“งั้นข้าคนแรก” ลูกสาวคนโตพูดขึ้น พร้อมเดินหน้าไป ยกนิ้วโป้งขึ้นมาประทับบนน้ำหมึก แล้วประทับลงบนกระดาษ
กํานันพยักหัว เด็กหลายคนที่อยู่ข้างหลังก็เดินตามมา ประทับลายนิ้วมือตามนาง
ซุนโก่วต้านก็ถูกแม่ของตนเองบีบบังคับจนหมดหนทาง จำต้องไปข้างหน้า ประทับลายนิ้วมือของตนเองเหมือนกัน
หนังสือมีทั้งหมดสามฉบับ ให้โจวคายจือหนึ่งฉบับ ตระกูลซุนหนึ่งฉบับ ให้กํานันอีกหนึ่งฉบับ ถึงตอนนั้นจะต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานในอำเภอ
“เอาล่ะ เรื่องก็จบลงเท่านี้แล้ว” กํานันพูดขึ้นมา พร้อมจบเรื่องนี้
“โก่วต้าน เราไปกันเถอะ” ป้าซุนเชิดหน้า ราวกับแม่ไก่ตัวหนึ่งที่รบได้ชัยชนะ
ซุนโก่วต้านกอดอกอยู่ด้านข้าง มองดูภรรยากับลูกตนเองอย่างไม่สบายใจ
ป้าซุนที่ปกติอยู่บ้านแล้วพูดคำไหนคำนั้น เห็นลูกชายตนเองไม่เชื่อฟัง ก็ยื่นมือไปดังหูซุนโก่วต้าน แล้วลากตัวออกไป ซุนโก่วต้านก็กลัวแม่ของตนโกรธโมโหอีก จึงรีบตามแม่ของตนเองไป
ทางด้านนี้ เหล่าไท่ไท่ถอนหายใจ ให้โจวต้าไห่เชิญกํานันเข้าไปในบ้าน เอาน้ำมาต้อนรับ ส่วนนางก็ตบบ่าโจวคายจือ พร้อมพูดกับโจวคายจือว่า “ไม่เป็นไร ต่อไปหากน้องสะใภ้ของเจ้าไม่อยากให้พวกเจ้าอยู่ด้วย แม่ก็จะแยกบ้านกับพวกเขา”
โจวคายจือรู้สึกอัดอั้น เศร้าเสียใจ ร้องเรียกแม่แล้วก็กอดเหล่าไท่ไท่ร้องห่มร้องไห้ขึ้นมา
ยายกับสะใภ้ที่อยู่ด้านข้างต่างพูดกล่อม ลูกๆหลายคนก็โอบล้อมนาง
เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว ท้องของโจวกุ้ยหลานก็ร้องขึ้นมา จึงไม่รบกวนคนอื่น ดึงสวีฉางหลินกลับไปที่บ้านของตนเอง
มาถึงบนเขา เมื่อเปิดประตูก็เห็นเจ้าก้อนน้อยกำลังคุกเข่าขุดไส้เดือนอยู่บนพื้น โจวกุ้ยหลานยิ้มแย้ม ลูบหัวของเขาแล้วก็เข้าไปในครัว อุ่นกับข้าว แล้วก็ทานข้าวเที่ยงด้วยกัน
รอทานเสร็จแล้ว โจวกุ้ยหลานเอาแป้งออกมาสองจินยื่นให้กับสวีฉางหลิน ให้เขาลงเขาเอาไปให้หลิวซิ่วฉาย
สวีฉางหลินก็ไม่พูดอะไร รับแป้งมาแล้วก็เดินลงเขา
โจวกุ้ยหลานเก็บกวาดบ้าน เมื่อออกมาจากห้องตนเอง ก็ไปเก็บกวาดห้องทางทิศตะวันออก
ห้องทางทิศตะวันออกนี้มีสามห้องนอน พี่ครอบครัวพี่สาวใหญ่มาอยู่ ถือว่าเพียงพอ
เพิ่งเก็บกวาดยังไม่ทันเสร็จ สวีฉางหลินก็พาหมอหวังกลับมา
สวีฉางหลินพาหมอหวังไปนั่งในห้องหลัก ดึงโจวกุ้ยหลานไป ให้โจวกุ้ยหลานยื่นมือให้หมอหวังตรวจชีพจร
“ข้าสบายดีอยู่ ทำไมต้องให้หมอตรวจ?” โจวกุ้ยหลานพูดพร้อมกับยื่นมือตนเองออกมาด้วย
สวีฉางหลินไม่ตอบ ร่างกายสุขภาพดีหรือไม่ ยังไงก็ให้หมอตรวจดีกว่า
“ร่างกายเจ้าสบายดีหรือ? ข้าตรวจไม่เจอหยางชี่เลย” หมอหวังขมวดคิ้ว น้ำเสียงค่อนข้างหนักแน่น
“อะไรนะ?” โจวกุ้ยหลานอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“เจ้ามีความพร่องหยางที่เกิดจากการขาดหยิน จนพร่องหยางหยิน ร่างกายนี้เกรงว่าคงไม่ไหวแล้ว” หมอหวังพูดพร้อมกับขมวดคิ้วหนัก
โจวกุ้ยหลาน “……”
เรื่องนี้นางไม่เข้าใจ เวลาแบบนี้นางต้องหุบปากเท่านั้น
สวีฉางหลินก็ขมวดคิ้ว จำได้ว่าภรรยาของตนเองกลัวหนาวมาก คงเป็นเพราะแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...