“เดี๋ยว ๆ คุณ คุณว่าอะไรนะ?”
คราวนี้ มาถึงทีคุณนายเจ้าของร้านต้องสะเทือนใจผวาตื่นแล้ว สายตาหล่อนมองไปที่มู่เซิ่งอย่างไม่กล้าจะเชื่อ เจ้าหนุ่มคนนี้ดูท่าค่าตัวระดับทั่ว ๆ ไป อย่างมากก็พวกไว้ท์คอล่านั่งออฟฟิศ แต่สินค้าราคาสามสิบเจ็ดล้าน ตาไม่มีการกะพริบ ก็ตกลงซื้อเลย
เขา เขามีเงินขนาดนั้นเลยเชียวหรือ?
คุณนายเจ้าของร้านคว้ามือมู่เซิ่งโดยสัญชาตญาณ กลัวว่ามู่เซิ่งจะแกล้งล้อเล่น แล้วเดี๋ยวจะทำให้ชุดวิวาห์สุดยอดชุดนี้เสียหายได้
ขณะเดียวกัน หล่อนก็มองไปที่หยางเหนิง ความหมายในแววตาเห็นชัดเลยว่า คิดจะถามหยางเหนิง มู่เซิ่งจะมีปัญญาเอาเงินก้อนโตขนาดนี้ออกมาได้หรือไม่
แต่ทว่า แม้กระทั่งหยางเหนิงเองก็ตะลึงผวาอึ้งนิ่ง
สามสิบเจ็ดล้าน ถ้าท่านหลงเป็นคนจ่าย เขาก็ไม่รู้สึกตื่นใจเท่าไหร่ แต่เด็กหนุ่มคนนี้ตามที่ท่านหลงบอก ก็เป็นแค่เพียงคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น จะไปเอาเงินจำนวนมากมายขนาดนี้มาจากไหนได้?
“ผมว่า ก็ซื้อชุดนี้แหละ รูดการ์ดได้ไหม?” มู่เซิ่งพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ได้ แน่นอนว่าได้ แต่ว่า ชุดวิวาห์ขุดนี้ราคาทั้งหมดคือสามสิบเจ็ดล้าน คุณแน่ใจนะว่าจะซื้อ?” คุณนายเจ้าของร้านถามย้ำอีกรอบ
ขณะที่มู่เซิ่งกำลังเตรียมจะผงกหัว เจียงหว่านดึงมือมู่เซิ่ง พูดว่า “มู่เซิ่ง ระยะนี้สภาพในบริษัทไม่สู้ดี นายใช้จ่ายเงินมากมายขนาดนี้เพื่อซื้อชุดวิวาห์ชุดเดียว จะป็นการฟุ่มเฟือยเกินเหตุไหม อีกทั้งการซื้อชุดวิวาห์มาแล้ว พวกเราก็ใช้อยู่แค่ครั้งเดียวนี้เท่านั้น....”
“ชุดวิวาห์สวมใส่กับตัวเธอได้ ถึงจะเป็นเพียงครั้งเดียว ก็สุดคุ้มแล้ว” มู่เซิ่งพูด “พูดก็พูด ผมยังเห็นว่าชุดวิวาห์นี้ยังไม่ได้มีค่าพอจะสวมใส่บนตัวเธอด้วยซ้ำ”
คุณนายเจ้าของร้านได้ยินคำพูดนี้ อดไม่ได้ที่จะค้อนตาคว่ำ ชุดวิวาห์ราคาสามสิบกว่าล้านยังมีค่าไม่พอ นี่มันจะคุยเว่อกันถึงไหนกัน? ไอ้หมอนี่จะเป็นพวกเอาแต่คุยโม้ละมั้ง?
ทว่า เห็นมู่เซิ่งควักบัตรเครดิตธนาคารออกมา รูดเป็นตัวเลขเข้าบัญชียาวเหยียดมา คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์พูดไม่ออกในทันที
ไม่ว่าเขาจะขี้โม้หรือไม่ แต่ว่ามู่เซิ่งมีปัญญาซื้อชุดวิวาห์นี้ได้ นี่เป็นเรื่องจริง ๆ
“ที่รักจ๊ะ พวกเราไปลองชุดวิวาห์กัน” เอาชุดวิวาห์ออกมาจากตู้กระจก มู่เซิ่งพูดยิ้ม ๆ
“แต่ว่า......” เจียงหว่านยังรู้สึกลังเล
สำหรับเรื่องมาฮันนี่มูนนี้ เรื่องชุดวิวาห์สำหรับเจียงหว่าน ไม่ใช่เรื่องที่ใส่ใจนัก และโดยสายตาของหล่อนนั้น ก็รู้สึกถึงจำนวนเงินสามสิบเจ็ดล้านกับชุดวิวาห์ชุดหนึ่งนั้นแพงมากเกินไปจริง ๆ
แต่ทว่า หล่อนจะไม่ยอมรับไม่ได้ว่า ชุดวิวาห์ที่เห็นอยู่ในสายตานี้ สวยวิจิตรมาก ๆ เลยทีเดียว จนหล่อนใคร่อยากที่จะสวมใส่เข้าไปแล้ว
“ไม่ต้องแต่ว่าอีกแล้ว เรื่องในวันนี้ ต้องเชื่อฟังผม” มู่เซิ่งกุมมือเจียงหว่านไว้แล้วพูด
เจียงหว่านจึงได้แต่ผงกหัว
นาทีนั้นเอง หล่อนได้สัมผัสรับพลังที่แข็งแกร่งมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนจากมู่เซิ่ง ถึงกับสะท้อนความรู้สึกอยู่ในใจ เงินจำนวนนี้ในสายตาของมู่เซิ่ง ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เพราะฉะนั้นหล่อนจึงได้ผงกหัวรับอย่างยอมตาม ภายใต้การดูแลของมู่เซิ่ง หยิบเอาชุดวิวาห์ลงมา เดินเข้าไปในห้องลองชุด
มู่เซิ่งรออยู่หน้าห้องอย่างใจเย็น
ในเวลานั้น คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์แอบดึงหยางเหนิงเบา ๆ ลากเขามาชิดข้างตัว กระซิบถามไปว่า “หยางเหนิง นี่มันอะไรกันแน่ ไหนเธอบอกว่าสองคนนี้เป็นคนธรรมดา ๆ ไง?”
“ก็ใช่ไง ท่านหลงบอกกับผมเอง ให้พาเพื่อนธรรมดา ๆ สองคนของเขาไปเที่ยวที่เกาะสองใจ ตอนนั้นผมก็ฟังมาชัดเจนแบบนี้” หยางเหนิงก็งงเบลอไปเหมือนกัน
เมื่อกี้นี้ที่มู่เซิ่งจู่ ๆ ก็ทุ่มออกมาอย่างมือหนักนั้น ทำให้เขาต้องแปลกใจ ใช่หรือเปล่าว่าท่านหลงหลอกเขา
แต่ว่า ท่านหลงจำเป็นอะไรที่ต้องมาหลอกเขา?
เขาจ้องมองเจียงหว่านกับมู่เซิ่งอยู่พักหนึ่ง พูดว่า “อ่า ผมนึกออกละ ผู้หญิงคนนี้รู้สึกเป็นคนตระกูลเจียง ใกล้ ๆ นี้ผมได้เห็นหล่อนอยู่ในข่าวของโครงการเขตซีไห่ รับงานโครงการใหญ่ระดับพันล้าน ฉะนั้นน่าจะมีเงินมากอยู่ในตอนนี้”
คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ผงกหัว ถ้าเป็นแบบนี้ เรื่องนี้ก็พอมีเหตุผลอธิบายได้
“แล้วผู้ชายคนนี้หละ ก็น่าจะมีเงินไม่น้อยนะ?” คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ถามต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...