สรุปเนื้อหา บทที่ 1019 ยินดี,ชีวิตและความตายดำเนินไปด้วยกัน – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บท บทที่ 1019 ยินดี,ชีวิตและความตายดำเนินไปด้วยกัน ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ในฐานะหนึ่งในสวนที่งดงามที่สุดในตงหลิง สวนฮวาหยวนงดงามอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่แปลกเลยว่าทำไมถึงดึงดูดสายตาของตระกูลลู่
สวนฮวาหยวนครอบคลุมพื้นที่กว้าง สร้างขึ้นตรงใจกลางของเมืองแต่ล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ ในตอนที่สวนฮวาหยวนถูกสร้างขึ้น ฝีมือของช่างก่อสร้างไม่ได้ชำนาญมากมายแต่อย่างใด แต่ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเหมาะสม เมื่อก้าวเข้าสู่สวนฮวาหยวนจะมีความรู้สึกว่ากำลังอยู่นอกโลก ทำให้ผู้คนหลงใหลและยากที่จะคืนกลับมา
งานวันเกิดของเฟิ่งชิงเฉินในครั้งนี้ใช้พื้นที่ของลานเล็ก ๆ เพียงแค่สองลาน ลานหนึ่งมีไว้ให้เสด็จอาเก้ารับรองแขกผู้ชาย ส่วนอีกลานหนึ่งมีไว้ให้เฟิ่งชิงเฉินรับรองแขกผู้หญิง
นี่เป็นงานเลี่ยงแรกที่เสด็จอาเก้าจัดขึ้นในซานตง ผู้ที่มีหน้ามีตาในสังคมต่างถูกเชิญมาร่วมงาน พวกเขาพยายามทำตัวให้โดดเด่นที่สุดเพื่อปรากฏตัวต่อหน้าเสด็จอาเก้า
ส่วนคนที่ไม่ได้รับบัตรเชิญก็ต่างส่งของขวัญมาอวยพร พวกเขาเพียงหวังให้เสด็จอาเก้าได้รับรู้ว่าในซานตงก็มีคนอย่างพวกเขาอยู่เช่นกัน
ชายวัยกลางคนที่แต่งกายเหมือนเศรษฐีผู้หนึ่งซึ่งไม่ได้รับบัตรเชิญ หลังจากที่เขาเดินทางมาร่วมมือ เขาถูกคนเฝ้าประตูขวางไว้และแนะนำให้กลับไป เศรษฐีผู้นั้นไม่ได้โกรธแต่อย่างใด เขายิ้มและจากไปอย่างให้ความร่วมมือ
ทันทีที่ขึ้นไปบนรถ ฮูหยินของเศรษฐีผู้นั้นก็กล่าวออกมาว่า “นี่ท่าน มีคนส่งของขวัญมามากมายถึงเพียงนี้ ของขวัญของพวกเราจะส่งไปถึงเสด็จอาเก้าหรือไม่? หยกขาวชิ้นนั้นเป็นสมบัติสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นของตระกูลเฉิงอย่างพวกเรา หากส่งไปเช่นนี้แล้วเสด็จอาเก้าไม่เห็นมัน เช่นนั้นพวกเราคงแย่”
“ผู้หญิงเป็นเพศที่วิสัยทัศน์คับแคบยิ่งนัก เจ้าจะไปเข้าใจอะไร ปกติแล้วพวกเราไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะมอบของขวัญให้เสด็จอาเก้า และเป็นการยากที่เสด็จอาเก้าจะจัดงานวันเกิดให้แม่นางเฟิ่งเช่นนี้ พวกเราได้มอบของขวัญไปแล้ว และของขวัญของพวกเราก็วิเศษเป็นอย่างมาก เมื่อเสด็จอาเก้าและแม่นางเฟิ่งได้เห็น พวกเขาต้องจำพวกเราได้เป็นแน่ และคราวนี้ตระกูลของพวกเราก็จะรุ่งเรือง” ใบหน้าของเศรษฐีเต็มไปด้วยความคาดหวัง ภาพของเสด็จอาเก้ากำลังชื่นชมของขวัญจากเขาลอยขึ้นมาในสมอง ยิ่งเขานึกถึงมันมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ฮูหยินของเขากล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “หากพวกเขาไม่สนใจของขวัญจากพวกเรา เช่นนั้นจะไม่เป็นการสูญเสียหยกขาวไปโดยเปล่าประโยชน์อย่างนั้นหรือ”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ความตื่นเต้นบนใบหน้าของเศรษฐีก็แข็งทื่อในทันใด เขาจ้องมองฮูหยินด้วยแววตาอันดุร้าย แต่ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าตนเองนั้นฝันเกินจริง กัดฟันและพูดออกมาว่า “ไม่มีทาง หยกชิ้นนั้นของพวกเราเหมาะสมที่จะเป็นของขวัญสำหรับการสวมใส่มากที่สุด ช่วยปกป้องดูแลร่างกายของสตรีเป็นอย่างดี เสด็จอาเก้าจะต้องมองเห็นมันอย่างแน่นอน และแม่นางเฟิ่งก็ต้องชื่นชอบมันเป็นอย่างมาก”
มีหลายคนที่คิดจะก้าวขึ้นเป็นหงส์เฉกเช่นเดียวกับตระกูลของเศรษฐีผู้นี้ ซานตงไม่ใช่เมืองที่ร่ำรวย แต่ก็มีคนร่ำรวยอยู่ในเมืองไม่น้อย และมีหลายคนที่คิดจะทำเช่นเดียวกับเศรษฐีผู้นี้เพื่อดึงดูดความสนใจของเสด็จอาเก้า ความรุ่งเรืองอยู่ใกล้แค่เอื้อม ขอแค่เพียงผ่านหูผ่านตาของเสด็จอาเก้าเพียงเล็กน้อย เท่านั้นพวกเขาก็เพียงพอจะกินอยู่ไปได้หลายชั่วอายุคน
และหากได้เข้ามาอยู่ในสายตาของเสด็จอาเก้า มันก็ถือว่าเป็นโอกาสอันดี หากพวกเขาพลาดโอกาสครั้งนี้ หลังจากนี้พวกเขาก็คงหมดหนทางที่จะมอบของขวัญให้เสด็จอาเก้า บางตระกูลถึงกับยอมอดออมเพื่อสร้างของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับเสด็จอาเก้าในครั้งนี้
ดังนั้นในงานวันเกิดของเฟิ่งชิงเฉิน ด้านนอกของสวนฮวาหยวนเต็มไปด้วยรถม้า แขกจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา คนรับใช้วุ่นไม่ได้หยุดมือ และในฐานะเจ้านาย เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินยังคงนั่งรออยู่ในห้องโดยไม่สนใจแขกที่เดินทางเข้ามา
ในห้องมีเพียงเฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าอยู่แค่สองคนเท่านั้น เฟิ่งชิงเฉินนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งมองตัวเองในกระจก ส่วนเสด็จอาเก้าหลับตาลง มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้ ความสุขของเขาในเวลานี้เอ่อล้นออกมาจากคิ้วของเขา
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ฉลองงานวันเกิดอันยิ่งใหญ่ แม้เฟิ่งชิงเฉินจะรู้สึกว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไป เสียงทั้งแรง เสียทั้งเงิน แต่ความสุขที่เกิดขึ้นในใจของนางมันคือความสุขของการได้รับความดูแล
แม้ว่าเสด็จอาเก้าจะจัดงานวันเกิดให้นางอย่างยิ่งใหญ่เพียงเพื่อเปิดมุมมองของชาวซานตงและทดสอบตระกูลลู่ แต่สิ่งที่เสด็จอาเก้าต้องเตรียมพร้อมนั้นมันก็ไม่ใช่น้อย ๆ
วันนี้เฟิ่งชิงเฉินสวมชุดชาววังสีทอง เสื้อผ้าชุดนี้เสด็จอาเก้าเป็นคนจัดหามาให้ในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน และมันเพิ่งจะมาถึงเมื่อเช้านี้
เสด็จอาเก้ารู้อยู่เสมอว่าเฟิ่งชิงเฉินเหมาะกับชุดใด ชุดชาววังสีทองไม่ใช่รูปแบบที่นิยมกันในสมัยปัจจุบัน แต่เป็นรูปแบบที่นิยมกันของสตรีสูงศักดิ์ในราชวงศ์ก่อน แต่มันกลับดูสวยงามและอลังการมากกว่าเครื่องแต่งกายในสมัยปัจจุบัน
อยู่บนโลกแห่งนี้เป็นเวลานาน เฟิ่งชิงเฉินก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าชุดที่นางกำลังสวมอยู่นั้นต้องใช้หญิงรับใช้ในการตัดมันขึ้นมามากกว่าร้อยคน และยังต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งปีถึงจะตัดชุดขึ้นมาสำเร็จ เห็นได้ชัดว่าแผนในการจัดงานวันเกิดให้กับนางของเสด็จอาเก้านั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่มันเป็นสิ่งที่ถูกจัดเตรียมไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
เครื่องแต่งกายงดงามมาก เฟิ่งชิงเฉินชอบมันมากเช่นกัน แน่นอนว่าสิ่งที่นางชอบมากที่สุดก็คือความใจดีของเสด็จอาเก้า ชุดที่นางสวมใส่อยู่นี้เป็นชุดของชาววังที่สวมทั้งหมดสิบสองชั้น เสด็จอาเก้าเป็นคนสวมมันให้กับนาง และผ้าทุกชิ้นบนร่างกายของนางต่างผ่านมือของเขามาทั้งหมด
“เด็กดี นั่งลง ข้าจะทำผมให้เจ้า” เสด็จอาเก้ารีดเสื้อผ้าของเฟิ่งชิงเฉินให้เรียบ ประลองเฟิ่งชิงเฉินนั่งลง และทำผมที่ง่ายที่สุดให้กับนาง มีเพียงปิ่นปักผมสีแดงเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่ปักอยู่ด้านบนผมของนาง
เมื่อรัดผมเป็นอันเรียบร้อย ต่อไปก็ถึงเวลาเขียนคิ้ว......
เสด็จอาเก้าค่อนข้างเงอะงะเล็กน้อยเมื่อเขาทำสิ่งนี้ แค่ดูก็รู้ว่าเขาเพิ่งจะศึกษามาได้ไม่นาน
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ชายที่ไม่ค่อยเกี่ยวพันกับผู้หญิง ที่จะเรียนรู้วิธีมัดผม เขียนคิ้วให้แก่ผู้หญิงคนหนึ่ง เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้าทำการฝึกฝนด้วยตัวเองมาเป็นระยะเวลานานแค่ไหน แต่นางรู้ว่าในวันนี้ต่อมน้ำตาของนางเปลี่ยนแปลงไปเป็นพิเศษ นางรู้มักจะรู้สึกเจ็บแสบเล็กน้อยที่ดวงตาของนาง อยากจะร้องไห้ออกมาอยู่หลายครั้ง......
เสด็จอาเก้ายุ่งถึงเพียงนี้ แต่กลับหาเวลาไปเรียนวิธีการรัดผม เขียนคิ้ว เช่นนี้จะให้นางไม่หวั่นไหวได้อย่างไร แต่ความรู้สึกเหล่านี้ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจของนางเท่านั้น
ราวกับเสด็จอาเก้าเข้าใจในความคิดของเฟิ่งชิงเฉิน เขายกดินสอขึ้นมาเขียนคิ้วขึ้นเบา ๆ นิ้วก้อยหยิบปอยผมที่ตกลงมา ด้วยท่าทางที่ไร้เดียงสา
หลังจากเขียนคิ้วเป็นอันเรียบร้อย เสด็จอาเก้าจ้องมองดูอย่างระมัดระวัง ลงดินสออีกสองสามครั้ง จากนั้นถึงวางดินสอลงด้วยความพึงพอใจ “หลังจากนี้ งานวันเกิดของเจ้าในทุก ๆ ปี ข้าจะเป็นคนทำผมและเขียนคิ้วให้เจ้าเอง”
เสด็จอาเก้ายื่นมือออกมา พยุงเฟิ่งชิงเฉินขึ้นยืน ชิงเฉินของเขาไม่จำเป็นต้องมีเครื่องประดับหรือทรงผมที่ซับซ้อน เพียงเท่านี้ก็ดีเกินพอแล้ว
ทั้งสองสบตากัน เฟิ่งชิงเฉินเห็นสายตาที่จริงจังจากดวงตาของเสด็จอาเก้า พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ทุกปีหลังจากนี้ ข้าจะรอให้เจ้ามาทำผมให้ข้า หากเจ้าอยู่เคียงข้างข้าไปชั่วชีวิต ข้าเองก็จะอยู่เคียงข้างเจ้าไปจนชีวิตจะหาไม่”
วันเกิดในปีที่สิบหก นางจะไม่มีวันลืมไปตราบชั่วนิรันดร์!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...