จวนหู้กั๋วกง สวีฉางหลินเรียกพ่อบ้านมา นำไก่ทองสองห่อใหญ่ให้เขาทั้งหมด ให้เขากลับไปเรียกคนในจวนทั้งหมดมา กินของพวกนี้ให้หมด
พ่อบ้านเดาว่าคุณชายที่ปกติไม่ค่อยพูดนี่คือมีเรื่องอะไรที่ไม่ธรรมดา รีบไปรวบรวมคนใช้ทั้งหมดที่บางส่วนกลับห้องไปพักผ่อนแล้ว ยืนอยู่ในสวน แบ่งของเหล่านี้ให้กับพวกเขาทีละคน ให้พวกเขารีบกิน
สวีฉางหลินยืนมองอยู่ด้านข้าง เมื่อแจกหมดแล้ว เขาถึงหมุนตัวกลับไปห้องนอนตัวเอง
ผู้ดูแลคนหนึ่งถามพ่อบ้านเสียงเบา “นี่คุณชายเป็นอะไรหรือ?”
พูดไปแล้ว คุณชายไม่เคยแบ่งของกินให้พวกเขาเลย เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกะทันหัน ในใจของพวกเขารู้สึกสับสน
คนอื่นๆก็กางหูขึ้น อยากให้ช่วยชี้แนะหนทาง
เพียงแค่ พวกเขาคิดไม่ถึงว่าพ่อบ้านก็สับสนมึนงง
นี่หากตัวเองบอกว่าไม่รู้ ต่อไปจะดูแลคนเหล่านี้ในบ้านได้อย่างไร
พ่อบ้านจ้องผู้ดูแลไปทีหนึ่ง พูดอย่างโมโห “คุณชายต้องมีเจตนาของเขาแน่นอน พวกเจ้ารีบกิน อย่าทำให้เรื่องของคุณชายล่าช้า!”
ได้ยินเขาพูดเช่นนี้แล้ว ทุกคนก็ก้มหน้ารีบกินของในมือของตัวเอง พ่อบ้านก็ก้มหน้า กัดปีกไก่ในมือไปหนึ่งคำ รสชาตินี้ไม่เลวจริงๆ
นี่คุณชายหมายความว่าอะไรกันแน่? ไปซื้อของที่ไม่เคยเห็นนี้มาจากไหนกันแน่?
หรือว่า ของสิ่งนี้ซ่อนความลับอะไรไว้?
หรือว่านี่เป็นของกินของประเทศศัตรู คุณชายให้พวกเขากินของพวกนี้ เพื่อใช้ของกินมาทำความรู้จักกับประเทศศัตรู เพื่อรู้เขารู้เรา?
คนอื่นก็กำลังคาดเดาความหมายต่อการกระทำนี้ของคุณชาย ส่วนเจ้าตัวกลับห้องนอนของตัวเองไปแล้ว เรียกตัวเสี่่ยวอี นั่งอยู่ตรงหน้าเขา กินไก่ทอดที่เหลือพร้อมเขา
ผู้ชายสองคนเงียบไม่พูดอะไร ภายในห้องมีเพียงเสียงขบเคี้ยว ผ่านไปสักครู่ เสี่่ยวอีกลืนเนื้อไก่ในปากลงไป ให้คำประเมินง่ายๆ “อร่อย”
อย่างไรเสียนี่คือนายหญิงเป็นคนทำ แน่นอนว่าไม่สามารถพูดว่าไม่ดี
สวีฉางหลินไม่แม้แต่หันหน้า “ข้ารู้”
ของที่ภรรยาเป็นคนทำ อร่อยแน่นอน
เขาก็ไม่ได้กินอาหารที่ภรรยาทำนานแล้ว และไม่ได้เห็นภรรยา แล้วก็ลูกสองคนนั้น.......
ในคืนนั้น ชายคนหนึ่งที่เงียบสงบไม่พูดใส่เสื้อบุกรุกยามราตรี เดินขวักไขว่ในเมืองหลวง ไปถึงเรือนของภรรยา แอบเปิดกระเบื้องหลังคาออก มองดูผู้หญิงและลูกที่นอนหลับแล้วอยู่หลายชั่วยาม รู้สึกพอใจ
หลายวันหลังจากนั้น คนที่มากินข้าวในร้านยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ ส่วนคนที่ส่งเด็กๆมากินข้าวก็ไม่เหมือนเดิมเลย กินข้าวเสร็จ ยังช่วยเก็บโต๊ะอยู่สักพัก ไม่แน่นท้องขนาดนั้นแล้ว ค่อยพาเด็กสองคนกลับไป
พอถึงวันที่สี่ ยกเลิกการทดลองกิน คนไม่น้อยที่รู้สึกโกรธมาก
แน่นอน เด็กๆร้องจะกิน พวกเขาก็ทำได้เพียงไปซื้อแล้ว ถึงเวลา พวกเขาถึงพบว่าตอนนี้ก็ไม่แถมโค้กแล้ว นี่ยิ่งทำให้พวกเขาไม่พอใจ
แต่ว่าหลังจากที่จ่ายเงินแล้ว พวกเขากลับได้กระดาษข้อความใบหนึ่ง ด้านบนยังมีรอยฝ่ามือเล็กๆ
ผู้คิดบัญชีบอกพวกเขาว่า มารอบหน้า สามารถใช้ข้อความนี้จ่ายเงินน้อยลงได้
คนเหล่านั้นถึงรู้สึกดีขึ้นบ้าง ซื้อของแล้ว นั่งกินอาหารต่อตรงนั้น
สถานการณ์เช่นนี้เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นในวันที่ห้า
เมิ่งเจียงวิ่งเข้ามาในร้าน หาโจวกุ้ยหลานจนเจอแล้วเล่าเรื่องที่อาจารย์เป็นลมอย่างติดๆขัดๆ
โจวกุ้ยหลานรีบตามกลับไปดูเขา ก็เห็นซิ่วฉายเหล่านั้นล้อมอาจารย์ไว้อย่างร้อนรน
พอนางเข้าไป ก็ให้ซิ่งฉายกลุ่มนั้นยืนห่างๆหน่อย จากนั้นก็ให้คนไปเชิญหมอ สุดท้ายหมอคนนั้นบอกว่าสลบไปเพราะหิว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...