“ตูม!”
ตอนที่เหมียวหงอวี่ได้ใจ เรือคายัคก็ระเบิดโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าเลยสักนิด!
ทุกคนก็ตกใจเป็นอย่างมาก
แม้แต่เหมียวหงอวี่ก็นิ่งอึ้ง ก้มหน้ามองลงไป ด้านบนเรือคายัคที่เขาอยู่ มีรูขนาดใหญ่แล้ว และน้ำทะเลก็ไหลซึมผ่านรูอย่างต่อเนื่อง
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆเรือคายัคลำนี้ถึงพัง? ฉันซื้อของปลอมมางั้นเหรอ?
ในขณะนี้ มีเรือลำเล็กๆไม่กี่ลำ แล่นออกมาจากมุมชายฝั่ง บนเรือลำเล็กเหล่านี้ มีชาวประมงหลายคนจากหมู่บ้านชาวประมง และสองแม่ลูกล่ายซิ่วฉิน ก็อยู่ในนั้นด้วย
“พี่ล่าย พวกเราทำแบบนี้ ไม่ค่อยดีมั้ง?”เมื่อมองไปที่เรือคายัคที่พัง ชาวประมงผิวสีแทนก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
“ไม่ดีเหรอ? แกอยากได้เงินอยู่หรือเปล่า?” ล่ายซิ่วฉินพูดอย่างเย็นชา หลังจากที่เงินหายไปตอนเช้า เธอกังวลแทบบ้า แต่ตามหาไปสามชั่วโมงเต็มๆ ก็ตามหาคนลาภยศจนหน้ามืดตามัว เกี่ยวกับเงินห้าแสนนี้ไม่ได้ ไม่นึกเลยว่าล่ายซิ่วฉินจะมุ่งเป้าไปที่เงินในกระเป๋าเป้สะพายหลังของหลิวต้าเลี่ยง!
“พี่ล่าย พี่บอกว่าบนตัวของพวกเขามีเงินมากมาย ต่อให้พวกเรามากมายขนาดนั้น ก็แบ่งได้อย่างน้อยคนละสองหมื่นหยวน พี่ว่าจริงหรือเปล่า? ถ้าเกิดมีคนตายขึ้นมาจะทำยังไง”ชาวประมงถามอย่างเป็นห่วง
ล่ายซิ่วฉินตะโกนด้วยความโกรธในทันที “ตอนเช้ากูเห็นชัดเจน กระเป๋าเป้ใบนี้เต็มไปด้วยทองคำ ถ้าแกไม่เชื่อก็อย่ามาจู้จี้จุกจิกอยู่ที่นี่ ไสหัวลงจากเรือเดี๋ยวนี้ ถึงเวลาแบ่งเงินกัน จะได้ขาดแกไปอีกคนหนึ่ง!”
“กล้าที่ไหนกัน ผมจะกล้าสงสัยพี่ล่ายที่ไหนกัน ผมแค่ไม่สบายใจ ไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนั้นก่อน”ชาวประมงพูดด้วยรอยยิ้มแหยๆ
“เอาล่ะ พี่ล่ายว่าอะไรนายก็ทำอย่างนั้น อย่ามาจู้จี้จุกจิกที่นี่”
“นั่นนะสิ คนล่ะสองแสนเลยนะ ถ้านายไม่กล้าทำ กลับไปก็พอ ฉันจะได้อีกไม่กี่พันฟรีๆ”
“ตอนที่พี่ล่ายหาเงินได้ นายยังลงน้ำไม่เป็นเลย ไม่นึกเลยว่าตอนนี้จะเริ่มสงสัยพี่ล่าย”
ลูกน้องชาวประมงคนอื่นๆของล่ายซิ่วฉินแต่พูดอย่างต่อเนื่อง พูดจนชาวประมงที่สงสัยคนนั้น ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ กลัวว่าพี่ล่ายจะไล่เขาลงจากเรือ ไม่ได้เงิน เขาไม่มีหน้าจะร้องไห้แล้ว
“หึ พี่ล่ายสุดยอดที่สุด เจาะเรือของพวกเขาเป็นรู ถึงเวลานั้นก็จมน้ำตายไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือจะถูกจับมาสอบปากคำโดยการทรมานก็พอ คนในเมืองแบบนี้ถูกโอ๋มาตั้งแต่เด็กมากที่สุด ฟันเขาสองครั้ง รับรองว่าพูดออกมาหมด!”ชาวประมงอีกคนพูดอย่างอาฆาตแค้น
“แกแม่งระวังหน่อยได้หรือเปล่า ไม่เห็นเรือของไอ้แก่นั่นอยู่ข้างหน้าของพวกเราหรือไง? อย่าเพิ่งออกจากท่าเรือ ต้องให้พวกเขาจมน้ำ พวกเราค่อยไปงมเอาคนขึ้นมา!” ล่ายซิ่วฉินด่าทอ
ทุกคนมองไปยังทิศทางที่พี่ล่ายด่าทอใส่ ชายชรายังคงขับเรือทรุดโทรมของเขาไปช้าๆจริงด้วย และยังคงมีควันดำออกมาจากด้านหลังเรือ ขับมาได้สักพัก ก็ขับออกไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ กลับโดนเรือของพวกเขาไล่ตามขึ้นมา
ชาวประมงที่เป็นผู้นำขับเรือกลับในทันที อย่างไรก็ตามพวกเขาก็เห็นเรือคายัคของเหมียวหงอวี่พังแล้ว การจมน้ำจะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว ถึงเวลานั้นค่อยออกจากท่าเรืองมคนก็พอ
มู่เซิ่งถอนสายตาเย็นชา คำพูดนี้ เขาได้ยินอยู่แล้ว ตอนแรกก็ยังสงสัยว่าทำไมเรือคายัคของเหมียวหงอวี่และพรรคพวกถึงได้แตกออกมาอย่างกะทันหัน ตอนนี้ดูเหมือนว่า ชาวประมงเหล่านี้เล่นไม่ซื่อ
ล่ายซิ่วฉินทำทุกอย่างได้ เพื่อวางแผนให้ได้ทรัพย์สิน
เมื่อมองไปที่เหมียวหงอวี่และพรรคพวกที่ตื่นตระหนกอยู่ด้านหน้า มู่เซิ่งส่ายหัวด้วยรอยยิ้มจางๆ คนที่โอ้อวดเงินคนหนึ่งโดนคนเพ่งเล็ง อีกคนหนึ่งอยากจะวางแผนให้ได้ทรัพย์สิน สองคนนี้นับได้ว่าเป็นหมากัดหมาจริงๆ
เขาดูเรื่องสนุกอยู่ข้างๆพอดี
“เชี่ย เกิดอะไรขึ้น ทำไมเรือคายัคของเราถึงรั่ว!” เหมียวหงอวี่โกรธจัด เตะไปที่บนตัวของหลิวต้าเลี่ยง“แม่มึงสิ กูให้พวกมึงตรวจสอบเรือก่อนออกเดินทางแล้วไม่ใช่เหรอ ตอนนี้เรือคายัครั่ว พวกเราควรทำยังไงดี?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...