สวีฉางหลินฟังแล้วก็อึ้ง จนถึงตอนนี้ ในที่สุดเขาก็พอรู้เรื่องขึ้นมาบ้างแล้ว
“ในใจของข้าควรมีเพียงภรรยาของข้า ทำไมจะต้องมีเจ้า?”
โจวชิวเซียงไม่อยากจะเชื่อ น้ำตาจะร่วงไหลอีกแล้ว แต่ก็อดทนไว้ไม่ให้ร่วงไหลลงมา
“เจ้ายังโกรธเกลียดข้าหรือ? ต่อให้กลางค่ำกลางคืนข้างขึ้นเขามาพูดพวกนี้กับเจ้า เจ้าก็ยังจะทำร้ายจิตใจข้าหรือ?”
สวีฉางหลินอึ้งไปอีกครั้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมข้าจะต้องโกรธเกลียดเจ้า?”
“ทำไมเจ้าต้องเป็นเช่นนี้? พี่ฉางหลิน ทำไมเจ้าต้องทำเช่นนี้? เจ้าเข้าใจข้าบ้างไม่ได้หรือ? หรือว่าเจ้าอยากให้ข้ามีชีวิตยากจนแบบนี้ไปตลอดชีวิต? เจ้าไม่คาดหวังให้ข้ามีความสุขหรือ?”
พูดจนถึงสุดท้ายน้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความสะอึกสะอื้นแล้ว หากคนที่ไม่รู้ คงจะคิดว่าสวีฉางหลินรังแกโจวชิวเซียงแน่
โจวกุ้ยหลานส่ายหัว รู้สึกเพียงว่าสามีของตนเองนั้นทึ่มจนน่ารัก
แต่ประโยคเมื่อกี้นั่น สามีของนางได้พูดกับโจวชิวเซียงฟังอย่างชัดเจนแล้วเข้าไม่มีความรู้สึกต่อนาง แต่โจวชิวเซียงกลับหาเหตุผลทุกอย่างเพื่อคิดว่าเขากำลังพูดประชด
ความคิดแบบนี้ช่าง.....
อธิบายยังไงก็ไม่เข้าใจแล้ว
“ไม่ว่ายังไง เจ้าก็จะแต่งงานแล้ว ไปแต่งงานอย่างมีความสุขเถอะ ไปมีชีวิตที่ดี เราทั้งครอบครัวก็จะมีชีวิตของพวกเราเอง เจ้าปล่อยสวีฉางหลินไปเถอะ”โจวกุ้ยหลานขี้เกียจฟังข้ออ้างของโจวชิวเซียงที่คิดเองเอ่อเองแล้ว จึงพูดจบประเด็นขึ้นมา
นี่ก็ดึกมากแล้ว นางง่วงนอนแล้ว ช่วงนี้กว่าที่จะได้รักษาผิวพรรณดีขึ้นมาหน่อย จะให้ใครมาทำลายเวลาพักผ่อนของนางอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้ไม่ได้
“เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า? ใครให้เจ้าพูดมาก?” เห็นได้ชัดว่า โจวชิวเซียงคนนี้ไม่รับน้ำใจของนางเลย
สายตาโจวกุ้ยหลานกระตุก นางอดไม่ได้ที่จะยกมือห้าม พูดไม่รู้เรื่องแล้ว ช่างเถอะ
เมื่อโจวกุ้ยหลานพูดเตือน สวีฉางหลินก็เข้าใจขึ้นมา โจวชิวเซียงกำลังพูดว่าในใจของนางนี้เขา แต่จำเป็นต้องแต่งงานกับคนอื่นเพื่อความสุขของตนเอง และเขาเพราะนางจะแต่งงานแล้ว จึงไม่ยอมรับความรู้สึกดีดีที่มีต่อนาง....
เมื่อคิดได้เช่นนี้ สวีฉางหลินเงียบอีกครั้ง ในหัวสมองครุ่นคิดพิจารณาดูท่าทีของตนเองที่มีต่อโจวชิวเซียง แล้วก็พบว่าไม่ได้แตกต่างอะไรกับคนอื่นเลย แล้วทำไมนางถึงมีความคิดเช่นนี้ล่ะ?
“พี่ฉางหลิน ต่อไปคงต้องถึงปีใหม่ค่อยได้เจอกันอีก เจ้ามีสิ่งของอะไรให้ข้าไหม ถือเป็นของที่ระลึก?”โจวชิวเซียงนึกว่าสวีฉางหลินเสียใจ ในใจจึงรู้สึกค่อนข้างแอบดีใจ
“ในใจของข้ามีเพียงภรรยาของข้า เจ้าไปแต่งงานอย่างมีความสุขเถอะ”สวีฉางหลินไม่อยากที่จะให้โจวชิวเซียงเข้าใจผิดต่อไป ไม่อย่างงั้นต่อไปเขาก็จะพูดอธิบายไม่เข้าใจกันแล้ว
อีกอย่าง ภรรยาของเขาก็ยังยืนอยู่ที่นี่ หากเขาไม่พูดอธิบายให้ชัดเจน ภรรยาของเขาเข้าใจผิดแล้วจะทำอย่างไร?
แต่คำพูดของเขา กลับทำร้ายโจวชิวเซียง โจวชิวเซียงก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่อยากเชื่อ ดวงตาทั้งคู่จ้องมองสวีฉางหลิน น้ำตาร่วงไหลลง พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่ฉางหลิน ทำไมถึงทำร้ายจิตใจข้าขนาดนี้? ทำไมถึงทำกับข้าแบบนี้? ทำไมถึงไม่สามารถเข้าใจข้า? ข้าถูกบังคับจนไม่มีทางเลือกแล้ว”
สวีฉางหลินยกมือขึ้นมาเกาหัวตนเอง พร้อมพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ข้าไม่อยากทำให้ภรรยาของข้าเสียใจ”
“ภรรยา ภรรยา เจ้าพูดถึงภรรยาอะไรของเจ้า? ที่ผ่านมาไม่เห็นเจ้าพูดถึงภรรยา? ตอนนี้เจ้าอยากที่จะพูดว่า ข้าแต่งงานไปแล้วเจ้าก็ไม่เสียใจ เพราะเจ้ามีภรรยาแล้วหรือ?”โจวชิวเซียงพูดตำหนิต่อว่า
โจวกุ้ยหลานรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เมื่อกี้ยังคิดที่จะรอดูเรื่องสนุก แต่ตอนนี้รำคาญแล้ว โจวชิวเซียงยังจมปลักอยู่ในโลกของตนเอง ไม่ว่าพวกเขาจะพูดยังไง นางก็สามารถเอาไปคิดเข้าข้างตนเอง
ไม่ได้ จะต้องคิดหาวิธีทำให้นางเข้าใจว่านางคิดผิดไป หรือว่า นางไปกอดจูบสวีฉางหลินให้นางดู?
อืม เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้วก็ได้ผลดีที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...