“อะไรนะ? นี้ถือว่ายังถูกอยู่อีกหรือ?”
“กุ้ยหลานแบบนี้ไม่โง่เกินไปหน่อยหรือ?”
รอบรอบข้างล้วนแต่ถกเถียงกันจ้อกแจ้กจอแจ ทำไมถึงให้ราคากระดาษไม่กี่แผ่นมากมายขนาดนี้ สู้เนื้อไม่ได้
สีหน้าของเหลิวอ้ายเริ่มแดงขึ้น หนังสือพวกนั้นเป็นชีวิตและจิตใจของพ่อเขา สุดท้ายกลับโดนผู้คนมากมายเย้ยหยันแบบนี้
“ไม่ใช่แค่หนังสือของเขา บ้านพวกเจ้ามีหนังสืออะไร ไม้ไผ่อะไรก็ตามที่มีค่าของบรรพบุรุษที่หลงเหลือไว้หรือภาพวาดอะไรก็ตาม ที่นี่รับหมด ของพวกนี้ตีราคาตามจริง” โจวกุ้ยหลานพูดอย่างยิ้มๆ
พอพูดเท่านั้นแหละ บรรดาผู้คนต่างเอะอะดังลั่น อะไรมันจะดีขนาดนี้ แลกอะไรก็ได้งั้นหรือ!
ผู้คนไม่น้อยต่างก็กลับบ้านไปหาสิ่งของที่บ้านกัน
โจวกุ้ยหลานหันกลับมาและก้มมองเหลิวอ้าย ถามเขาว่า “เจ้ายอมแลกไหม?”
“แลกครับ แต่ข้าไม่ได้เอามา ข้ากลัวว่าท่านจะไม่รับ เลยลองมาถามดูก่อน” เหลิวอ้ายตอบด้วยความดีใจ
โจวกุ้ยหลานมองดูรูปร่างผอมบางของเขา ยิ้มและพูดว่า “เจ้าจะแลกเท่าไร?”
“ประมาณสิบกว่าเล่มครับ” เหลิวอ้ายคิดเสร็จจึงตอบไป
หนังสือสิบกว่าเล่ม หิมะตกหนักขนาดนี้ กลัวว่าเด็กขนาดนี้จะขนมาไม่ไหว โจวกุ้ยหลานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนยกเท้าเดินออกไป บริเวณลานบ้านมีผู้ชายร่างใหญ่อยู่สองสามคนกำลังจัดการหมูที่พึ่งฆ่าไปเมื่อครู่นี้ โจวกุ้ยหลานตะโกนเรียกโจวต้าไห่ ให้เขาไปช่วยขนหนังสือมา
โจวต้าไห่ล้างมือเสร็จก็เดินตามเด็กคนนั้นลงเขาไป
และก็มีเรื่องยุ่งเกิดขึ้นอีก ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา การเงินก็ไม่ขยับอีกเลย มีแต่คนเอาหมูมาแลกเป็นเนื้อบ้าง แป้งก๋วยเตี๋ยวบ้าง ข้าวโพดบ้าง บางคนก็มาแลกผ้าไป
พอคนเริ่มเอาของมาแลกเยอะขึ้น บางคนเอาผ้ามาแลกอาหาร บางคนก็เอาอาหารมาแลกเป็นจอบเสียมที่ช่างเหล็กตีมาอย่างดี
เวลาอาหารเย็นใกล้เข้ามา โจวต้าไห่แบกหนังสือมายี่สิบกว่าเล่ม เดินกลับมาพร้อมกับเหลิวอ้าย โจวกุ้ยหลานดูแล้วส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือบันทึกการท่องเที่ยวอะไรประมาณนั้น บางเล่มก็เกี่ยวกับภูเขาแม่น้ำที่มีชื่อเสียง แต่หนังสือพวกบทกลอนบทกวีต่างๆ กลับไม่มีแม้แต่เล่มเดียว
โจวกุ้ยหลานเข้าใจว่าพวกเขาคงยังตัดใจเอาหนังสือพวกนั้นออกมาไม่ได้ แต่หนังสือพวกนี้มันเป็นที่ต้องการของนางนะ! แต่มันก็ใช้ฆ่าเวลาเพื่อทำความเข้าใจประเพณีท้องถิ่นของที่นี่ได้ ใช้เงินสามสิบอีแปะซื้อมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ!
ได้กำไรแล้ว ได้กำไรมหาศาลเลย!
โจวกุ้ยหลานรู้สึกดีใจ นับดูแล้วทั้งหมดมียี่สิบสามเล่ม ตามที่นางบอกไว้ทั้งหมดก็หกร้อยเก้าสิบอีแปะ
“เจ้าแลกข้าวโพดได้สี่ร้อยหกสิบจิน ให้ข้าจัดให้เลยไหม?” โจวกุ้ยหลานยิ้มและจัดหนังสือเหล่านั้นคลุมด้วยผ้าหนึ่งผืน
เหลิวอ้ายเองก็คิดไม่ถึงว่าหนังสือพวกนี้จะแลกอาหารได้เยอะขนาดนี้ ก็รู้สึกดีใจ ถ้าเข้าไปในตำบล คงไม่ได้เยอะแบบนี้แน่ๆ
“แลก แต่ข้าอยากแลกแป้งหมี่ขาวสามสิบจิน ที่เหลือขอแลกเป็นข้าวโพด...” พูดพลางก็รู้สึกเกรงใจไปด้วย
“ตกลง งั้นข้าไปชั่งให้เจ้าก่อน ถ้าเสร็จแล้วจะให้พวกเขาเอาไปส่งให้เจ้าที่บ้าน” โจวกุ้ยหลานพูดพลางก็ไปเอาตาชั่งเริ่มทำการชั่งทันที
คนที่มาใหม่ข้างๆ เห็นดังนั้นก็ถามคนที่อยู่ข้างๆ ว่าแบบนี้ต้องทำยังไง บางคนที่กลับไปจากที่นี่ก็เอาเรื่องนี้ไปบอกต่อกันบ้างแล้ว
บรรดาคนที่มาทีหลังต่างก็ตกใจกัน หลายคนก็กำลังครุ่นคิดในใจ
โจวกุ้ยหลานเอาแป้งหมี่ขาวและอาหารจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ก็ตะโกนเรียกเอ้อร์เฉียง ซานเฉียง สวีฉางหลินและโจวต้าไห่ให้เอาอาหารไปส่งให้เหลิวอ้ายด้วยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...