ต้องรักษาชีวิต รักษาชีวิตไว้!
เฉินโหยวซวนเหงื่อแตกซิก มือเจ็บ และหวาดกลัว ตกอยู่ในสภาวะใกล้บ้าเต็มทน
สวีฉางหลินที่อยู่ข้างๆมองดูสีหน้าเขาแล้ว พูดออกมาว่า “ตามใจเจ้า”
เขาดึงขาตนเองกลับมา ย่อตัวลงจะแบกเฉินโหยวซวนขึ้นอีก
“ข้ายอมแล้วข้ายอมแล้ว! ข้าทำเอง ข้าทำทั้งหมดเอง! พวกเจ้าปล่อยข้าไปเถอะ ขอร้องพวกเจ้าปล่อยข้าเถอะ!”
เฉินโหยวซวนถอยหลังอย่างหวาดกลัวอีก แต่พอเขาขยับ มือก็เจ็บหนักขึ้น
เขากัดฟัน สูดลมหายใจสะท้านเยือก
พูดออกมาแล้ว.....
โจวกุ้ยหลานสบตากับสวีฉางหลิน พลางแอบถอนหายใจโล่งอก
“ข้าจะรู้ได้ไงว่าเจ้ายอมสารภาพแค่ให้พวกเราปล่อยเจ้าไป?” โจวกุ้ยหลานถามต่อ
เรื่องนี้จะจบแบบนี้ไม่ได้ นางต้องเอาให้แน่ใจ ในเมื่อจะจัดการเรื่องนี้เอง งั้นนางก็ไม่อยากให้เขายอมสารภาพเพราะโดนทรมาน ดังนั้นต้องถามให้แน่ชัด
“ข้าวางเพลิงเอง ข้ายังสุมท่อนไม้ไว้นอกประตูและหน้าต่างบ้านเจ้าด้วย และยังเอาน้ำมันในบ้านสาดไว้ด้านบน เพราะเรื่องนี้ข้ายังทะเลาะกับพี่สะใภ้ เจ้าไปถามพี่สะใภ้ข้าได้!”
เวลานี้เฉินโหยวซวนไม่กล้าปิดบังอีก แค่เขาเหลือบตาไปทางสายตาเรียบเฉยของสวีฉางหลิน ใจเขาก็สั่นเป็นกลองเพล รู้สึกว่าชายผู้นี้น่ากลัวนัก
ถ้าเขาไม่พูด ชายผู้นี้ต้องใช้วิธีต่างๆมากมายมาจัดการเขาแน่ บางที.... บางทีอาจจะให้เขาเลือดไหลหมดตัวแล้วทิ้งเขาไว้ในป่าลึก ให้สัตว์ร้ายกัดกินก็ได้....
ยิ่งคิด เขาก็ยิ่งกลัว จนลืมความเจ็บปวดของเนื้อตัวไปสิ้น
“งั้นแปลงผักของเราเล่า?”
โจวกุ้ยหลานถามต่อ
“ข้าทำเอง ข้ารู้ว่าเจ้าชอบนอนกลางวัน ข้าเลยเข้าไปทำลายแปลงผักเจ้าเวลานั้น!”
เฉินโหยวซวนรีบตอบ กลัวทั้งสองคนไม่เชื่อ ยังพูดไปพยักหน้าไปอีก
โจวกุ้ยหลานโกรธจัด เป็นเขาทำจริงๆ! ถึงก่อนหน้านี้จะสงสัย แต่พอฟังเขายอมรับกับปากแล้ว นางก็โกรธแทบลมจับ
“เจ้าทำอย่างนี้ทำไม?” โจวกุ้ยหลานโกรธจัดแล้ว ตะคอกถามเสียงดัง
คนผู้นี้โหดร้ายมากจริงๆ เกือบโดนเขาฆ่ายกบ้านแล้ว
เฉินโหยวซวนตอนนี้ก็ไม่มีแก่ใจจะคุยกับโจวกุ้ยหลานแล้ว เขาพึมพำว่า “ข้าทำเอง พวกเจ้าจับข้าไปให้ทางการเถอะ! ขอร้องพวกเจ้าล่ะ ให้ข้าเข้าคุกเถอะ!”
โจวกุ้ยหลานโกรธจนเตะเขาอย่างแรงไปหนึ่งที แต่ยังไม่สาแก่ใจ ก็เตะรัวๆไปอีกหลายที จนตนเองเหนื่อย แต่ความโกรธยังไม่สลายหายไป
สองเดือนก่อนนางเกือบตายไปครั้งหนึ่ง พึ่งจะได้อยู่ดีกินดี ก็มาโดนคนอย่างนี้จ้องจนเกือบตายเป็นครั้งที่สอง
ยังมีเจ้าก้อนน้อย เขายังไม่ถึงสามขวบเลยนะ เกือบโดนไฟคลอกตายเหมือนกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะที่บ้านมีโอ่งน้ำไว้ และในโอ่งน้ำมีน้ำอยู่ บวกกับสวีฉางหลินกลับมาทันเวลา นางกับเจ้าก้อนน้อยก็ตายไปนานแล้ว!
พอคิดอย่างนี้ ก็เตะไปอีกหลายที
สวีฉางหลินเห็นโจวกุ้ยหลานเตะไปหลายทีติดๆกัน ก็ยื่นมือเข้ามาอุ้มนางทั้งตัว และถอยหลังไป
โจวกุ้ยหลานโดนอุ้มขึ้นทั้งตัว ก็ยังเตะไปอีกหลายที แต่เท้านั่นกลับเตะไปมากลางอากาศ ไม่โดนตัวเฉินโหยวซวน
เฉินโหยวซวนที่เจ็บปวดหนักนาถอยหลังไปอีก เขาร้องไห้เสียงดังด้วยความเจ็บไปทั้งตัว
เจ็บจะตาย...เจ็บจะตายแล้ว เขาจะตายแล้ว
“ภรรยาข้า อย่าเตะเลย เจ็บขา” สวีฉางหลินถอยหลังไปหลายก้าว ปลอบโยนโจวกุ้ยหลานแล้วจึงวางนางลงมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...