โจวคายจือกับพวกลูกๆลุกขึ้นมาพร้อมกัน แล้วก้มหน้าเงียบไม่พูดอะไร
ดูท่าทีของพวกเขาแล้ว ในใจโจวกุ้ยหลานหงุดหงิดอย่างมาก นางเป็นคนตรง จึงไม่อ้อมค้อมกับพวกเขา พูดขึ้นทันทีว่า “ซุนโก่วต้านตบตีพวกเจ้าในบ้านของข้า ข้าไม่มีทางยอม หากพวกเจ้าทำใจไม่ได้ คิดว่าข้าทำเกินไป พวกเจ้าก็กลับไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ข้าจะไม่ห้ามแน่นอน”
โจวคายจือตกใจ พวกลูกๆก็ตื่นเต้นกันขึ้นมา
เมื่อกี้ในใจพวกเขาเป็นห่วงพ่อ ยังไงก็เป็นพ่อของตนเอง ถูกต่อยตีแบบนี้พวกเขารู้สึกสงสาร แต่น้ารู้ได้อย่างไร?
“กุ้ยหลาน พวกเรา.... พวกเราไม่ได้หมายความแบบนั้น.....” โจวคายจือกลัวโจวกุ้ยหลานโกรธ จึงรีบพูดปลอบ
โจวกุ้ยหลานระงับอารมณ์ตนเองไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเจ้ามีความรู้สึกแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ข้าสามารถเข้าใจได้ แต่จะไม่สงสาร ข้าโจวกุ้ยหลานขอมีชีวิตอยู่อย่างสบายใจ พวกเจ้ายังคิดถึงคนของตระกูลซุน งั้นพวกเจ้าก็กลับไปยังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน”
เมื่อพูดเสร็จ ภายในบ้านก็เงียบสงัด
โจวกุ้ยหลานก็ไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้อีก เรียกสวีฉางหลิน พร้อมบอกว่าตนเองเจ็บมือ สวีฉางหลินรีบเดินมาหา ดึงมือของนางไว้ แล้วจะรีบพานางออกไป
เจ้าก้อนน้อยที่อยู่ด้านข้างก็รีบวิ่งมาหา อยากช่วยเป่าให้นาง กลับถูกสวีฉางหลินขวางไว้
บนมือโจวกุ้ยหลานยังเห็นรอยเลือดไม่น้อย มีเลือดไหลออกมาเป็นอยู่บาง ก่อนที่โจวกุ้ยหลานจะออกไปกับสวีฉางหลิน คิดถึงหลิวเกาจึงถามเขาว่าบาดแผลเป็นยังไงบ้าง หลิวเกาส่ายหัว บอกว่าตนเองไม่เป็นไร โจวกุ้ยหลานบอกว่าวันนี้ให้เขาพักผ่อนไม่ต้องสอนหนังสือ แล้วค่อยออกไปกับสวีฉางหลิน
เมื่อเปิดประตู ก็ไม่เห็นซุนโก่วต้านแล้ว โจวกุ้ยหลานกวาดสายตามองดู แล้วค่อยออกไปกับสวีฉางหลิน
สวีฉางหลินกลัวโจวกุ้ยหลานเจ็บมือ จึงใช้ผ้าขาวพันมือโจวกุ้ยหลานไว้ แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวเลือดไหลออกมาอีก
เจ้าก้อนน้อยที่อยู่ด้านข้างเดินตามมา ถามโจวกุ้ยหลานว่าเจ็บไหมอยู่บ่อยครั้ง
ทำให้ปลาบปลื้มใจทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ โจวกุ้ยหลานค่อยสบายใจขึ้นมาบ้าง พูดตอบอย่างยิ้มแย้มว่าไม่เจ็บ
“ข้ายุ่งมากไปหรือเปล่า? คนอื่นเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน ซุนโก่วต้านก็เป็นพ่อของพวกเขา พวกเขาเห็นใจก็ถือเป็นเรื่องปกติ” โจวกุ้ยหลานคิดถึงเรื่องเมื่อกี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถามสวีฉางหลิน
เมื่อกี้ตอนที่สวีฉางหลินทำร้ายซุนโก่วต้าน ลักษณะท่าทีบนใบหน้าของพวกเด็กๆ นางเห็นอย่างชัดเจน ดังนั้นต่อมาจึงพูดคำพูดพวกนั้นออกมา
“แต่เขาทำร้ายเจ้า” สวีฉางหลินพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
ช่วงนี้กว่าภรรยาของตนเองจะรักษาจนสุขภาพดีขึ้นมาบ้างแล้ว ยังกล้ามาทำให้เลือดไหลอีก
“ข้าเห็นว่าเขาทำเกินไป มาบ้านเราแล้วยังกล้ามาทำร้ายคน ตอนที่อยู่บ้านตัวเองไม่รู้ว่าจะทำขนาดไหน ทำไม คิดว่าภรรยากับลูกของตนเองจะตบตียังไงก็ได้หรือ? ไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่อย่างสงบจริงๆ” โจวกุ้ยหลานคิดถึงภาพเมื่อก่อนหน้านั้น ในใจก็ยิ่งโกรธโมโห
“เจ้าสงสารพี่สาวใหญ่ของเจ้า” สวีฉางหลินพูดตรงๆ
โจวกุ้ยหลานก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ปิดบังว่า “พี่สาวใหญ่ของข้าโง่มาก ผู้ชายแบบนี้หย่าก็หย่ากันแล้ว ยังจะช่วยเขาขอร้อง ข้าเห็นลักษณะท่าทีของนางเมื่อกี้ย่ำแย่ที่สุด ยังอยากพูดขอร้องข้า ข้าว่านางยังถูกตบตีไม่พอ คราวหน้าหากเจอเรื่องแบบนี้อีก ข้าจะไม่สนใจ หากวันนี้พวกเขาคิดว่าข้าทำไม่ถูก ก็ให้พวกเขากลับไป ต่อไปพวกเราก็จะไม่ไปมาหาสู่พวกเขา”
เรื่องที่ทำให้ตัวเองต้องเสียใจแบบนี้ นางไม่อยากทำ
สวีฉางหลินขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเป็นห่วงพวกเขาเกินไป”
นับตั้งแต่ครอบครัวพวกเขามา น้องนางก็ไม่ค่อยสนิทสนมกับเขาแล้ว ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ น้องนางได้รับบาดเจ็บ
“ทำไม เจ้าหึงหรือ?” โจวกุ้ยหลานถามขึ้นมา
สวีฉางหลินพยักหัว พร้อมตอบว่า “อืม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...