สรุปตอน บทที่ 25 ถูกองค์ชายเจ็ดวางแผนเอาคืนอย่างชัดเจน 2 – จากเรื่อง น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร โดย อล่าม
ตอน บทที่ 25 ถูกองค์ชายเจ็ดวางแผนเอาคืนอย่างชัดเจน 2 ของนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติเรื่องดัง น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร โดยนักเขียน อล่าม เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ในตอนที่ฉู่หวูโยวมองไปยังซวนหยวนหรงโม่ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะมีความกลัดกลุ้มหลายเท่าเพิ่มขึ้นมา
เขาไม่มีธุระอะไรจะออกมายั่วยวนคนทำไมกัน!
เป็นปีศาจจริงๆ ปีศาจที่หล่อมากโคตรๆ เลย
“ในเมื่อบังเอิญเช่นนี้ ได้เจอท่าน ท่านก็ช่วยหน่อยไม่ดีกว่าหรือ ช่วยขนย้ายเงินหน่อย” ดึงสติกลับไปได้ ฉู่หวูโยวก็กลับมาเป็นธรรมชาติเหมือนเดิม หารือกับซวนหยวนหรงโม่อย่างสนิทสนมมาก
แม้ว่าฉู่หวูโยวจะพูดเช่นนี้ก็ตาม ยังไงก็ไม่กล้าคิดที่จะให้องค์ชายเจ็ดช่วยนางเคลื่อนย้ายเงินจริงๆ นางก็แค่อยากจะหยั่งเชิงเจตนาของเขาสักหน่อยเท่านั้นเอง
องค์ชายเจ็ดจับนางได้ที่นี่ นางกลับสืบออกมาไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่? ไม่รู้ว่าเขาจะเอายังไงกับนางกันแน่?
ดูเหมือนว่าซวนหยวนหรงโม่จะอึ้งไปพักหนึ่งอีกเช่นนั้น ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าพูดจริงๆ
เขาก็เดาความคิดของนางได้ไม่ยาก นี่นางอยากจะหยั่งเชิงว่าเขาจะจัดการนางยังไงงั้นหรือ
ซวนหยวนหรงโม่มองไปยังฉู่หวูโยว: “ไปศาล? หรือว่าจะไปพบฝ่าบาท? หรือไม่ก็ไปพบท่านเจ้าพระยา? เจ้าเลือกเอาเอง”
เสียงของเขาดูขรึมและเบส ฟังไม่ออกถึงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ลมหายใจที่เรียบเฉย ดูเหมือนว่าจะเย็นเล็กน้อยตามลมค่ำคืนนั้น พ่นอยู่บนใบหน้าของฉู่หวูโยว
เย็นเล็กน้อย ไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นที่มากเกินไปเลย
ซวนหยวนหรงโม่ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้กับฉู่หวูโยวค่อนข้างมากขึ้น กลิ่นอายลมปราณที่บีบบังคับคนเช่นั้นของเขา ทำให้ร่างของฉู่หวูโยวค่อยๆ นิ่งไปเล็กน้อย
ในใจของฉู่หวูโยวแอบตกตะลึงไปพักหนึ่ง จู่ๆ นางก็ไม่อาจแยกแยะได้ว่าที่ผู้ชายคนนี้พูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่คาดเดาได้ยากมากเกิน ไม่มีใครสามารถเดาความคิดของเขาได้เลย
เพียงแต่นางจะไม่ไปพบใครก็ตามสักคนกับเขาอย่างเด็ดขาด
ไม่ว่าจะไปพบใคร นางก็จบสิ้นแน่ๆ
“ข้าชอบที่จะกลับไปนอนยิ่งกว่า” ฉู่หวูโยวกดอารมณ์ความรู้สึกในจิตใจของตนเอง กลบเกลื่อนให้หัวเราะออกมา
นางกวาดสายตามองไปที่เขาครู่หนึ่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หันหน้าเดินไปทางด้านหน้าเลย
กลยุทธ์มากมายถึงสามสิบหกวิธี เดินไปแล้วค่อยว่ากันว่าจะเลือกใช้อันไหน
เขาอันตรายเกินไป นางย่อมรู้ดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดังนั้นรีบคิดหาวิธีการที่จะออกไปให้ไวจะเป็นการดีที่สุด
หวังว่าผู้ชายคนนี้จะไม่โหดร้ายอำมหิตเช่นนั้นจริงๆ ที่จะต้องจัดการนางให้จนหนทางให้ได้
ฝีเท้าที่นางเดินจากไปนั้นกลับไม่เร็ว พยายามรักษาระดับการเดินให้ใกล้เคียงกับปกติที่สุด นางทราบดีว่าหากผู้ชายคนนี้อยากจะขวางนางเอาไว้ แม้ว่านางจะเร่งความเร็วมากแค่ไหนก็ไม่อาจหนีพ้นไปได้
นางแอบภาวนาอยู่ในใจ อย่าลงมือมาขวางนางไว้เด็ดขาด ก็แค่ทำเป็นมองไม่เห็น แค่ทำเป็นมองไม่เห็นเท่านั้น
ตอนนี้นางหวังเป็นอย่างมากว่าตนเองจะสามารถมีวิชาสะกดจิตได้ สามารถสะกดจิตเขาไปได้
เสียดายที่นางไม่ได้มีความสามารถเช่นนั้น อีกอย่างองค์ชายเจ็ดก็ไม่ใช่คนที่จะสามารถถูกสะกดจิตได้อย่างง่ายดายแน่นอน
ที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือ เสียงแม้แต่นิดที่อยู่ด้านหลังนางก็ไม่มีเลย ไม่เพียงแต่ไม่ได้ยินการห้ามปรามขององค์ชายเจ็ด ดูเหมือนว่าแม้แต่เสียงหายใจนั้นก็ไม่มีเลยด้วยซ้ำ
หลังจากที่ฉู่หวูโยวเดินห่างออกมาหลายก้าว ก็แอบหันกลับไปมอง ในตอนนี้จึงพบว่าสถานที่เมื่อครู่นั้นแม้แต่คนเดียวก็ไม่มีเลย
ไม่ทราบเลยว่าองค์ชายเจ็ดซวนหยวนหรงโม่จากไปเมื่อไหร่กันตั้งนานแล้ว?
ผู้ชายคนนี้ช่างไปมาไร้สุ้มเสียงจริงๆ วรยุทธ์สูงจนไม่อาจคาดเดาได้เลย
ทำให้นางตื่นตูมไปอย่างไม่จำเป็นเลย
เพียงแต่ตามความปราดเปรื่องขององค์ชายเจ็ด แน่นอนว่าย่อมทราบดีว่าเงินพวกนั้นมีส่วนหนึ่งที่เป็นเงินค่าใช้จ่ายที่พรุ่งนี้ไป๋อี้เฉินจะต้องนำไปมอบให้ราชสำนัก
ฉู่หวูโยวเข้าใจ แม้ว่าองค์ชายเจ็ดจะจากไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ ก็เป็นเพราะองค์ชายเจ็ดไม่ทราบว่าเงินจำนวนนั้นซ่อนเอาไว้ที่ใดกัน
แน่นอนว่าองค์ชายเจ็ดย่อมต้องเห็นแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา เขาก็เลยไม่เป็นกังวลว่านางจะทำเสียแผน
จะว่าไปในแผนการของนางก็ดูเหมือนว่าจะเกิดความไม่อาจคาดคิดอยู่บ้างเล็กน้อย
ไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้องค์ชายเจ็ดจะแสดงในบทบาทใดกัน?
ทะเลสาบจันทราไม่ไกลจากจวนเจ้าพระยา ฉู่หวูโยวมาถึงได้เร็วมาก ดูเหมือนว่านางกำลังชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ในทะเลสาบนั้นอยู่ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับกำลังมองหาเงาขององค์ชายเจ็ด
ไม่นานฉู่หวูโยวก็พบว่าบนเรือที่ลอยล่องลำหนึ่งไม่ไกลออกไปก็เป็นองค์ชายเจ็ดที่ประทับอยู่
ฉู่หวูโยวอดไม่ได้ที่จะยิ้มจางๆ ออกมาครู่หนึ่ง เป็นไปตามที่นางคาดการณ์เอาไว้จริงๆ
นางเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เดินข้ามไป
บนเรือท่องเที่ยว ไป๋อี้เฉินเปี่ยมไปด้วยหน้าตาที่หนักใจ ในดวงตานั้นก็เป็นความอึมครึมอย่างหนักหน่วงเช่นกัน
วันนี้ตอนเช้า พอเช้าตรู่ตอนที่เขาจะไปคลังสมบัติเอาเงิน แต่กลับพบว่าเงินทั้งหมดได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยหมดเลย
ตอนนั้นเขาก็ตกตะลึงจนทั้งเนื้อตัวมีแต่เหงื่อเย็น แต่ก็ไม่ได้จะเสียดายเงินตำลึงพวกนั้น แต่ว่าเงินจำนวนนั้นส่วนใหญ่จะต้องมอบเป็นค่าใช้จ่ายให้แก่ฝ่าบาทในวันนี้
ตอนนี้เงินจู่ๆ ก็ถูกลักเอาไป เขาจะอธิบายกับฝ่าบาทยังไง?
กิจการของตระกูลไป๋แม้ว่าจะใหญ่กว่านี้อีก จะให้เขารวบรวมเงินจำนวนมหาศาลเช่นนั้นในระยะเวลาเพียง 1 วัน กลับเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดเช่นกัน
แต่ที่ทำให้เขาตะลึงจนอึ้งไปก็คือองครักษ์มากมายเช่นนั้นในจวนไป๋ มีการคุ้มกันที่แน่นหนา คิดไม่ถึงว่าจะไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่นิด
เงินมากมายเช่นนั้น จะเคลื่อนย้ายไปแน่นอนว่าต้องไม่ใช่เรื่องง่ายดาย
แต่ว่าคนผู้นั้นกลับทำได้อย่างไร้สุ้มเสียง แม้แต่เขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นใดๆ เลย
คนผู้นั้นที่แท้เป็นเทพมาจากที่ใดกันแน่?
เขาจะต้องคิดหาวิธีที่จะหาคนผู้นั้นให้เจอแน่
เพียงแต่ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นการแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายที่อยู่ในตอนนี้
ไป๋อี้เฉินมองดูซวนหยวนหรงโม่ที่ไม่ทราบว่ากำลังขบคิดอะไรอยู่ในขณะที่นั่งอยู่ในเรือชมทัศนียภาพ กล่าวหารือเสียงเบาๆ ว่า: “องค์ชายเจ็ด เมื่อคืนจวนไป๋มีขโมยขึ้น เงินทั้งหมดถูกลักเอาไป ขอให้องค์ชายเจ็ดยืดหยุ่นให้ด้วย อย่าป่าวประกาศเรื่องนี้ออกไปชั่วคราว อี้เฉินจะรวบรวมเงินให้ครบภายใน 5 วันได้แน่ แล้วส่งคนนำไปส่งให้ที่ค่ายทหารโดยตรง”
หากจะบอกว่าการร้องขอนี้ของไป๋อี้เฉินก็ค่อนข้างจะเกินไปหน่อย ยังไงเงินนั่นก็เป็นเงินที่จวนไป๋ต้องออก อีกอย่างการถูกลักเอาไปนั้นเป็นความจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร
555น้องแสบ...
รออ่านน้า ชอบ มากเลยค่ะทุกเรื่องที่แอดลง อ่ะ...