เมื่อไม่ได้รับคำตอบ โจวชิวเซียงตาแดงก่ำ พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่ของข้าล็อกประตูขังข้าอยู่ในบ้านไม่ให้ข้าออกไปไหน คอยเฝ้าข้าอยู่ทั้งวัน สั่งให้ข้าปักผ้า แทบไม่มีเวลาได้หายใจเลย ข้าอยากที่จะออกมาหาเจ้า เจ้าไม่เคยไปหาข้าที่บ้านเลย เจ้าไม่คิดถึงข้าหรือ?”
สวีฉางหลินเงียบ รู้สึกเหมือนหัวสมองตนเองมีปัญหา ฟังไม่เข้าใจคำพูดของโจวชิวเซียง
โจวกุ้ยหลานยืนพิงมองดูอยู่ตรงขอบประตู แล้วก็มองไปทางอื่น พยายามอดกลั้นหัวเราะไว้
ไม่ได้ ภาพสถานการณ์แบบนี้ ดูยังไงก็น่าขำ
จริงๆเลย
“เจ้าไม่พูดไม่จา เจ้าไม่ยอมพูดอะไรเลย.....”
โจวชิวเซียงราวกับถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ก้าวถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าแสดงให้เห็นถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน
“ทำไมถึงกลายเป็นเช่นนี้ ข้าลำบากใจมาตลอด ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมช่วยข้า?”โจวชิวเซียงพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง จ้องมองดูสวีฉางหลิน อยากที่จะมองเห็นถึงความอาลัยอาวรณ์ภายในดวงตาของเขา
แต่เสียดาย มองไม่เห็นอะไรเลย
ทั้งๆที่เขาก็ชอบนาง ทำไมถึงไม่กล้าก้าวมาข้างหน้าล่ะ?
หากเขายอมก้าวมาข้างหน้า.....
คิดได้เช่นนี้ ในหัวสมองของนางก็คิดถึงคำพูดของแม่ของนางที่พูดกับนางว่า “ต่อไปเจ้าจะต้องแต่งงานไปมีความสุขอยู่ในตำบล จะแต่งงานกับนายพรานคนหนึ่งได้อย่างไร”
ใช่ นางจะไปมีชีวิตที่ดีขึ้น นางจะต้องแต่งงานไปอยู่ในตำบล ไม่อย่างนั้นต่อไปนางก็จะต้องทำงาน.....
เมื่อคิดไปคิดมา ในใจก็ตัดสินใจ น้ำเสียงที่พูดออกมาก็เปลี่ยนไป
“พี่ฉางหลิน ข้าเข้าใจความรู้สึกที่เจ้ามีต่อข้า แต่เจ้าเป็นแค่นายพรานคนหนึ่ง เราถูกกำหนดไว้ที่จะไม่มีวาสนาต่อกัน พรุ่งนี้ข้าก็จะไปในตำบลแล้ว ต่อไปอาจจะไม่กลับมาอีกแล้ว ข้าอยากที่จะมาบอกลาเจ้า พูดคุยกับเจ้า”
“หากเจ้าเป็นเจ้าของที่ดินคนหนึ่ง หรือในบ้านมีเงินสองสามร้อยตำลึง ข้าก็จะไม่ไป แต่เสียดาย....เฮ้อ เจ้าก็อย่าโทษข้า นี่เป็นความคิดของแม่ข้า นางเฝ้าข้าอยู่ตลอด ข้าต้องรอนางนอนหลับ ฟ้ามืดแล้วถึงจะกล้ามา....”
โจวชิวเซียงพูดพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้และเสียใจ
พี่ฉางหลินรักนางขนาดนี้ เสียดายที่พวกเขาสองคนไม่สามารถอยู่ด้วยกัน คิดแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด
โจวกุ้ยหลานที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แล้วก็พูดแทรกโจวชิวเซียงขึ้นมา
สวีฉางหลินที่กำลังงุนงงหันไปมองภรรยาของตนเอง เมื่อกี้นางโกรธมากไม่ใช่หรือ ตอนนี้กลับหัวเราะอย่างมีความสุข?
“เจ้าขำอะไร?”โจวชิวเซียงหันไปจ้องมองโจวกุ้ยหลานอย่างโกรธเคือง
“ไม่เป็นไรไม่มีอะไร เจ้าพูดต่อเลย”โจวกุ้ยหลานรีบพูดตอบขึ้นมา
ตอนนี้นางแปลกใจอย่างมากว่าโจวชิวเซียงจะพูดอะไรอีก ช่างน่าขำมากจริงๆ
“เจ้าคนอัปลักษณ์ หญิงแก่ที่ไม่มีใครเอา ยึดครองพี่ฉางหลินไปแล้วยังไม่พอหรือ? ยังจะมาขัดขวางความรักระหว่างข้ากับพี่ฉางหลิน”
โจวชิวเซียงโกรธจนกระทืบเท้า พร้อมก่นด่าโจวกุ้ยหลานอย่างโกรธแค้น
เพราะคนอัปลักษณ์คนนี้ กีดขวางระหว่างนางกับพี่ฉางหลิน
“ความรักระหว่างข้ากับเจ้า”สวีฉางหลินคิดว่าตนเองมีความจำเป็นต้องถาม
ตั้งแต่เปิดประตูจนถึงตอนนี้ คำพูดของโจวชิวเซียง เขาฟังไม่เข้าใจสักประโยค
โจวกุ้ยหลานตกตะลึง โย้ เจ้าท่อนไม้คนนี้ในที่สุดก็เห็นถึงความผิดปกติแล้วหรือ? หรือว่า เขาคิดอยากที่จะช่วยรักษาหน้าโจวชิวเซียง?
ความรักอะไร?
พี่ฉางหลินกำลังพูดอะไรอยู่?
เขากำลังปฏิเสธความรักที่มีต่อนางหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...