นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1010

เจ้าเมืองซานตงจัดงานเลี้ยงต้อนรับเสด็จอาเก้าที่จวนของเขา เสด็จอาเก้าให้เกียรติไปร่วมงานด้วยตนเอง พบปะกับเหล่าขุนนางของซานตง และการมาครั้งนี้ของเขาก็เหมือนกับการระบุเป็นนัยว่ามาเพื่อสำรวจเกี่ยวกับเหมืองขุดหินเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นเขาจะไม่ยุ่ง

เมื่อเห็นทัศนคติดังกล่าวของเสด็จอาเก้า ขุนนางในซานตงก็รู้สึกกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ขอแค่ไม่สืบสวนเรื่องราวของพวกเขา ไม่ว่าเสด็จอาเก้าจะอยู่ที่ซานตงนานเท่าใด พวกเขาก็ยินดี เวลานั้นพวกเขาแสดงออกมาให้เห็นว่า หากเสด็จอาเก้าต้องการสิ่งใดก็สามารถเอ่ยปากออกมาได้เลย พวกเขายินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

บรรยากาศในงานเลี้ยงเต็มไปด้วยความครื้นเครง และสนุกสนาน แม้ใบหน้าของเสด็จอาเก้ายังคงเยือกเย็นและไม่ค่อยพูดกับใครสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธความหวังดีของเหล่าขุนนาง เมื่อมื้ออาหารจบลงมันก็เป็นเวลาของเจ้าบ้านและแขก อย่างน้อยเจ้าเมืองซานตงก็คิดเช่นนั้น

หลังจากงานเลี้ยงจบลง เจ้าเมืองซานตงเห็นว่าเสด็จอาเก้าไม่ได้ปฏิเสธของขวัญจากขุนนางและพ่อค้าในซานตง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาชัดเจนขึ้น และเขารู้ว่าจะไม่มีปัญหากับตำแหน่งทางการของเขาเป็นแน่

ในตอนที่จัดที่พักให้แก่เสด็จอาเก้า หลังจากได้รับความยินยอมจากเสด็จอาเก้า เขาไม่ได้จัดให้เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินพักที่ตำหนักของทางการ แต่เขาเชิญเสด็จอาเก้าไปอาศัยอยู่ที่พำนักอันยิ่งใหญ่ของพ่อค้าแซ่เฉินผู้ร่ำรวยคนหนึ่ง

ไม่ใช่ว่าเจ้าเมืองซานตงดูถูกเสด็จอาเก้า ความจริงนั้นตรงกันข้าม เป็นเพราะเขาให้เกียรติเสด็จอาเก้าเป็นอย่างมาก เขาถึงได้ทำเช่นนี้ ที่พักที่ดีที่สุดในซานตงไม่ใช่ตำหนักของทางการ แต่เป็นพำนักของเศรษฐีตระกูลเฉิน

ในบรรดาสามสวนที่งดงามที่สุดในตงหลิง สวนแห่งแรกคือสวนกล้วยไม้ของตระกูลจักรพรรดิ รองลงมาคือสวนดอกไม้ของตระกูลเฉินแห่งซานตง และที่สามก็คือสวนชิงหยวนแห่งตระกูลเซี่ยในเจียงหนาน

ตระกูลเฉินมอบสวนดังกล่าวให้เป็นที่อยู่ของเสด็จอาเก้า พวกเขาต้องการสิ่งใดผู้คนในซานตงต่างรู้ดี เสด็จอาเก้าเองเข้าใจ ดังนั้นจึงตอบตกลง

ที่จริงตระกูลลู่เองก็อยากจะมอบสวนของพวกเขาให้เป็นที่อยู่ของเสด็จอาเก้าเช่นกัน แต่เมื่อนึกถึงต้นเหตุที่เสด็จอาเก้าเดินทางมาที่นี่ ประกอบกับแม้ว่าสวนของตระกูลลู่จะงดงามและเป็นธรรมชาติ แต่มันก็เทียบกับสวนของตระกูลเฉินที่มีความเฉพาะตัวไม่ได้ ดังนั้นจึงปล่อยโอกาสนี้ให้ตกเป็นของตระกูลเฉิน

หลังจากเดินทางมาทั้งวันและร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ในตอนที่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินมาถึงพำนัก ท้องฟ้านั้นมืดสนิท คนของตระกูลเฉินช่างมีแววตาอันยอดเยี่ยม เขาไม่ได้เข้ามาคุยเรื่องการค้าขายในเวลานี้ ในสวนแห่งนี้นอกจากจะไม่มีพ่อค้า ยังไม่มีคนของตระกูลเฉินแม้แต่คนเดียว

“ตระกูลเฉินถือว่าฉลาดไม่น้อย” เสด็จอาเก้าเห็นการเตรียมพร้อมของพวกเขาจึงกล่าวคำชมออกมา

ตระกูลเฉินกระตือรือร้นที่จะเอาใจ แม้ว่าจะต้องทำให้ตระกูลลู่ขุ่นเคือง พวกเขาก็ไม่ได้เรียกร้องสิ่งใด

เฟิ่งชิงเฉินก้าวออกมาด้านหน้า ถอดเสื้อผ้าให้เสด็จอาเก้าพร้อมกับถามออกมาว่า “เจ้าคิดจะใช้งานตระกูลเฉินงั้นหรือ?”

“แต่จากที่เห็น ในซานตงแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ตระกูลเฉิน” แต่อย่างไรก็ตาม เวลานี้มีเพียงตระกูลเฉินเท่านั้นที่สามารถเอาชนะใจของเสด็จอาเก้าได้ ตระกูลเฉินฉลาดมาก และเสด็จอาเก้าก็ชอบทำงานร่วมกับคนที่ฉลาดและทะเยอทะยานเช่นนี้

“แต่มีเพียงไม่กี่ตระกูลเท่านั้นที่กล้าเป็นศัตรูกับตระกูลลู่” สำหรับเรื่องราวในซานตง เฟิ่งชิงเฉินเองก็พอเข้าใจอยู่บ้าง เมื่อเทียบกับตระกูลลู่ ตระกูลเฉินก็แทบไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ

หากกล่าวว่าตระกูลลู่เป็นตระกูลชั้นนำ เช่นนั้นก็อาจกล่าวได้ว่าตระกูลเฉินเป็นเพียงตระกูลปานกลาง ทั้งสองตระกูลนั้นไม่ได้อยู่ระดับเดียวกัน และพำนักอันงดงามที่ตระกูลเฉินใช้ก็เป็นเพียงการใช้ประโยชน์จากบรรพบุรุษเท่านั้น

เวลานี้ตระกูลเฉินมีความกล้าในการต่อต้านตระกูลลู่ ก้าวเข้าหาเสด็จอาเก้าทีละก้าว นี่ทำให้เฟิ่งชิงเฉินตกใจเป็นอย่างมาก นางคิดจะเอ่ยปากเพื่อตักเตือนเสด็จอาเก้า แต่เมื่อลองคิดไปคิดมา เรื่องที่นางคิดได้ เหตุใดเสด็จอาเก้าจะคิดไม่ได้

เฟิ่งชิงเฉินสวมเสื้อผ้าให้เสด็จอาเก้า เสด็จอาเก้าเองก็ไม่อยากจะพูดเรื่องของตระกูลเฉิน เสด็จอาเก้าไม่สนใจตระกูลเฉินเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากตระกูลเฉินยินดีที่จะเข้ามาเป็นหมากให้กับเขา เขาก็แค่ประโยชน์จากมัน ส่วนหมากตัวนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป เรื่องนี้มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา

ทั้งสองคนเข้านอนอย่างรวดเร็ว เสด็จอาเก้านอนกอดเฟิ่งชิงเฉินอย่างเชื่อฟัง แม้ในใจของเขาอยากที่จะทำสิ่งอื่น แต่เมื่อนึกถึงกฎเกณฑ์ที่เฟิ่งชิงเฉินตั้งขึ้นมาเป็นเวลาสามเดือน เขาก็ทำได้แค่อดทนต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ