ไม่งั้นทำไมต้องเข้าตำบลไปหาหมอ
สวีฉางหลินพยักหน้า “หมอบอกว่ามันเป็นงูเห่า เขาให้ใบสั่งยามาและให้พักผ่อน บอกว่าห้ามทำงานหนัก”
โจวกุ้ยหลานหมดคำจะพูด คนคนนี้สร้างปัญหาได้จริงๆ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ นางก็คงไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนแล้ว ถึงตอนนั้นลุงใหญ่ของนางก็คงจะเกลียดนางเหมือนกัน
แม้ว่านางจะไม่ชอบหลี่ซิ่วยิงกับโจวชิวเซียง แต่จำได้ว่าลุงใหญ่ของนางดูแลครอบครัวพวกเขาเป็นอย่างดี และก็ใจดีต่อพี่น้องพวกเขากี่คนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภัยแล้งที่รุนแรงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ครอบครัวของนางขาดแคลนอาหาร เป็นลุงใหญ่ที่เจียดอาหารเอาไปให้พวกเขา
ไม่อย่างนั้นคนครอบครัวนี้คงจะอดอยากไปนานแล้ว และตอนนี้นางก็ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
“เจ้าคงจะไม่ได้เพิ่งกลับมาจากในเมืองหรอกใช่ไหม” โจวกุ้ยหลานเห็นเขาเหงื่อออกมาก จึงคาดเดาในใจแล้วถามออกมา
สวีฉางหลินปาดเหงื่อออกจากหน้าผากและตอบว่า “พวกเขาต่างยุ่ง ข้าก็เลยไปส่งหมอกลับเข้าตำบล”
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ใต้ตามีรอยคล้ำ ทั้งคืนไม่นอนไม่ว่าแต่นี่วิ่งทั้งคืน! สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเขาไปกลับเมืองสองรอบ!
โจวกุ้ยหลานหมดคำจะพูดจริงๆ “ทำไมเจ้าไม่ไปหาเหล่าหม่าโถวให้ขับเกวียนวัวไปส่ง”
“เขาไม่เร็วเท่าข้า ข้าวิ่งไปกลับเร็วกว่าเขา”
สวีฉางหลินพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“งั้นหมอคนนั้นก็คงจะไม่เดินเร็วกว่าเกวียนวัวด้วยหรอกใช่ไหม”
“ข้าแบกเขา เลยเร็วด้วย” สวีฉางหลินพูดราวกับไม่ใส่ใจ
โจวกุ้ยหลานหมดคำจะพูดกับสวีฉางหลินแล้วจริงๆ
ผู้ชายคนนี้วิ่งกลับไปกลับมาโดยแบกหมอไว้บนหลังจริงเหรอ
แข็งแรงมากขนาดนี้เลยเหรอ
โจวกุ้ยหลานเหลือบมองเขา รู้สึกว่าหลี่ซิ่วยิงต้องทำอะไรบางอย่าง จึงถามเขา “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เป็นคนแบกโจวชิวเซียงกลับไปด้วยเหรอ”
“เปล่า ป้าใหญ่ไม่ยอมให้ข้าแบก บอกว่ากลัวข้าทำลายชื่อเสียงของลูกสาวนาง นางค่อยๆ เดินแบกไป ตอนที่กลับไปพิษเลยแพร่กระจายไปไม่น้อย”
สวีฉางหลินบอกความจริง
โจวกุ้ยหลานยิ่งอ่อนใจ ป้าใหญ่คนนี้น่าทึ่งมาก อยู่ในช่วงความเป็นความตายยังสนใจเรื่องพวกนี้ แต่อย่างที่นางคาดไว้ หลี่ซิ่วยิงเสแสร้งจริงๆ
“เจ้าไปนอนพักก่อนเถอะ” โจวกุ้ยหลานเหลือบมองสวีฉางหลิน เห็นหน้าตาเขาค่อนข้างเหนื่อยล้าจึงเอ่ยปากบอก
สวีฉางหลินพยักหน้าและก็คิดจะไปนอนพัก
“เจ้าช่วยต้มน้ำร้อนให้ข้าหน่อย ข้าอยากอาบน้ำ”
โจวกุ้ยหลานสองมือไพล่หลังเดินไป “รอก่อน”
พูดอย่างนั้นแล้วไปที่ห้องครัว ตักน้ำมาและเริ่มเผาฟืน ก่อนที่ฟืนจะเผาไหม้หมดนางก็ดึงฟืนออกมาดับไฟ จากนั้นใช้คีมคีบเคาะถ่านด้านบนลงมาวางพักไว้ แล้วนำฟืนไปเผาในเตาครัวต่อไป
เมื่อรอน้ำเดือดแล้วนางจึงลุกขึ้นตักน้ำใส่ถัง จากนั้นเติมน้ำลงในหม้อแล้วต้มต่อ
หลังจากต้มน้ำในหม้อที่สอง นางจึงตะโกนออกไปด้านนอก “น้ำพร้อมแล้ว!”
“อื้ม!”
สวีฉางหลินตอบแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัว เห็นภรรยาตัวเองกำลังเคาะถ่านด้านบนไม้ เขาจึงถามด้วยความสงสัย “เจ้ากำลังทำอะไรอยู่”
“ข้าเก็บรวบรวมถ่านไปใช้ฟักไข่”
โจวกุ้ยหลานออกแรงใช้คีมคีบทุบไม้นั้น
“เจ้าทำไม่ได้มากใช่ไหม” สวีฉางหลินเดินเข้ามาใกล้อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
โจวกุ้ยหลานมองดูถ่านที่ทำมาตั้งนานแล้ว ในใจค่อนข้างท้อแท้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...