เดือนต่อมา เธอทำธุรกิจขยายพันธุ์ของเธอต่อไป โจวเหล่าไท่ไท่ช่วยเธอฟักลูกเจี๊ยบตัวน้อยออกมาสิบตัว ไข่ที่เหลือใช้ไม่ได้แล้ว
ถึงจะเสียดาย แต่ก็เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้วมันก็ไม่ง่ายนัก นางก็พอใจแล้ว
นางเอาหญ้าใส่เข้าไปในคอกไก่เล็กน้อย เพราะกลัวลูกเจี๊ยบจะหนาวตาย ลูกเจี๊ยบพวกนั้นเติบโตขึ้นทุกวัน โจวกุ้ยหลานเองก็พบว่าไส้เดือนจัดการเรียบร้อยแล้วเอามารวมกับข้าวโพดมาเลี้ยงไก่ได้ ส่วนนกกระทา มีถึงสิบห้าตัวแล้ว ทุกวันก็ให้ไส้เดือนบวกผสมกับเมล็ดข้าวพันธุ์ วางไข่กันอย่างเร็ว
ผักหลังเรือนก็เติบโตให้ผลผลิตผักออกมาไม่น้อย
โจวเหล่าไท่ไท่ช่วยทำเสื้อผ้าฝ้ายของทั้งสามคนออกมา ผ้าห่มผ้าฝ้ายก็ทำของใหม่ออกมา ของที่กินทุกวันก็มีมากขึ้น
ส่วนสวีฉางหลินก็เข้าป่าไปทั้งวัน ออกแต่เช้ากลับดึก โจวกุ้ยหลานแทบไม่เห็นเขาเลย
แต่ผ่านการพยายามของนางไป ร่างกายของเสี่ยวไน่เป่าเริ่มมีเนื้อขึ้นมาแล้ว เธอเองก็เริ่มมีเนื้อ ดูดีกว่าเมื่อก่อนหน่อยแล้ว ไม่เหมือนหนังหุ้มกระดูกแล้ว
แต่เช้า โจวกุ้ยหลานก็พาเสี่ยวไน่เป่าไปห้องโจวเหล่าไท่ไท่ เห็นโจวเหล่าไท่ไท่กำลังช่วยพวกเธอทำรองเท้าอยู่ โจวกุ้ยหลานยิ้มร่าเข้าไปนั่งข้างๆ ยกนิ้วโป้งให้โจวเหล่าไท่ไท่
“ท่านแม่ ฝีมือท่านแม่ดีมาก”
โจวเหล่าไท่ไท่สะบัดหน้าค้อนใส่ “เจ้ารู้จักหาข้ามาช่วยเจ้าทำงาน รีบเรียนเลย ข้ายังต้องหาเมียให้พี่ชายเจ้าอีก จะคอยช่วยเจ้าตลอดได้ยังไงกัน?”
สำหรับโจวเหล่าไท่ไท่แล้ว ลูกชายสำคัญที่สุด
โจวกุ้ยหลานไม่ใส่ใจอะไรกับคำพูดโจวเหล่าไท่ไท่ เลยบอกโจวเหล่าไท่ไท่ว่า “ท่านแม่ ข้าอยากเลี้ยงหมูสองตัวในปีหน้า ท่านแม่ช่วยข้าดูๆหน่อยนะ หากบ้านใดขายลูกหมู ก็บอกข้าหน่อย นะ?”
โจวเหล่าไท่ไท่กว้างขวางในหมู่บ้านเรื่องนี้ เรื่องช้าวบ้านทุกคนนางรู้หมดสิ้น บอกนางสะดวกที่สุดแล้ว
ได้ยินลูกสาวตนเองพูดเช่นนี้ สายตาโจวเหล่าไท่ไท่เลื่อนมาหยุดลงอีก “เจ้านี่ชีวิตไม่เลวนี่ ยังมีเงินซื้อลูกหมูอีก?”
“ก็ฟังคำท่านแม่ไง? บ้านข้าไม่มีที่นา ได้แต่เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ให้มากนี่แหละ” โจวกุ้ยหลานรับคำ
พอได้ยินนางพูดเช่นนี้ โจวเหล่าไท่ไท่ก็คลายใจลง
หนึ่งเดือนมานี้ นางช่วยลูกสาวตนทำเสื้อผ้าไม่น้อย ยังมีรองเท้า เครื่องนอนยังเปลี่ยนใหม่ ลูกสาวตนเลี้ยงไก่สิบกว่าตัวแล้ว ชีวิตเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว
“สวีฉางหลินล่ะ? ทำไมไม่มากับเจ้าด้วย?”
“เขาเข้าป่าอีกแล้ว ข้าก็ไม่เห็นเขาเหมือนกัน” โจวกุ้ยหลานบอก รู้สึกไม่ชอบมาพากล
เดือนนี้สวีฉางหลินขึ้นเขาเข้าป่าทุกวันเลย เหมือนกำลังหลบหน้าเธอ
ถ้าไม่ใช่เขาเอาของป่ากลับมาไม่น้อยทุกวัน เธอคงสงสัยว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า
แค่มองโจวเหล่าไท่ไท่ก็รู้ความคิดเธอ แค่นเสียงบอก “เจ้าน่ะได้ความสุขอยู่รอบกาย แต่กลับไม่รู้ว่านั้นคือความสุข สามีเจ้าชอบทำงานไม่ดีรึ? อากาศเริ่มเย็นแล้ว เขาไม่ล่าสัตว์เพิ่ม พออากาศหนาวแล้วพวกเจ้าจะเอาอะไรกิน?”
ก็จริง
โจวกุ้ยหลานรู้สึกว่ามีเหตุผล ถึงจะบอกว่าไก่ที่เธอเลี้ยงมีมากขึ้นเรื่อยๆ นกกระทาก็มากขึ้น แต่ก็ยังน้อยเกินไป เลี้ยงพวกเขาทั้งบ้านไม่พอหรอก
“พอข้ามปีพี่ชายเจ้าก็ยี่สิบห้าแล้ว ยังโสดอยู่อีก แม่ต้องหาเมียให้เขาให้ได้ เจ้าเก็บเงินไว้หน่อย ถึงเวลานั้นจะได้ช่วยที่บ้านได้”
โจวเหล่าไท่ไท่บอก พลางหยิบเข็มปักมุดเข้าไปในหนัง ทำรองเท้าต่อไป
“งั้นข้ากลับไปปรึกษากับสวีฉางหลินดูสักหน่อยแล้วกัน” โจวกุ้ยหลานรีบรับคำทันที
สำหรับพี่ชายคนนี้ เธอชอบอยู่ ถ้าเขาแต่งงาน เงินในมือยังไงก็ต้องให้เขายืนสักหน่อย
แต่อยู่ด้านนอก ยังไงก็ต้องไว้หน้าสามีตนเองหน่อย จุดนี้เธอยืนกรานยืนหยัดจะดำรงไว้เลยล่ะ
สายตาโจวเหล่าไท่ไท่จ้องโจวกุ้ยหลานเขม็งพลางว่า “อย่ามาเล่นแง่กับข้า บ้านเจ้าเจ้าตัดสินใจ ยังจะมาเฉไฉกับข้าอีก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...