นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา นิยาย บท 67

ได้ยินคำพูดของเมีย สวีฉางหลินถึงเริ่มกินอาหารอย่างอื่น

โจวกุ้ยหลานถึงได้หันไปหาไป๋ยี่เซวียนที่นั่งอยู่ข้างๆตลอด และถามเขาอีกครั้งว่า “เถ้าแก่ไป๋ ไม่รู้ว่าอาหารของโรงเตี๊ยมท่านนี่ถือว่าอยู่อันดับไหนของโรงเตี๊ยมของเมืองรึ?”

พูดถึงเรื่องนี้ ไป๋ยี่เซวียนเชื่อมั่นในตนเองพอตัวอยู่ “อาหารถือเป็นสามอันดับต้น ทั่วทั้งเมืองก็มีแต่โรงเตี๊ยมไป่เว่ยที่สามารถเทียบเคียงกับพวกเราได้”

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้โรงเตี๊ยมไป่เว่ยอยากทำให้รายได้ของโรงเตี๊ยมของเขาลดลงไป

ที่แท้นี่เป็นรสชาติที่เป็นอันดับต้นๆแล้ว

ในใจโจวกุ้ยหลานพอเข้าใจระดับความสามารถสูงสุดของฝีมือพ่อครัวทั่วทั้งเมืองแล้วล่ะ และก็ไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป นางเปิดปากพูดกับไป๋ยี่เซวียนว่า “เถ้าแก่ไป๋ ข้ามีสูตรเครื่องปรุงรสสูตรหนึ่ง หากอาหารพวกนี้ของท่านใช้เครื่องปรุงรสของข้า รสชาติอาหารของท่านจะดีขึ้นสามส่วน”

สามส่วน!

ไป๋ยี่เซวียนลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ทันที อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

นี่เป็นพ่อครัวที่เขาเชิญมาจากในเขต ฝีมือทำอาหารไม่ต้องพูดถึงเลย สตรีผู้นี้กลับบอกว่าใส่เพียงเครื่องปรุงรสก็สามารถเพิ่มรสชาติอาหารของเขาขึ้นสามส่วน?

“พี่สะใภ้ท่านนี้ จะมาล้อเล่นเยี่ยงนี้ไม่ได้นะ!”

ไป๋ยี่เซวียนที่สงบนิ่งมาตลอดบัดนี้น้ำเสียงและท่าทางมีอารมณ์รุนแรงยิ่งนัก ควบคุมตนเองไม่อยู่แล้ว

โจวกุ้ยหลานยิ้มมุมปากพลางว่า “มิใช่ล้อเล่น รสชาติอาหารพวกนี้ของท่านไม่เลว แต่กลิ่นกลับมีเพียงกลิ่นหอมของวัตถุดิบ จะต่างกับโรงเตี๊ยมอื่นก็ตรงที่แรงไฟและความสดใหม่ของวัตถุดิบ แต่พวกท่านขาดเสน่ห์เฉพาะตัว แบบนี้จะทำให้โรงเตี๊ยมรุ่งเรืองไม่ยุบตัวได้นานได้อย่างไรกัน?”

คำพูดนี้ไม่เกรงใจกันสักนิด แทบจะเหยียดพ่อครัวของโรงเตี๊ยมเขาต่ำลงไปอย่างมากเลย

แต่พอวิเคราะห์คำพูดนี้ดีๆ กลับมีเหตุผลอย่างน่าประหลาด

ความโกรธในใจไป๋ยี่เซวียนพลันมอดไปเฉียบพลัน เพียงรู้สึกว่า หากโรงเตี๊ยมนี้สามารถเพิ่มพูนขึ้นได้ทุกด้าน โรงเตี๊ยมของเขาต้องสามารถเอาชนะโรงเตี๊ยมไป่เว่ยได้แน่!

แต่ว่า...

เขาทนไม่ไหวหันมองโจวกุ้ยหลาน ร่างเล็กแค่นี้ ไฟในใจเขาพลันโดนน้ำเย็นสาดใส่จนมอดดับไปอีก

หากมีของดีเช่นนั้นจริง เหตุใดนางมิเปิดโรงเตี๊ยมเองเล่า? หรือว่า ทำไมนางต้องบอกเขาด้วย?

พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็ฟื้นฟูความสงบนิ่งและอบอุ่นแต่เดิมของตนกลับมา พลางยิ้มเศร้ากับโจวกุ้ยหลานว่า “พี่สะใภ้อย่าได้ล้อข้าเล่นเลย”

โจวกุ้ยหลานกลับไม่สนใจความไม่เชื่อใจของเขา เพราะท่าทางของตนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเชื่อเลย

“มิได้ล้อท่านเล่น นี่เป็นการค้าที่ข้าจะคุยกับท่าน สามีข้าขายของป่าให้ท่านไม่น้อย และชื่นชมในนิสัยของท่านนัก พวกเราก็อยากร่วมมือกับท่าน หากท่านมิเชื่อ ข้าสามารถทำเครื่องปรุงรสขึ้นมา และให้ท่านทำอาหารขึ้นมาจานหนึ่ง”

กิริยาทานอาหารของสวีฉางหลินชะงักกึก เขาเคยชมบุรุษอื่นต่อหน้านางเมื่อไหร่กัน? แต่เมียบอกว่าเขาชม เขาก็ชมแล้วกัน

ระหว่างคิด เขาวางตะเกียบลง ดวงตาคู่นั้นจับจ้องเมียตนไม่กะพริบ

ชมผู้ชายอื่นเยี่ยงนี้ต่อหน้าเขา...

เขาต้องระวังละ

“เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก!” ไป๋ยี่เซวียนตื่นเต้นมาก

หากนางยินดีทำ เช่นนั้นจะใช้การได้หรือไม่ก็สามารถรู้ผลได้ทันที

โจวกุ้ยหลานหันไป ก็เห็นสวีฉางหลินยืนจ้องนางตาเขม็ง นางถามเขาเสียงต่ำว่า “เจ้ากินอิ่มหรือยัง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา