พอโจวกุ้ยหลานได้ยินเสียงก็ออกมาจากในครัว เห็นเขาถือไก่ป่าสองตัวในมือ
“รีบไปล้างหน้าล้างตาเถอะ แล้วมากินอาหารเช้า พี่ชายพวกเรามาตั้งนานแล้ว” โจวกุ้ยหลานกล่าวพลางหมุนตัวกลับห้องครัว ยกน้ำออกมากะละมังหนึ่ง แล้ววางบนโต๊ะ
สวีฉางหลินรับคำ ยกขาเดินไปล้างหน้า
เหล่าไท่ไท่ส่งสายตากับโจวกุ้ยหลาน โจวกุ้ยหลานพลันเข้าใจจึงรีบเดินไปหา
“เดี๋ยวเจ้าต้มแกงแล้วส่งไปที่บ้านลุงใหญ่เจ้าครึ่งหนึ่ง เมื่อวานครอบครัวเขาอาละวาดทั้งวัน หวังหยู่ชุนแบ่งอาหารไปไม่น้อย ในบ้านยังมีคนป่วยสองคน เราก็ส่งไปให้พวกเราบำรุงหน่อย” เหล่าไท่ไท่ขยับเข้าข้างหูโจวกุ้ยหลาน กระซิบกระซาบ
“ไม่อย่างนั้นข้าเอาไก่ไปให้ตัวหนึ่งแล้วกัน แบบนี้ท่านลุงใหญ่จะได้กินบ้าง” โจวกุ้ยหลานเอ่ย
ครั้นนึกถึงรูปร่างผอมแห้งของโจวต้าซาน โจวกุ้ยหลานจึงตอบรับเสียงหนึ่ง
อย่างไรนั่นก็เป็นลุงใหญ่ของนาง เป็นลุงใหญ่ที่ใช้ชีวิตของตัวเองทั้งครอบครัวช่วยพวกนางทั้งบ้าน
“ไอ้หยา เจ้าโง่หรืออย่างไร? ถ้าให้ไก่หนึ่งตัว พวกเขาก็ต้องคิดว่าบ้านเจ้ายังมีไก่อีกเยอะ ถ้าเจ้าให้ครึ่งตัว พวกเขาก็จะรู้ว่าบ้านเจ้ามีไก่แค่ตัวเดียว แต่ยังอุตส่าห์แบ่งให้พวกเขาครึ่งหนึ่ง นี่ก็คือน้ำใจ!”
เหล่าไท่ไท่กลอกตาใส่โจวกุ้ยหลาน อธิบายกับนาง
เหมือนจะมีเหตุผลแฮะ
โจวกุ้ยหลานครุ่นคิด รู้สึกว่าเหล่าไท่ไท่กล่าวได้ถูกต้อง
“จริงสิ เมื่อวานพวกเขาแยกบ้านกันอย่างไร?” โจวกุ้ยหลานนึกถึงเรื่องเมื่อวานจึงถาม
แต่พอพูดถึงเรื่องเมื่อวาน สีหน้าเหล่าไท่ไท่ก็ไม่สู้ดีนัก “พี่สะใภ้หยู่ชุนเจ้าคนนั้นเลวจริงๆ พอผู้ใหญ่บ้านกับกํานันมาถึงบ้านก็อาละวาดอีกพักหนึ่ง บอกว่าจะแยกบ้านตามจำนวนผู้ชาย ครอบครัวพี่รองเจ้ามีผู้ชายสี่คน ส่วนลุงใหญ่เจ้ากับซานเฉียงมีผู้ชายแค่สองคน ของก็เลยถูกนางแย่งเอาไปเป็นส่วนใหญ่ ”
นี่...ยังมีการแบ่งแบบนี้ด้วย?
“แล้วท่านป้าใหญ่ข้ารับปากหรือ?” โจวกุ้ยหลานรู้สึกว่าเรื่องนี้จะเกินไปแล้ว
ต่อไปซานเฉียงยังมีลูกอีก แต่ตอนนี้กลับไม่ได้อะไรเลย?
อีกอย่าง ท่านลุงใหญ่กับท่านป้าใหญ่เป็นผู้ใหญ่ แถมยังเป็นคนป่วยอีก ส่วนทางพี่เอ้อร์เฉียงเป็นเด็กสามคน...
“จะทำอย่างไรได้ นางลุกขึ้นมาอาละวาดได้หรือ! หวังหยู่ชุนร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตรงนั้น บอกว่าถ้าไม่แบ่งอย่างนี้นางจะเอาลูกสามคนกลับบ้านแม่ ลุงใหญ่เจ้าเองก็จนปัญญา”
ว่าแล้วเหล่าไท่ไท่ก็เดือดปุดๆ
ทำไมถึงตบแต่งเจ้าคนพรรค์นี้กลับมาได้นะ?
โจวกุ้ยหลานรู้สึกว่ามีเรื่องกับหวังหยู่ชุนไม่ได้จริงๆ
“พวกเราที่นี่มีกฎ แยกบ้านแล้วญาติต้องมอบของเสริมสักหน่อย เมื่อคืนข้าส่งไปให้แล้ว วันนี้เจ้าก็เอาไก่ไป”
เหล่าไท่ไท่กลัวว่าโจวกุ้ยหลานจะไม่เข้าใจจึงอธิบาย
โจวกุ้ยหลานพลันกระจ่าง พยักหน้า
เมื่อกลับห้องครัวก็เห็นสวีฉางหลินกำลังตักโจ๊กอยู่พอดี
โจวกุ้ยหลานเดินสองสามก้าว หยิบขนมหัวไชเท้าออกมาจากตู้กับข้าวจานหนึ่ง วางไว้บนเตา ให้เขารับประทานอยู่ตรงนั้น ส่วนนางก็ตักน้ำใส่ในหม้อ ไปที่เตาแล้วหยิบฟืนเริ่มต้มน้ำ
ไม่นานสวีฉางหลินก็รับประทานอาหารเช้าเสร็จ พร้อมกับล้างถ้วยด้วย
ตอนเช้าตัดต้นเอาไปตากแดดอยู่ที่โล่ง ตกบ่ายก็นำไม้ที่ตัดตอนเช้ามาเผาถ่าน
สวีฉางหลินคิด จากนั้นก็เดินเร็วออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...