เห็นน้ำเสียงของมู่เซิ่ง หมี่รั่วอวี้ไม่ได้พูดอะไร เธอพยักหน้า เดินออกไปปิดประตูห้องทำงาน
“ลุงหราน” มู่เซิ่งยืนขึ้น รินน้ำชาให้ชายชุมคลุมดำ
“มู่จงหยุนเป็นคนทำ” ลุงหรานไม่ได้ดื่มชา หลังจากทิ้งประโยคนี้ไว้ ก็เดินออกไป
เดินผ่านไปอย่างเงียบๆ แม้กระทั่ง หมี่รั่วอวี้ที่เพิ่งออกไปก็ไม่สังเกตเห็น ชายคนนี้ออกไปก่อนเธออีก
สำหรับการกระทำของลุงหราน มู่เซิ่งไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ ความทรงจำในวัยเด็กของเขา ลุงหรานเป็นคนที่เย็นชาเป็นอย่างมาก ถึงแม้ตอนเด็กจะดูแลเขา แต่เวลาหนึ่งเดือนก็พูดกันไม่กี่ประโยค
“มู่จงหยุน? เป็นเขาอีกแล้วเหรอ...”
มู่เซิ่งพึมพำ ในดวงตา เผยความอาฆาตหนักแน่น
ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เขาเดาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ทำให้มือของลูกชายเขาพิการ มู่จงหยุนจะต้องมาแก้แค้นแน่นอน แต่มู่เซิ่งคิดไม่ถึง มู่จงหยุนใช้การขายหินชุบเลือด มาดึงดูดความสนใจของเขา วิธีที่จะล่อให้เขาไปยังทุ่งกว้างแล้วฆ่าเขา
สถานะของเว่ยสวี่หรานที่แท้จริง น่าจะเป็นทหารรับจ้าง ในมือมีปืน กำลังจะลงมือกับมู่เซิ่ง
ไม่จัดการมู่จงหยุน ท้ายสุดก็จะเป็นหายนะ
เพียงแต่ ยังไม่ต้องรีบร้อน
ถึงแม้จงมู่หยุนจะจิตใจโหดเหี้ยม แต่ก็ไม่ยอมรับไม่ได้ว่า พรสวรรค์ด้านการบู๊ของเขาพลิกสวรรค์มาก ตอนนี้อายุสี่สิบปีกว่า กลับเป็นนักเสวียนคนที่สองของตระกูลมู่ เมื่อเป็นนักเสวียน ความสามารถก็จะเพิ่มสูงขึ้น เพียงพอที่จะสามารถเผชิญหน้ากับความสามารถของมู่เซิ่งได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...