นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา นิยาย บท 366

นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 366 พบกัน

มือนั้นกำแน่นขึ้นกว่าเดิม นางเงยหน้าขึ้นแล้วพบว่าสวีฉางหลินจ้องมองนางอยู่

เมื่อมองไปยังแววตาของคนตรงหน้านี้ หัวใจของนางก็ดูผ่อนคลายและหนักแน่นขึ้น

“พวกเจ้ายังมิไปอีกหรือ?”

น้ำเสียงของไป๋ยี่เซวียนดังมาจากด้านนอก โจวกุ้ยหลานหันศีรษะไปดู พบไป๋ยี่เซวียนเดินยิ้มเข้ามาด้านใน

ลูกจ้างในร้านพากันทักทายเขา เขาเหลือบมองเห็นโจวกุ้ยหลาน ขณะที่ตั้งใจจะเดินตรงเข้าไปก็พบกับสวีฉางหลินที่นั่งอยู่ข้างกายนาง

ฝีเท้าของเขาชะงักลงเล็กน้อย ก่อนจะกลับคืนสู่ความปกติแล้วเดินตรงเข้ามาทางนั้น

โจวกุ้ยหลานตั้งใจจะลุกขึ้น แต่ถูกสวีฉางหลินกำมือเอาไว้จนแน่นจึงมิมีทางไปไหนได้ นางทำได้เพียงนั่งรอให้ไป๋ยี่เซวียนเดินตรงเข้ามา เขานั่งตรงข้างกายนาง

“อ้อ ที่แท้เป็นนายพลสวีนี่เอง ช่างเป็นแขกกิตติมศักดิ์ยิ่งนัก” ไป๋ยี่เซวียนยิ้มแล้วทักทาย ราวกับมิเห็นว่าทั้งสองคนกำลังจูงมือกันจับมือกันอยู่

สวีฉางหลินส่ายหน้าแล้วกล่าวอย่างบางเบาว่า “ข้ามิใช่ลูกค้า”

โจวกุ้ยหลานสัมผัสได้ถึงความผิดปกติไป ขณะที่ตั้งใจจะหยิบเขาเบาๆ เป็นการเตือน ก็ได้ยินเขาเอ่ยขึ้นว่า “ข้าเป็นสามีของโจวกุ้ยหลาน ข้าเพียงเดินทางมาดูว่ามีชายได้คิดเป็นอื่นกับนางหรือไม่”

มีใครกันเล่าจะกล่าวเช่นนี้!

โจวกุ้ยหลานจ้องไปที่เข้าตาเขม็ง เป็นความหมายว่าอย่าได้เอ่ยวาจาไร้สาระ

วินาทีต่อมา พบว่าไป๋ยี่เซวียนวางพัดในมือของเขาลงบนโต๊ะ เงยหน้าขึ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่นอ่อนโยนดังเดิมว่า “นายพลสวี การที่ท่านมีความคิดเช่นนี้ ทำให้พวกเราวางใจยิ่งนัก ผู้ที่มีสง่าและเพียบพร้อมไปเสียทุกด้านเช่นนายพลสวี คงมิอาจทอดทิ้งภรรยาของตนได้หรอกใช่หรือไม่?”

“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ต่อให้ตาย ข้าก็จะพาภรรยาของข้าตายไปด้วย” สวีฉางหลินกล่าวด้วยความเยือกเย็น

โจวกุ้ยหลานสันหลังเย็นวาบ

วินาทีต่อมาก็ได้ยินไป๋ยี่เซวียนกล่าวว่า “การที่ให้ภรรยาของตนน้ำตานองหน้าทั้งวันทั้งคืน ราวกับมิใช่วิถีของลูกผู้ชายนัก”

สวีฉางหลินมองไปทางโจวกุ้ยหลาน กล่าวด้วยความรักว่า “นับแต่นี้ไปจะมิเป็นเช่นนั้นอีก”

“ยี่เซวียน เจ้ายังมิได้กินข้าวใช่หรือไม่ ข้าจะให้คนไปทำอาหารมาให้เจ้าสักสองสามอย่างเป็นเช่นไร?” โจวกุ้ยหลานฉีกยิ้มขึ้นขัดคำพูดของทั้งสอง

“ข้าก็หิวแล้วเช่นกัน” สวีฉางหลินก็มิยอมแพ้

โจวกุ้ยหลานพยายามดึงมือของตนออกมาแล้วพยักหน้าว่า “เช่นนั้นเจ้ามาช่วยข้าทำอาหารสิ”

“กุ้ยหลาน รบกวนเจ้าช่วยทำอาหารมาให้มากสักหน่อย ข้าและท่านนายพลสวีมิได้พบกันตั้งเนิ่นนาน เรามีเรื่องสนทนากันมากมาย” ไป๋ยี่เซวียนหยิบพัดขึ้นมาแล้วเคาะไปบนโต๊ะสองหน

“ข้าเองก็มีเรื่องจะสนทนากับเถ้าแก่ไป๋เช่นกัน ขณะที่สวีฉางหลินกล่าวออกมานั้นสายตาของเขามิเคยละไปจากไป๋ยี่เซวียนเลย

โจวกุ้ยหลานที่ต้องการจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาก็ดูหดหู่เล็กน้อย หากว่านางจากไปแล้วสวีฉางหลินทำร้ายไป๋ยี่เซวียนเข้าจะทำเช่นไร

แต่ความต้องการของทั้งสองแข็งแกร่งมาก โจวกุ้ยหลานมิรู้จะกล่าวเช่นไรดี นางจึงเดินเข้าไปในห้องครัวด้วยจิตใจกระสับกระส่าย

รอจนกระทั่งโจวกุ้ยหลานเดินจากไปแล้ว ไป๋ยี่เซวียนจึงเก็บรอยยิ้มของเขาลง “ข้าได้ยินว่าฮ่องเต้จะให้นายพลสวีเสกสมรสกับองค์หญิงอานผิงหรือ ?”

“นั่นเป็นเรื่องของฮ่องเต้ ตัวข้าหาได้ตอบตกลง”

“นายพลสวีหนักแน่นยิ่งนัก เพียงแต่หากฮ่องเต้ยืนกรานจะให้เสกสมรสกับองค์หญิง มิทราบว่านายพลสวีจะทำเช่นไร? เลือกที่จะคัดค้านคำสั่ง หรือทิ้งภรรยากับลูกๆ ไป?”

สวีฉางหลินดึงมือกลับมา แล้วจับไปยังขวดโค้กที่ถูกโจวกุ้ยหลานดื่มไปอึกหนึ่งเมื่อครู่ นำมาวางไว้ตรงหน้าของตน

“ข้าจะรับกุ้ยหลานและลูกๆ กลับไป อีกสองสามวันเมืองหลวงทุกคนจะรู้ว่าข้านั้นแต่งงานมีลูกแล้ว”

มือของไป๋ยี่เซวียนชะงักลงเล็กน้อย เขานิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยปากว่า “ถ้าเช่นนั้นก็คงดีนัก”

“ขอบใจ” สวีฉางหลินกล่าวจบก็เงยหน้าขึ้นดื่มโค้กนั้น เข้าไปหลายอึก

“ข้าทำเช่นนี้มิได้เพื่อเจ้า” หัวใจของไป๋ยี่เซวียนเจ็บปวด เขาก้มหน้าลงแล้วกล่าวออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา