วิหารชมเดือนอยู่ห่างจากเมืองจักรพรรดิพอสมควร แม้ว่าเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเดินทางออกมาจากเมืองตั้งแต่เช้าตรู่ แต่เพื่อให้เฟิ่งชิงเฉินได้นอนหลับสบาย เสด็จอาเก้าก็สั่งให้ใช้ความเร็วไม่มากนัก ดังนั้นในตอนใกล้เที่ยงพวกเขาจึงเพิ่งเดินทางมาถึงวิหารชมเดือน
วิหารชมเดือนไม่ใช่สถานที่ซึ่งมีชื่อเสียงแต่อย่างใด เครื่องหอมก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก มีเพียงแค่ฤดูกาลนี้เท่านั้นที่พอจะมีคนมาทานอาหารมังสวิรัติและเพลิดเพลินกับดอกไม้
ทันใดที่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเดินทางมาถึง ผู้นำภิกษุณีก็รีบออกมาต้อนรับทันที พูดจาอ่อนน้อม ให้ความเคารพ ไม่เหมือนกับภิกษุณีเลยแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าเสด็จอาเก้าเป็นผู้ชาย แต่ผู้นำภิกษุณีก็ยังอนุญาตให้เสด็จอาเก้าเข้าไปด้านใน
เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้ว ผู้นำภิกษุณีผู้นั้นสังเกตทั้งคำพูดและท่าทางของคนเป็นอย่างดี เมื่อเห็นท่าทางไม่พอใจของเฟิ่งชิงเฉิน นางก็รีบอธิบายออกมาทันใดว่า “แม่นางเฟิ่ง วันนี้ในวิหารของเราไม่มีคนนอก ข้าได้สั่งให้ศิษย์ในวิหารกลับไปหมดแล้ว สวนด้านหลังจึงมีเพียงแค่เสด็จอาเก้าและพวกของแม่นางเฟิ่งเท่านั้น”
หรือพูดอีกอย่างก็คือ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ปฏิบัติตามกฎของวิหารชมเดือน แต่เป็นเพราะตัวตนที่ไม่ธรรมดาของเสด็จอาเก้า จึงไม่มีใครพูดถึงกฎเกณฑ์กับเขา
“ขอโทษที่ต้องทำให้ผู้นำภิกษุณีลำบาก” เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าขอบคุณ นางไม่ได้แสดงออกทางอารมณ์แต่อย่างใด แต่เสด็จอาเก้าก็รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินนั้นไม่มีความสุข
มาถึงสวนด้านหลัง เสด็จอาเก้าบอกให้ผู้นำภิกษุณีออกไปก่อน จากนั้นถามออกมาว่า “เป็นอย่างไรบ้าง? ชอบหรือไม่?”
แม้ว่าพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อทำธุระ แต่เสด็จอาเก้าก็หวังว่าจะสามารถทำให้เฟิ่งชิงเฉินมีความสุขได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่จงใจปิดบังเฟิ่งชิงเฉินเป็นพิเศษ แน่นอน ที่เขาไม่ได้บอกเฟิ่งชิงเฉินก็เพราะว่ากลัวจะมีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น เนื่องจากสิ่งที่ท่านอ๋องสามทำลงไปนั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถคาดเดาได้ มันละเอียดและระมัดระวังมากกว่าคนทั่วไปถึงหลายเท่า
“ผู้นำภิกษุณีผู้นั้นดูแปลก ๆ” ไม่มีคนนอก เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่ปิดบังแต่อย่างใด
“แปลกอย่างไง?” เสด็จอาเก้าแอบถอนหายใจกับความรู้สึกอันอ่อนไหวของเฟิ่งชิงเฉิน
ก็นางไม่ใช่ภิกษุณีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แน่นอนว่าต้องรู้สึกแปลกเป็นธรรมดา แต่หลายปีที่ผ่านมานี้กลับไม่มีใครสังเกตหรือสัมผัสถึงมันได้เลย
“ผู้นำภิกษุณีผู้นี้ดูเหมือนว่าจะมีอายุเพียงสามสิบปีเท่านั้น หน้าตาสะสวย รูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์ เวลาเดินก็พลิ้วไหวและสง่างาม ไม่ถือตัว ไม่มีความนิ่งสงบเหมือนกับภิกษุณีอยู่เลย” ชาติที่แล้วนางเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ ภิกษุจริงหรือปลอม ภิกษุณีจริงหรือปลอม นางก็ได้เห็นมาไม่น้อย แต่ถึงแม้จะเป็นตัวปลอม พวกเขาก็แสดงได้แนบเนียนเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนกับผู้นำภิกษุณีผู้นี้ เห็นกันอยู่ว่าเป็นผู้นำภิกษุณีจริง ๆ แต่กลับไม่ให้ความรู้สึกของภิกษุณีที่แท้จริงอยู่เลย
เสด็จอาเก้าแอบพยักหน้า แต่เขายังปกปิดมันไว้พร้อมกับกล่าวออกไปว่า “วิหารชมเดือนแห่งนี้เป็นเพียงวัดเล็ก ๆ ผู้นำภิกษุณีอย่างพวกนางน่าจะไม่ค่อยเคร่งครัดเสียเท่าไหร่ อีกอย่างวิหารชมเดือนแห่งนี้ก็เป็นวันที่มีชื่อเสียงทางด้านของสวนดอกไม้และอาหารมังสวิรัติ ผู้นำภิกษุณีจะปฏิบัติธรรมอย่างไรก็ไม่มีใครมาให้ความสนใจ”
“ที่เจ้าพูดมามันก็ถูก อย่างไรเสียที่พวกเรามายังวิหารชมเดือนแห่งนี้ก็ไม่ใช่เพราะต้องการคำชี้แนะจากอาจารย์ แต่มาเพื่อทานอาหารและชื่นชมดอกไม้ ผู้นำภิกษุณีจะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา พวกเรามาอย่างกะทันหัน ผู้นำภิกษุณีบอกว่าเรื่องอาหารคงต้องรออีกสักพัก เช่นนั้นพวกเรามาเดินชมทุ่งดอกกุหลาบกันก่อนเป็นอย่างไร?” ในใจของเฟิ่งชิงเฉินยังนึกถึงทุ่งดอกกุหลาบที่เสด็จอาเก้าพูดในตอนแรก
“ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดเจ้าจึงชื่นชอบดอกกุหลาบยิ่งนัก แต่ในเมื่อเจ้าอยากได้มันถึงเพียงนั้น ข้าก็จะเป็นคนมอบให้เจ้าด้วยตัวเอง” เสด็จอาเก้าพูดอย่างไร้หนทาง แต่ในคำพูดของเขาก็แสดงถึงการปรนเปรอและอ่อนโยนอย่างชัดเจน
เขากำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่จะหาเหตุผลอะไรเพื่อชวนเฟิ่งชิงเฉินไปเดินเล่น แต่เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเอ่ยปากออกมาเช่นนี้ คนที่ไม่รู้เรื่องอาจจะคิดว่าพวกเขาตกลงกันมาตั้งแต่ตอนแรกแล้ว
“ข้าไม่สน ในเมื่อเจ้ารับปากข้าแล้ว เจ้าจะต้องเก็บและมอบมันให้ข้าด้วยตัวเอง และเจ้าก็ต้องเลือกดอกที่งดงามที่สุดให้กับข้า” เฟิ่งชิงเฉินดึงแขนของเสด็จอาเก้าออกไปเดินเล่นด้านนอกอย่างเอาแต่ใจ
“ข้าต้องเก็บเองด้วยอย่างนั้นหรือ? เจ้าก็รู้ว่าข้าแพ้เกสรดอกไม้” เสด็จอาเก้าพยายามดิ้นรนเพื่อต่อสู้กับความตายอย่างสุดชีวิต เมื่อเขานึกถึงภาพตอนที่เขาเดินเข้าไปหน้าสวนดอกไม้ ในตอนที่เขากำลังจะเก็บมัน ร่างกายของเขาก็สั่นเทาด้วยความหนาวเย็น
“ข้าก็ให้เจ้ากินยาแก้แพ้ไปแล้วไม่ใช่หรือ เป็นโอกาสดีเลยที่จะมาลองกันว่ามันมีประโยชน์หรือไม่” หากไม่เก็บด้วยตัวเอง เช่นนั้นจะมีความหมายอะไร
“ครั้งหน้าได้หรือไม่? ครั้งนี้ข้าให้คนอื่นเก็บให้เจ้าไม่ได้หรือ?” เสด็จอาเก้าต่อรองออกมา
“ไม่ได้ ไม่ได้ บนรถม้า พวกเราตกลงกันไว้แล้ว เจ้าจะต้องเป็นคนเก็บให้ข้าด้วยมือของเจ้าเอง ไม่สนแล้ว......รีบไปกันเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...