นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา นิยาย บท 297

ส่วนจางเสี่ยวจุ๋ย เป็นแม่หม้ายที่คบชู้สู่ชาย และมีหลักฐานตำตาว่าคบชู้กับชายหนุ่มต่างหมู่บ้าน แต่ก็ไม่สามารถจะนำไปถ่วงน้ำอย่างที่ว่าจริงๆ ใครใช้ให้โจวเสี่ยวซานอายุสั้นตายจากไปก่อน

สุดท้ายทั้งสองคนก็ถูกทำร้ายอีกรอบ และปล่อยพวกเขาไปเช่นนี้เอง

แน่นอนว่า ซุนโก่วต้านถูกทิ้งไว้ข้างถนน ส่วนจางเสี่ยวจุ๋ย ก็เดินลากเสื้อผ้าที่ขาดหลุดลุ่ยแทบจะปิดอะไรไม่มิดเดินตัวสั่นเทาผ่านบ้านชาวบ้านครึ่งหมู่บ้าน กลับไปยังบ้านตนเองท่ามกลางสายตาเฝ้าสังเกตการณ์ของทุกคน

กระทั่งนางได้สติคืนมา จึงพบว่าอาหารของนางที่ไปเอามาจากบ้านโจวกุ้ยหลานเมื่อคืนนี้ถูกขโมยไปขณะที่เกิดเรื่องชุลมุนเมื่อคืนนี้

โจวต้าซานเองก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ถึงกับเรียกหลิวเกามา ให้เขาช่วยเขียนหนังสือหย่าหนึ่งฉบับ เป็นตัวแทนของตระกูลโจวในการหย่าขาดจากจางเสี่ยวจุ๋ย แม้แต่ที่ดินทำกินที่เคยให้โจวเสี่ยวซานก็ยึดคืนกลับมาด้วย เพราะแต่ไหนแต่ไรก็มีแต่ครอบครัวพวกเขาที่คอยช่วยปลูก จางเสี่ยวจุ๋ยแค่แบ่งอาหารไปเท่านั้น นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ดินเหล่านั้นอยู่ที่ไหน จึงไม่ได้ยุ่งยากอะไร

เมื่อมีบทสรุปเช่นนี้ คนในชุมชนย่อมรู้สึกไม่พอใจ มีคนไม่น้อยที่ใช้น้ำล้างเท้าและน้ำจากส้วมสาดไปยังบ้านของจางเสี่ยวจุ๋ย ทำเอาบ้านของจางเสี่ยวจุ๋ยเหม็นหึ่งไปหมด

จางเสี่ยวจุ๋ยถูกรังแกกดขี่อยู่หลายวัน ในที่สุดก็ทนไม่ไหว เปิดประตูบ้านตนเอง ยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมกับตะโกนด่าชาวบ้าน อีกทั้งยังขานชื่อชายหนุ่มแต่ละคนที่เคยร่วมหลับนอนกับนางออกมาด้วย

เมื่อถูกนางประจานออกมาเช่นนี้ บรรยากาศก็วุ่นวายขึ้นมาทันที ชายหนุ่มของหมู่บ้านต้าสือ แทบจะเคยนอนกับนางมาแล้วทั้งสิ้น แม้แต่ผู้ใหญ่บ้านและคนแก่ในหมู่บ้านก็หนีไม่พ้น

ขณะนี้บรรยากาศในหมู่บ้านยิ่งระอุมากยิ่งขึ้น ทุกคนนอกจากจะต้องหาอาหารแล้ว ยังมาทะเลาะวิวาทกันอีก

แน่นอนว่า เรื่องเหล่านี้ล้วนนี้เป็นสิ่งที่พูดถึงหลังจากเกิดเรื่องขึ้นแล้ว

ส่วนตอนนี้ โจวคายจือได้เดินตามเหล่าไท่ไท่กลับบ้านด้วยท่าทีโซซัดโซเซ จากนั้นก็ใจลอยสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

หลังจากที่โจวกุ้ยหลานกลับบ้านแล้ว ก็ไปดูแลลูกๆของตนเองตามปกติ

หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน ไป๋ยี่เซวียนก็ให้คนมาส่งข่าว บอกว่าพวกโจวต้าไห่อยู่ในคุก

โจวกุ้ยหลานไม่กล้าลังเลให้เสียเวลา รีบไปที่บ้านของหวังโหยวเกินทันที นำเรื่องนี้ไปบอกกับหวังโหยวเกิน อยากจะปรึกษากับเขาว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี

แต่พอซิ่วเหลียนได้ยิน ก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

สุดท้ายหวังโหยวเกินก็เสนอความเห็น เขาเก็บข้าวของของตนเอง และเอาเงินในบ้าน พาโจวกุ้ยหลานและโจวต้าซานเข้าไปในอำเภอพร้อมกัน

พอไปถึงในตำบล ไป๋ยี่เซวียนก็รออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นพวกเรามากันแล้ว จึงใช้รถม้าของภัตตาคารตนเอง เร่งเดินทางเข้าไปในตำบลพร้อมกับพวกเขา

“ทำไมจึงถูกจับเข้าคุกได้ เถ้าแก่ไป๋ ท่าน ท่านเคยถามหรือไม่ว่าเพราะอะไร ”หวังโหยวเกินนั้นมีความเกรงใจต่อไป๋ยี่เซวียนเป็นอย่างมาก เพียงแต่ใบหน้านั้นมีแต่ความร้อนใจ

ไป๋ยี่เซวียนก็ไม่ได้ปกปิดอะไรพวกเขา “เห็นว่าไปมีเรื่องกับลูกชายของนายอำเภอ”

“ต้าไห่ไม่ใช่คนที่ไม่รู้กาลเทศะแบบนั้น”โจวต้าซานนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดขึ้น

สายตาของไป๋ยี่เซวียนเคลื่อนไปมองที่ร่างของโจวกุ้ยหลาน เห็นนางมีสีหน้าหนักใจ ก็ยิ้มออกมา “พวกท่านไม่ต้องกังวลมากไป เรื่องนี้อย่างไรเสียก็แก้ไขได้”

โจวกุ้ยหลานเงยหน้าขึ้นมา เห็นไป๋ยี่เซวียนกำลังยิ้มให้นางอย่างอบอุ่น นางก็รู้สึกอบอุ่นใจ พยักหน้าให้เขาเล็กน้อย เป็นสัญญาณว่าเชิญยิ้มได้ตามสบาย

รถม้าเดินทางไปถึงในอำเภอช่วงเย็นของวันที่สอง ไป๋ยี่เซวียนจัดการหาที่พักให้พวกเขา จากนั้นทุกคนก็ปรึกษากันชั่วครู่ ตัดสินใจว่าจะไปเยี่ยมในเช้าวันพรุ่งนี้

อาหารค่ำทุกคนไปกินที่ภัตตาคารของเพื่อนไป๋ยี่เซวียน เดิมทีไป๋ยี่เซวียนอยากจะได้ห้องส่วนตัว แต่ถูกหวังโหยวเกินกับโจวต้าซานห้ามเอาไว้ สุดท้ายทั้งสี่คนก็นั่งกินข้าวกันในโถงรับรองใหญ่

โจวกุ้ยหลานเอาตะเกียบขึ้นมา กำลังคีบอาหารที่ตนเองชอบ ก็ได้ยินเสียงผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆพูดขึ้นมาว่า “เฮ้อ เจ้าว่านายพลสวีมีความสามารถมากแค่ไหน ถึงกับไปช่วยเหลือนายพลหลงออกมาได้ แคว้นจี้ถูกเขาโจมตีจนต้องถอยร่นไปเลย”

“จะเป็นไปได้อย่างไร แคว้นจี้ได้ยึดครองตำบลติดต่อกันถึงห้าตำบลเลยมิใช่หรือ”

“ข่าวของเจ้ามันนานแค่ไหนแล้ว เดือนที่แล้ว แคว้นจี้เพิ่งจะถอยทัพไป”ชายคนนั้นพูดอย่างตื่นเต้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา