มู่เซิ่งเพิ่งเดินไปถึงที่หน้าประตูทางเข้างานประมูล ก็ได้ถูกขวางกั้นห้ามเข้า
นี่ไม่ใช่หน่วยงานของงานประมูลจงใจเจาะเฉพาะตัวมู่เซิ่ง แต่เป็นเพราะเงื่อนไขของงานครั้งนี้สูงมาก นับตั้งแต่มีประวัติจัดงานมา เป็นครั้งหนึ่งที่สูงที่สุด
การจัดงานประมูลบนเกาะนั้นเรียกว่างานประมูลหลงหาง เป็นการประมูลระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมของเกาะ และก็เป็นงานของบริษัทการเดินเรือสมุทรแห่งหนึ่ง เห็นว่า ความลึกซึ้งในเบื้องหลังของเขานั้น จัดว่ามีระดับในเยียนจิง สิ่งของต่าง ๆ ที่เอามาประมูลขายในงานประมูลนี้ ก็ล้วนแต่เป็นของล้ำค่าสุดวิเศษที่พวกเขาได้มาในระหว่างการเดินเรือ ทุกครั้งในการประมูล ก็มักจะต้องถูกประมูลซื้อไปในราคาที่สูงมาก
พวกทำธุรกิจการค้าทางทะเลเหล่านี้ ฐานะที่อยู่บนเกาะนี้สูงที่สุด อีกทั้งมีข่าวเข้ามาว่า งานนี้มีคนสำคัญจากเยียนจิงจะมาที่เกาะนี้ และยังมาด้วยธุระเกี่ยวกับธุรกิจการค้าทางทะเลอีกด้วย เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต้องมีการเตรียมการเป็นพิเศษ ในการใส่ใจกับการประมูลครั้งนี้
เพราะฉะนั้น ระดับความเข้มงวดในการตรวจตราคนเข้างานจึงต้องเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ต้องจัดว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ ผู้ยิ่งใหญ่จากเยียนจิงคนนี้จะเป็นใคร ทว่านอกจากผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในบริษัทแล้ว ไม่มีใครรู้ได้ ที่เล่ากันมาก็รู้แต่ว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้ที่สามารถควบรวมธุรกิจการค้าทางทะเลเป็นหนึ่งเดียวได้ อีกทั้งยังเป็นนักเสวียน แน่นอนว่า ข่าวลือประเภทนี้ไม่สามารถจะได้รับการยืนยันได้
พวกเขาเข้าใจได้แต่ว่า จะมีผู้ยิ่งใหญ่กำลังจะมา เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาก็แล้วกัน
“คุณผู้ชายท่านนี้ ถ้าหากคุณต้องการเข้าร่วมในงานประมูลด้วย จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของเราก่อน” ผู้รักษาความปลอดภัยหน้าทางเข้าขวางห้ามมู่เซิ่งเข้า พูดด้วยสีหน้าแสดงความเสียใจ
“ถ้างั้นผมก็ขอพบเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของคุณ” มู่เซิ่งพูดอยู่นอกประตูทางเข้า
พวกรปภ.ที่อยู่ในขณะนี้ ต่างก็ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างเข้มงวด การดูแลงานประมูลครั้งนี้ จะมีการให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นกับแขกทุกคนที่มาจะให้เกียรติกันเป็นอย่างสูง ได้เอ่ยปากถามว่า “ครับคุณผู้ชาย ไม่ทราบคุณมีนัดไว้ล่วงหน้าหรือยัง?”
“ไม่มี” มู่เซิ่งส่ายหน้า
“ถ้าไม่ได้นัดไว้ ก็คงต้องเชิญไปต่อคิวที่ข้างนอกก่อนนะครับ”
ทางด้านนั้น เห็นต่อแถวกันเป็นคิวยาวอยู่ ถ้าไม่ได้มีนัดไว้ล่วงหน้า ก็จำต้องค่อย ๆ รอคิวตามรายชื่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
มู่เซิ่งไม่รู้เรื่องที่เหยาเผิงจะมาบนเกาะสองใจนี้ เพราะฉะนั้นก็ให้รู้สึกว่าท่าทางของรปภ.พวกนี้ ดูแปลกตามาก ไม่คิดว่ารปภ.พวกนี้จะมีอัชฌาสัยดีแบบนี้ ยังจะดีกว่าพวกรปภ.ของบริษัทใหญ่โตอื่น ๆ พวกนั้นมาก
“ได้ครับ” มู่เซิ่งผงกหัว เดินไปยังปลายสุดของแถว
รปภ.โค้งคำนับ แสดงความขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ หลังจากนั้นก็เริ่มปฏิบัติหน้าที่เดินตรวจการต่อไป
ดีว่าเป็นช่วงเวลาค่ำคืน ถึงแม้จะดูมีแถวยาว แต่ที่รอก็ไม่ได้มากนัก และยังมีบางส่วนที่ขี้เกียจรอปลีกตัวกลับไป ฉะนั้นเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงคิวของมู่เซิ่ง มู่เซิ่งเดินเข้าไปในห้อง ผู้ที่มาดูแลรับเรื่องกับเขาเป็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
“สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของบริษัทหลงหาง เปาหารครับ จะพบผมด้วยธุระอะไรไม่ทราบครับ?” ผู้ชายที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ถาม
“ผมคิดจะเข้าร่วมงานประมูลของพวกคุณที่นี่ แต่ทางฝ่ารปภ.ของพวกคุณบอกผม ก่อนที่จะเข้าร่วมงาน จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากพวกคุณถึงจะได้” มู่เซิ่งพูดเข้าเรื่องไปเลยทีเดียว
“ใช่ครับ ท่าน”
เปาหารผงกหัว งานประมูลไม่ว่าที่ไหน ต่างก็มีกฎข้อกำหนด งานประมูลของหลงหางก็เช่นเดียวกันไม่มีกรณียกเว้น:
“การเข้าร่วมงานประมูล เพื่อรับรองว่าคุณไม่ได้ตั้งใจมาก่อกวน มีความสามารถประมูลซื้อได้จริง จึงจำเป็นต้องมีขั้นตอนของการพิสูจน์ทรัพย์สิน และระดับขั้นของการประมูล ก็จะกำหนดโดยหลักฐานการพิสูจน์ทรัพย์สิน เพื่อใช้แบ่งเขต ทั้งหมดเรามีการแบ่งออกเป็นห้าระดับที่แตกต่างกัน”
“ในห้าระดับที่ต่างกันนี้แบ่งเป็นขั้นธรรมดาที่สุด ไปถึงขั้นสูงสุดระดับวี.ไอ.พี.ในห้องพิเศษ ในขั้นธรรมดาที่สุดนั้น เงื่อนไขคือจะต้องมีการรับรองทรัพย์สินไม่น้อยกว่าห้าล้านขึ้นไป จึงจะเข้าไปนั่งข้างในนั้นได้ ระดับที่สอง ก็คือ.......”
เปาหารกำลังจะสาธยายรายละเอียดต่อในแต่ละระดับขั้น มู่เซิ่งพูดตัดบทไปว่า “จัดการพิสูจน์หลักฐานทรัพย์สินเถอะ ผมคิดว่า ผมมีคุณสมบัติพอที่จะนั่งที่ชั้นสูงสุดในห้องพิเศษ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...