“มู่เซิ่ง อาหารค่ำวันนี้ คุณจัดการทำเองแล้วกัน” จ้าวหลินก็ได้พูดขึ้นอีกในตอนนี้ น้ำเสียงออกมาแบบเชิดได้สบาย ๆ
มู่เซิ่งรู้ดีอยู่ว่าจ้าวหลินชอบ อวดโอ่เอาหน้า อีกทั้งตอนนี้คนตระกูลจ้าวมาถึงเมืองเยียนจิง พักอยู่ที่คฤหาสน์ของพวกเขาที่นี่ ฉะนั้นต้องวางตัวให้ดูมีความเป็นเจ้าบ้าน มู่เซิ่งก็จึงขี้เกียจพูดอะไรให้มากเรื่อง ผงกหัวรับ แล้วก็ตรงออกจากบ้านไป
“พวกเธอสบายใจได้ ในบ้านนี้ ยังไงก็ฉันพูดคำเดียวรู้เรื่อง” จ้าวหลินมือตบอก รู้สึกได้หน้าเต็ม ๆ
เด็กหนุ่มซือเอินหรานผุดรอยยิ้มขึ้นในทันทีนั้น
แม้จ้าวลิ่วป๋อเองก็ผงกหัวด้วยความสบายใจ ถึงมู่เซิ่งจะร้ายกาจ แต่ก็ยังอยู่ในความควบคุมของจ้าวหลิน แสดงว่าลูกสาวของตนคนนี้มีสมรรถภาพมากใช้ได้
เจียงหว่านในขณะนี้ก็ได้เดินไปข้างหน้าจ้าวหลิน พูดเสียงเบา ๆ ว่า “แม่ มู่เซิ่งเขาให้หน้าคุณแม่นะ พอสมควรก็พอนะ แม่อย่าถึงขนาดใช้มู่เซิ่งแบบใช้คนรับใช้เลยนะ”
พูดจบ เจียงหว่านก็เดินตามมู่เซิ่งออกไป
“ฉันรู้แล้ว ฉันถึงยังไงก็เป็นแม่ยายนะ เรียกใช้หน่อยเดียวจะเป็นไรไป” จ้าวหลินบ่นอุบอิบสองสามคำ สุดท้ายโบกมือให้ออกไป วางมาดแบบคนระดับชี้นิ้วสั่งงาน
เหล่าบรรดาญาติตระกูลจ้าว ยิ่งรู้สึกซูฮกจ้าวหลินกันอย่างศิโรราบ
ให้รู้ไว้ว่า ครั้งนั้นในงานเลี้ยงวันเกิด ขนาดกลุ่มผู้ใหญ่อิทธิพลต่าง ๆ ก็ยังอยากคบหากับมู่เซิ่ง สุดท้ายต่อหน้าจ้าวหลิน ก็ยังต้องสยบอยู่อย่างสงบเสงี่ยม
“คุณน้าจ้าว ครั้งนี้ที่ผมมาเมืองเจียงหนาน ก็เพราะได้รับเชิญมาร่วมในกิจกรรมงานการกุศลของบ้านเอื้อเฟื้อ ฉะนั้นในช่วงนี้ต้องขออาศัยอยู่บ้านคุณน้าที่นี่ คุณน้าเห็นว่าสะดวกหรือไม่ครับ?” ถึงตอนนี้ซือเอินหรานก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้น
“ว่าง ว่างแน่นอน อีกทั้งพวกมู่เซิ่งเค้าก็จะไปงานบ้านเอื้อเฟื้อด้วย ช่วงนี้พวกเธอก็พักกันอยู่ที่นี่ได้เลย” จ้าวหลินผายมืออย่างเชื้อเชิญ พูดตามติดมาทันที
และในเวลานั้น ทุกคนก็วางใจสบายลง ต่างคนต่างขนสัมภาระเข้าไปในห้อง
มู่เซิ่งหันออกไปจากคฤหาสน์ ด้านหนึ่งเพราะไม่อยากดูคนตระกูลจ้าวพวกนั้นกระแนะกระแหนกันกับเขา อีกด้านหนึ่ง ก็เพราะเหยาเผิงที่อยู่เยียนจิงบอกมีธุระสำคัญต้องการพบเขา
ใกล้ ๆ นี้ ด้วยทางกลุ่มสมาพันธ์ได้มอบให้เหยาเผิงเข้ามาจัดการเรื่องเส้นทางน้ำและทางบก ธุรกิจต่างประเทศมากมายขนาดนั้น เป็นสิ่งเย้ายวนให้พวกโจรสลัดมืออาชีพด้านปล้นสะดมจ้องกันตาเป็นมัน ในตอนนี้ ก็ได้เตรียมพุ่งเป้าจัดการกับเรือสินค้าของเหยาเผิง
ประเด็นสำคัญคือพวกโจรสลัดเหล่านั้นวางอิทธิพลหากินกันมาเป็นเวลานานแล้ว กองกำลังที่มีอยู่นั้นไม่ธรรมดา พวกยอดฝีมือที่เหยาเผิงจ้างมาคุ้มกันสินค้าต่างก็ถูกถล่มแพ้ไปกันยับเยินหมด และด้วยเพราะว่าในนั้นยังมีทรัพย์สินของจิวเวลรี่มู่เหม่ยอยู่ด้วย เหยาเผิงจึงได้หามาถึงมู่เซิ่งอีก
มู่เซิ่งได้ทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ดีแล้ว ก็แสดงตัวว่าหลังจากนี้สักระยะหนึ่ง จะไปกับขบวนสินค้ากับเขาสักเที่ยว
อย่างน้อยก็ได้ไปถล่มพวกโจรสลัดกลุ่มนั้นให้ยอมสยบ ให้รู้จักกองเรือสินค้าของเหยาเผิง จนไม่กล้าลงมือทำอะไรถึงจะจบกัน
เวลาผ่านไปเงียบ ๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น เจียงหว่านตื่นขึ้นมาแต่เช้า จัดเก็บเสื้อผ้าอยู่ในห้อง ตอนนี้จะไปฮันนี่มูนกับมู่เซิ่ง เรื่องนี้ทำเอาหล่อนตื่นเต้นอยู่ทั้งคืน แม้กระทั่งนั่งอยู่บนรถแล้ว ก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้ มองวิวนอกหน้าต่างที่วิ่งถอยไปข้างหลังตามรถ ขนาดว่ายังไม่กล้าขยับตัวออกแรง กลัวภาพที่เห็นนั้นเป็นความฝันที่จะแตกสลายไปถ้าถูกสะกิด
“เป็นอะไรไปจ๊ะ?” มู่เซิ่งเห็นท่าทางงงเซ่อของเจียงหว่าน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วถามไป
“มู่เซิ่ง นี่พวกเรา จะไปถ่ายรูปภาพชุดวิวาห์กันจริง ๆ หรือ?” เจียงหว่านถามเหมือนเป็นคำถามโง่ ๆ
มู่เซิ่งหัวเราะแล้วพูดว่า “ก็แน่นอนสิจ๊ะ พวกเรากำลังอยู่บนเส้นทางไปยังเกาะสองใจ งานในบริษัทของเธอนั้นผมได้จัดให้คนเข้าไปจัดการแทนแล้ว รับรองว่าหลังจากเธอกลับไป ก็ยังคงจะอยู่ในสภาพรุ่งเรืองขึ้นทุกวัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...