ทุกวันนี้สวีฉางหลินล้วนสอนพวกเขาทั้งคู่ด้วยอักษรง่าย ๆ คำยาก ๆ อย่างหู่สวีฉางหลินไม่เคยสอนเลย
“อ๋า งั้นทำอย่างไรล่ะ พวกข้าล้วนไม่รู้ว่าชื่อตัวเองเขียนอย่างไร...” เสี่ยวหู่หดหู่มาก
เจ้าก้อนน้อยพยายามคิด คิดครู่หนึ่ง ยกปากยิ้มกล่าวว่า “พ่อข้าเขียนได้!”
“จริงด้วย ลุงเขยเขียนได้ พวกเราให้เขาสอนพวกเราเขียนอักษรไหม” เอ้อร์ญาเสนอความคิดเห็นอย่างยินดี
พวกเด็กเหล่านี้ล้วนดีใจ พากันยืนขึ้นอย่างอลหม่าน เจ้าก้อนน้อยนั่งยอง ๆ นานแล้ว ขาเลยชา ไม่ทันระวังก้นจ้ำเบ้าลงพื้น
เขาใช้มือและเท้า พยุงลุกขึ้นจากพื้น มือทั้งสองข้างเอื้อมไปด้านหลังปัดก้นน้อย ๆ ของตัวเอง แววตาสั่นเครือ พอเห็นแม่ของตัวเอง ก็ยกยิ้มขึ้นมา แล้ววิ่งไปหานาง
โจวกุ้ยหลานเห็นเขาดีใจ ก็เอื้อมมือไปหาเขา เจ้าก้อนน้อยวิ่งไปหา ดึงมือของโจวกุ้ยหลานมา แล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ ข้าเขียนหู่ไม่เป็น”
“แม่ก็เขียนไม่เป็น” โจวกุ้ยหลานตอบกลับ แล้วย่อกายลง ช่วยเขาปัดดินบนหัวเข่า
พวกต้าญาก็รีบโจวกุ้ยหลาน เห็นพวกเขาน่ารักขนาดนี้ ในใจโจวกุ้ยหลานก็เอ็นดูขึ้นมา ถามพวกเขาด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเจ้าอยากรู้อักษรหรือ”
พวกเด็ก ๆ พยักหน้า แต่เพียงแวบเดียวก็ส่ายหน้า
พวกเขาล้วนไม่อาจจะกินอิ่ม ไหนเลยจะไปเรียนรู้อักษรได้กัน?
โจวกุ้ยหลานเข้าใจความคิดของพวกเขา ก็ลูบหัวเสี่ยวหู่ “ถ้าคราวหน้าลุงเขยพวกเจ้าว่าง ก็ให้เขาสอนพวกเจ้าเขียนชื่อของตัวเอง”
“จริงหรือ”
“ขอบคุณน้า!”
พวกเด็ก ๆ หัวเราะอย่างตื่นเต้น ตอบมา
เห็นพวกนางดีใจขนาดนี้ โจวกุ้ยหลานก็ดีใจด้วย
นางกับเจ้าก้อนน้อยสองคน รวมทั้งพวกเด็ก ๆ วาดไปมาบนพื้นด้วยกัน สอนพวกเขาเขียนอักษร พวกเด็ก ๆ เรียนอย่างตั้งใจมาก ท่าทางพวกเขาที่เรียนแต่ละคนขีดเขียนแต่ละเส้นได้อย่างสะเปะสะปะ
ไม่นาน ได้ยินเสียงตีฆ้องมาจากด้านนอก พวกชุ่ยฮวาก็วิ่งออกมาทันที เห็นโจวกุ้ยหลานก็รีบเอ่ยเรียก “กุ้ยหลาน รีบเร็ว คนรับตัวเจ้าสาวมาแล้ว ต้องจัดโต๊ะอาหารแล้ว รีบไปอุ่นอาหารเร็ว!”
โจวกุ้ยหลานตอบรับหนึ่งประโยค หันกลับมาขอให้ต้าญาดูแลพวกน้องสาวน้องชายให้ดี ส่วนตัวเองก็กลับไปอุ่นอาหารที่ห้องครัวทันที
ยุ่งวุ่นวายอุ่นอาหารให้เสร็จ พวกชายฉกรรจ์ที่เดินโต๊ะถือถาดอาหารมายกอาหารไป คนในห้องครัวยุ่งมาก ต้องรอพวกเขาทำเสร็จก่อน พวกเขาถึงจะได้พักหายใจ
คนที่ครัวขณะนั้นเพิ่งเริ่มมื้ออาหารกินข้าวกัน โจวกุ้ยหลานเรียกพวกเด็ก ๆ เข้ามา ช่วยพวกเขาเตรียมอาหารให้ ให้พวกเขานั่งกินอีกด้านหนึ่ง
“ต้าซานให้ความสำคัญกับชิวเซียงจริง ๆ เจ้าดูอาหารพวกนี้สิ มีทั้งข้าวขาว เทียบกับโต๊ะอาหารงานแต่งลูกสะใภ้ของบ้านผู้ใหญ่บ้านดีกว่าอีก!”
“นั่นน่ะสิ อาหารพวกนี้มีเนื้อไม่น้อยเลย แหม ชีวิตชิวเซียงนี่ดีจริง ๆ มีพ่อแม่ที่รักใคร่นาง!”
คนพูดคุยด้วยน้ำเสียงอิจฉา
แม่นางหมู่บ้านนี้นั้นไม่ใคร่คนที่ได้รับความสำคัญ ตั้งแต่เด็กที่บ้านการกินก็ไม่ดีของที่สวมใส่ก็ไม่ดี บ้านอื่นแต่งลูกสาวที่ให้ความสำคัญก็จะทำอาหารให้พวกญาติกิน ถ้าไม่ให้ความสำคัญ ก็จะรับสินสอดทองหมั้นแล้วให้แม่นางตัวเองห่อของไปบ้านฝ่ายชาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...