มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 92

“ที่นั่นค่ะ...”

ใบหน้าเจียงหว่านกำลังแดงซ่าน ชี้นิ้วไปยังห้องนอน สุรเสียงแหลมเล็กราวกับยุง

มู่เซิ่งมองไปตามทางที่เจียงหว่านชี้ อดที่จะยิ้มขำไม่ได้

ในห้องนอนของเธอกลับมีเตียงสองเตียงติดเข้าด้วยกัน เตียงมีขนาดใหญ่มาก นอนกันสามสี่คนก็ล้วนเหลือเฟือ ที่เจียงหว่านกำลังชี้ไปคือเตียงอีกครึ่งหนึ่ง

มู่เซิ่งโยนผ้าห่มไปทางด้านข้าง ปีนขึ้นเตียง สายตาของเขามันหลือบมองเห็นความกำหนัดที่ปะทุออกมาของเจียงหว่านได้ ก่อนจะกล่าวอย่างตื่นตระหนกในทันทีว่า “หลังจากนี้ ผมสามารถนอนได้แค่ที่นี่เท่านั้นหรือครับ?”

“แน่ แน่นอนอยู่แล้วสิคะ”

เจียงหว่านบีบกำผ้าห่ม รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน

บรรยากาศภายในห้องนอนกำลังปกคลุมไปด้วยความเก้อเขินกลุ่มหนึ่ง

เจียงหว่านรับบรรยากาศเช่นนี้ไม่ไหวแล้ว ก่อนจะกล่าวเปลี่ยนหัวข้อสนทนาว่า “จริงสิ มู่เซิ่งคะ เงินที่ซื้อคฤหาสน์ตึกนี้ สรุปแล้วคุณเอามาจากที่ไหนหรือคะ?”

“ถ้าผมบอกว่าเป็นเงินเก็บสะสมของผมเอง คุณจะเชื่อไหมครับ?” มู่เซิ่งกล่าว

หัวของเจียงหว่านตื่นตะลึงเต้นตึกตักราวกับคลื่นกลอง บ้านราคาหลายร้อยล้าน เหตุใดเขาถึงสะสมเงินได้?

“อันที่จริงแล้ว ในช่วงระยะเวลาก่อนหน้านี้ ครอบครัวของอู๋หยู่เหวินออกเดินทางกัน ตอนข้ามทางม้าลายอีกนิดเดียวก็เกือบประสบอุบัติเหตุรถยนต์ครับ ก่อนจะถูกผมช่วยเอาไว้ เพื่อขอบคุณผม เขาก็เลยให้คฤหาสน์ตึกนี้กับผม” หลังมู่เซิ่งคิดไปคิดมาแล้ว ก่อนจะกล่าวออกมา

“มิน่าล่ะ อู๋คุนกับอู๋หยู่เหวินนั่นถึงให้ความเคารพนอบน้อมต่อคุณมากเช่นนี้” เจียงหว่านเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว

หากมู่เซิ่งช่วยเหลืออู๋หยู่เหวินเอาไว้แล้วละก็ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในสองสามวันมานี้ ก็ล้วนกล่าวว่ามันผ่านไปได้ทั้งหมด

“หลังจากนี้คุณหางานสักงานหนึ่งเถอะค่ะ ช่วงนี้ฉันกับคุณแม่คุย ๆ กันแล้ว ว่าถ้าคุณสามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้นอีกหน่อย เธอก็อาจจะยอมรับคุณได้ก็ได้นะคะ” เจียงหว่านกล่าว

มู่เซิ่งพยักหน้าขึ้นลง ดวงตามองตกกระทบไปบนต้นขาขาวนวลของเจียงหว่านที่โผล่ออกมาให้เห็นอีกครั้ง จู่ ๆ ก็แสยะยิ้มร้ายพลางกล่าว “รอหลังจากที่คุณแม่ยอมรับผมแล้ว ก็มานอนด้วยได้แล้วใช่ไหมครับ?”

“เอ่อ...อันนี้ยังไม่ได้ค่ะ!”

“ถ้าอย่างนั้นเมื่อไหร่ผมถึงจะมาได้ล่ะครับ?” มู่เซิ่งเอ่ยถาม

“เรื่องนี้ต้องดูที่การแสดงออกของคุณค่ะ” เจียงหว่านกล่าว

ส่วนเรื่องจะแสดงออกถึงระดับไหนนั้น มู่เซิ่งเอ่ยถามแล้ว แต่เจียงหว่านเองก็ไม่กล้าพูดเช่นเดียวกัน เกรงว่าการคิดอยากที่จะไปนอนข้างกายเธอฝั่งนั้น มันคงเป็นเรื่องที่ยากและยังอีกยาวไกลกระมัง

แต่มู่เซิ่งเองก็ไม่แคร์เช่นเดียวกัน ในเมื่อฝืนไปแตงก็จะไม่หวาน เพราะตอนนี้สามารถนอนในห้องนอนเดียวกันได้แล้ว สามารถได้กลิ่นหอมเจือจางบนเรือนร่างของเจียงหว่านได้แล้ว

หลังกล่าวคำจบ เจียงหว่านเองก็แอบสำรวจเขาไปมาเช่นเดียวกัน เห็นมู่เซิ่งตะแคงตัวเตรียมจะนอนแล้วจริง ๆ ภายในหัวใจของเธอกลับมีความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย หรือว่าตอนนี้เสื้อผ้าที่ตนเองสวมใส่จะไม่เซ็กซี่พอ? เหตุใดเขาถึงยังไม่พุ่งเข้ามาอีก?

พูดตามตรง ความคิดความอ่านของสตรีนั้น เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากมากที่สุดแล้ว

มู่เซิ่งตื่นขึ้นมา พบว่าท่อนบนของเจียงหว่านพลิกเข้าหาจากอีกเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้นขาขาวราวหิมะข้างหนึ่งกดทับอยู่บนทรวงอกของเขา กลิ่นหอมละมุนดึงดูดคน

เขากลืนน้ำลายไปหนึ่งอึกแล้ว ถึงมีปฏิกิริยาตอบกลับมาได้

ลูบ

หรือว่าไม่ลูบดี?

เพราะมีบทเรียนในตอนก่อนหน้านี้มาแล้ว มู่เซิ่งจึงไม่ลังเล ก่อนจะยื่นมือขวาออกไปลูบไล้ต้นขาของเจียงหว่าน มือสัมผัสส่วนเปลือยเปล่าที่นุ่มนิ่มเหลือหลาย ราวกับมาร์ชเมลโล่เลยก็ไม่ปาน

ลงมือไปได้ไม่นานนัก ในตอนนั้นเอง เจียงหว่านก็ตื่นขึ้นมาแล้วเช่นเดียวกัน เธอเบิกตากว้างสบตามองการกระทำของมู่เซิ่ง อยู่ ๆ ก็ร้องเสียงแหลมออกมาหนึ่งเสียงว่า “อ๊ะ! มู่เซิ่ง คุณ คุณคิดจะทำอะไรคะ?”

“คุณกดทับผมมาตลอด จะให้ผมลุกขึ้นไปแปรงฟันได้อย่างไรครับ?”

มู่เซิ่งแสร้งมีสีหน้าหมดคำจะกล่าว ก่อนจะชี้ต้นขาของเจียงหว่านไปมา

ใบหน้าของเจียงหว่านแดงระเรื่อ ปีนลุกออกจากเตียงโดยไม่กล่าวอะไรสักคำ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องนอนทันที

ลูบ ๆ ทรวงอกไปมา ความรู้สึกในมือกลับคงสัมผัสได้อย่างเนิ่นนาน มู่เซิ่งแตะคางครุ่นคิดไปมา อดไม่ได้ที่จะเอ่ยว่า “ขานี้มันนุ่มดีจริง ๆ ...”

รับประทานข้าวเช้าไปแล้ว

ใบหน้าของเจียงหว่านที่แดงระเรื่อ ตอนนี้กลับเป็นปกติมากกว่าครึ่งแล้ว ทว่ายังคงก้มหน้าแดง ๆ อยู่เช่นเดิม ไม่กล้าสบตามองไปยังมู่เซิ่ง

“ตอนเที่ยงตระกูลเจียงมีประชุมค่ะ ต้องการให้พวกเราไปที่ประชุมด้วยกันทั้งหมด คุณไปเป็นเพื่อนฉันนะคะ” เจียงหว่านกล่าวเสียงเล็ก

“ประชุมหรือครับ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือครับ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง