“นายหญิงอย่าพูดจาส่งเดชเชียวนะ องค์ชายเจ็ดไม่ใช่คนแบบนั้น” ชิงจั๋วได้ยินคำพูดของนายหญิงของตน ตกใจจนเกือบจะกัดลิ้นตัวเองขาดไปเลย
ฉู่หวูโยวครุ่นคิดอยู่อย่างตั้งใจมาก: “เจ้าจะแน่ใจได้ยังไง? องค์ชายเจ็ดไม่ถูกกับผู้หญิงมาโดยตลอด ไม่แน่ว่าจะถูกใจผู้ชาย......”
ชิงจั๋วยื่นมือออกไปปิดปากของนายหญิงตนเองเอาไว้แน่นทันที: “นายหญิง อย่าพูดจาส่งเดช พูดส่งเดชไม่ได้เด็ดขาด”
“งั้นพวกเรารออยู่ที่นี่อีกประเดี๋ยว รอองค์ชายเจ็ดออกไปก่อน แล้วพวกเราค่อยเข้าไป” ฉู่หวูโยวกลับไม่ได้คิดว่านี่ไม่ได้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร แน่นอนว่านางก็ไม่อยากไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องส่วนตัวขององค์ชายเจ็ด
“นายหญิง พวกเรากลับไปเถอะ” ในตอนนี้ชิงจั๋วตกใจกลัวจนร่างเริ่มสั่นไปเล็กน้อย หากเป็นไปได้นางอยากจะจับนายหญิงมัดเอาไว้แล้วก็พากลับไปเลย
“ยังไงก็มาแล้ว จะให้กลับไปได้ยังไง” ฉู่หวูโยวแสดงออกมาให้เห็นว่าตนเองไม่ใช่คนที่จะปล่อยวางอะไรง่ายๆ แบบนั้นแน่นอน
นางตัดสินใจว่าจะรออยู่ที่นี่สักครู่หนึ่ง รอซวนหยวนหรงโม่ออกไปก่อน
เพียงแต่ซวนหยวนหรงโม่ที่อยู่นอกทางเข้าหอชิงหยุนจู่ๆ ก็เอ่ยปากกล่าวออกมาว่า: “เจ้าคิดว่าจะหลบถึงเมื่อไหร่?”
แม้ว่าซวนหยวนหรงโม่จะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ว่าฉู่หวูโยวยืนยันได้ว่าที่เขาพูดถึงนั้คือนางเอง
ว่าไปแล้วนางก็ยังไม่ได้หลบเลยเสียหน่อย ก็ถูกซวนหยวนหรงโม่จับได้แล้ว
ในเมื่อถูกซวนหยวนหรงโม่จับได้แล้ว จะให้แอบอีกก็เท่ากับว่าเป็นคนโง่ที่หลอกตัวเองได้แต่หลอกคนอื่นไม่สำเร็จ ฉู่หวูโยวก็เลยได้เพียงเดินเข้าไปหา
เมื่อซู่เฟิงเห็นว่าฉู่หวูโยวเดินเข้ามาก็อึ้งไปชั่วขณะ ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมนายของตนจึงมาเฝ้ารออยู่ที่โรงเตี๊ยมตรงข้ามตั้งแต่เช้าตรู่ แล้วก็นั่งตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้เลย
นี่องค์ชายทราบว่าคุณหนูฉู่วันนี้จะมาที่หอชิงหยุนงั้นหรือ? ดังนั้นองค์ชายของตนก็เลยมาจับตัวคุณหนูฉู่
แต่แม้ว่าองค์ชายจะทราบว่าคุณหนูฉู่จะมาที่หอชิงหยุน องค์ชายก็สามารถบอกกับคุณหนูฉู่ไปโดยตรงได้ว่าไม่ให้คุณหนูฉู่มา
หรือว่าองค์ชายสามารถบอกกับท่านพระยาได้ ให้คนของจวนเจ้าพระยามายับยั้งคุณหนูฉู่เอาไว้ หรืออีกอย่างองค์ชายสามารถสั่งการให้คนใต้บัญชามายับยั้งไว้ได้ ไม่ให้คุณหนูฉู่เข้าไปยังหอชิงหยุน
เหตุใดองค์ชายจะต้องมาเฝ้าอยู่ที่โรงเตี๊ยมด้วยตนเองตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยเล่า? นี่เล่นแบบนี้หมายความว่ายังไงกันแน่?!
เวลาขององค์ชายดูล้ำค่ามาโดยตลอด ปกติองค์ชายจะไม่สิ้นเปลืองเวลาเพียงเพราะเรื่องแบบนี้เด็ดขาด
“องค์ชายเจ็ด บังเอิญจัง” ฉู่หวูโยวเดินเข้ามา ทักทายปราศรัยก่อน หลังจากนั้นนางก็ตัดสินใจมาเป็นคนมาตัดไฟแต่ต้นลม: “นี่องค์ชายเจ็ดเพิ่งจะออกมาจากหอชิงหยุนงั้นหรือ? หรือว่ากำลังคิดว่าจะเข้าไปกันล่ะ?”
ซู่เฟิงรีบกล่าวแก้ตัวให้กับองค์ชายของตนเองทันที: “คุณหนูฉู่ องค์ชายเพียงแค่ผ่านทางเท่านั้น”
แม้ว่าองค์ชายของเขาจะไม่ได้ผ่านทาง แต่ก็ย่อมดีกว่าสภาพเช่นนั้นที่คุณหนูฉู่พูดเยอะเลย
ซู่เฟิงเข้าใจองค์ชายของตนเป็นอย่างดี องค์ชายมารอจับคุณหนูฉู่ที่โรงเตี๊ยมตั้งแต่เช้าตรู่นานแล้ว คำพูดนี้แน่นอนว่าก็ไม่อาจพูดออกมาได้
“อ่อ” ฉู่หวูโยวรับคำอย่างเบาๆ ไปคำหนึ่ง ในเมื่อผ่านทางมา งั้นเขาก็ต้องผ่านไปสิ มายืนบังอยู่หน้าทางเข้าของคนอื่นเขามันใช่เรื่องที่ไหนกัน?
“วันนี้เจ้ามาหอชิงหยุนโดยเฉพาะงั้นหรือ?” ซวนหยวนหรงโม่มองไปยังฉู่หวูโยว ดูเหมือนว่าจะยิ้มจางๆ อยู่ครู่หนึ่ง
ฉู่หวูโยวไม่ได้ตอบ เพราะว่านางทราบดีว่ายังไงก็ไม่จำเป็นต้องตอบ ซวนหยวนหรงโม่ย่อมทราบดีอยู่แล้ว
นางก็โชคร้ายจริงๆ ทำไมจะต้องบังเอิญมาเจอเข้ากับซวนหยวนหรงโม่ด้วย?
ฉู่หวูโยวทราบดีว่า ในเมื่อเจอกับซวนหยวนหรงโม่ที่นี่แล้ว นางเดาได้เลยว่าอย่าคิดที่จะเข้าไปได้เลย
แต่ว่านาทีต่อมาคิดไม่ถึงว่าซวนหยวนหรงโม่จะเปิดทางให้นาง: “อยากจะเข้าไปก็เข้าไปเถอะ”
ฉู่หวูโยวอึ้งไปครู่หนึ่ง ไอหยา คิดไม่ถึงเลยว่าองค์ชายเจ็ดจะพูดง่ายเช่นนี้ ทำให้นางหลงเป็นกังวลไปตั้งนาน
บนใบหน้าของฉู่หวูโยวเปี่ยมไปด้วยความดีใจ ก้าวเท้าก็อยากจะเดินเข้าไปทางหอชิงหยุนเลย
เพียงแต่ว่าเท้าของฉู่หวูโยวเพิ่งจะก้าวไปได้แค่สองก้าวเท่านั้น เสียงของซวนหยวนหรงโม่ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง: “เจ้าอยากให้ท่านพระยามารับเจ้าที่นี่ไหม? หรือว่าอยากให้คนของไทเฮามารับเจ้าที่นี่ดี?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร
555น้องแสบ...
รออ่านน้า ชอบ มากเลยค่ะทุกเรื่องที่แอดลง อ่ะ...