เมื่อมู่เซิ่งได้ยินเช่นนี้ อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเล็กน้อย “ฉู่อีอีก็มาที่นี่ด้วยเหรอ?”
“แน่นอน ฮิฮิ แต่เป็นเพราะเมื่อวานเธอมีธุระกลับก่อนเวลา ตอนนี้กำลังถูกผู้จัดการอู่ดุด่า ไม่รู้ว่าสุดท้ายผลจะเป็นอย่างไร เฮ้ย ทั้งหมดเป็นเพราะผู้จัดการอู่คนนี้ทำเกินไปจริงๆ ตอนนี้กำลังเศร้าเสียใจอยู่ พี่มู่ พี่ต้องปลอบใจเธอดีๆนะ”
เมื่อพูดถึงผู้จัดการอู่หวังซินเอ๋อก็โกรธจนคันปาก แต่เธอก็ทำอะไรผู้จัดการอู่ไม่ได้ ได้แต่พูดกับมู่เซิ่ง
เธอยังอยากจะคุยกับมู่เซิ่งต่อ จู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสูทเรียกเธออยู่ที่หน้าประตู หวังซินเอ๋อแลบลิ้นใส่มู่เซิ่ง แล้วก็วิ่งออกไป
มู่เซิ่งขมวดคิ้ว เขาให้ค่าครองชีพฉู่อีอีเพียงพอไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังต้องมาทำงานที่นี่?
“พี่มู่ พี่ ทำไมพี่ถึงรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่”
ไม่นาน ท่ามกลางเสียงดังของดนตรีที่อยู่หน้าประตู ฉู่อีอีวิ่งเหยาะๆมา แก้มของเธอแดงๆ เธอมองมู่เซิ่งด้วยความประหลาดใจ ที่น่าแปลกก็คือมู่เซิ่งถึงกับหามาถึงที่นี่
ในขณะเดียวกันเธอถอยหลังด้วยความกลัว กลัวว่ามู่เซิ่งจะดุเธอที่เธอมาที่นี่
มู่เซิ่งไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ และพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่นัดเพื่อนมาที่นี่ แต่บังเอิญเจอหวังซินเอ๋อ เขาบอกว่าเธออยู่ที่นี่ ดังนั้นพี่เลยตั้งใจมาหาเธอ”
“ได้ยินว่าเธอโดนดุ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“มีเรื่อง จะมีเรื่องอะไรได้ล่ะ”
ฉู่อีอีหมอบหน้าที่หดหู่ลงบนโต๊ะ ดูเหมือนหมดอาลัยตายอยาก “เฮ้อ ฉันก็แค่ขอลางานโดยไม่ได้บอกเขาล่วงหน้า ก็ถูกหักเงินเดือนตั้งครึ่งเดือนทันที ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เหลียนรั้งฉันไว้ ฉันคงจะออกไปนานแล้ว”
“เธอมีธุระรีบร้อนอะไร ลางานโดยไม่บอกล่วงหน้า” มู่เซิ่งถามด้วยความแปลกใจ
โดยปกติ เรื่องอาหารเสื้อผ้าการเป็นอยู่ทุกอย่างเขาก็รับผิดชอบดูแลหมด เหตุใดฉู่อีอีจึงรีบเร่งทุกวันแบบนี้ ราวกับว่ามีเรื่องด่วนอะไร
"ก็เพราะว่าเรื่องนี้ด่วนเกินไปไง ฉันก็เลยไม่มีเวลาลางาน เฮ้อ ไม่อย่าพูดละ เดี๋ยวผู้จัดการอู่ก็จะมาแล้ว เพื่อไม่ให้ถูกดุ ฉันไปก่อนนะ”
ฉู่อีอีพูดจบ ก็ทำตัวให้กะปรี้กะเปร่า วิ่งเหยาะๆออกไป
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็วิ่งกลับมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ในมือเธอถือถาดผลไม้เล็กๆ เธอวางไว้ตรงหน้ามู่เซิ่ง และพูดด้วยรอยยิ้ม “หึหึ พี่มู่นี่เป็นถาดผลไม้ที่ฉันให้พี่ ในครัวทำไว้เยอะ ฉันแวะเอามาให้พี่ พี่รีบกินเร็วเข้า”
ฉู่อีอียิ้มและทำตาปริบๆให้มู่เซิ่ง จากนั้นเช็ดมือของเธอบนชุดทำงาน แล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ที่หน้าประตูพนักงานบริกรหวังลี่เห็นมู่เซิ่งกินถาดผลไม้ราคาถูก และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ คนแบบนี้เขาเคยเห็นมาเยอะ แทบไม่มีเงินอะไรเลย ยังคิดจะเรียนแบบทายาทคนรวยมาจีบสาวในบาร์ คนประเภทนี้ มักจะไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นคนจน
เธอก็ขี้เกียจไปสนใจ ในเมื่อ ไม่ว่าเธอจะดูถูกแค่ไหน เธอก็เป็นแค่พนักงานเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะขับไล่มู่เซิ่งออกไป
ในขณะที่มู่เซิ่งกำลังกินผลไม้อยู่นั้น หน้าประตูก็มีเสียงตะโกนด่า พร้อมกับเสียงกรีดร้องขอหวังซินเอ๋อ
มู่เซิ่งรีบวางถาดผลไม้ลง และเดินออกจากประตูห้องวีไอพี
“คุณหมายความว่าอย่างไร? กูก็แค่อยากให้เธอดื่มไวน์กับคุณชายจูสองแก้ว เธอก็ไม่ไป เธอก็ไม่ใช่ว่าดื่มเหล้าไม่เป็น แต่ละเดือนกูจ่ายเงินเดือนให้เธอเยอะขนาดนั้น ไร้ประโยชน์จริงๆ? รีบไปดื่มเป็นเพื่อนคุณชายจู ถ้าเธอกล้าชักช้า วันนี้กูก็จะตีเธอให้ตาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...