สุดท้ายเฟิ่งชิงเฉินก็เชื่อฟังคำพูดของเสด็จอาเก้าแต่โดยดี ค้างที่จวนอ๋องเก้าหนึ่งคืนและค่อยเดินทางกลับจวนเฟิ่งในวันพรุ่งนี้
นางจำเป็นต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจ มีเพียงแบบนี้เท่านั้น นางถึงมีพลังไปสู้กับปีศาจตัวน้อยนั่น ไม่อย่างนั้นไม่ช้าก็เร็วนางคงไม่ต่างอะไรกับหมอที่เคยรักษาเขาเหมือนที่ผ่านมา ก็คือไม่ตายก็เป็นบ้า
ผู้หญิงกับผู้ชายนอนบนเตียงเดียวกัน คงยากที่จะหลีกเลี่ยงการกระทำบางอย่าง แต่ด้วยสภาพจิตใจของเฟิ่งชิงเฉินในเวลานี้ เสด็จอาเก้าจึงกอดเฟิ่งชิงเฉินไว้ในอ้อมแขน พลิกตัวไปบนเตียงรอบหนึ่ง จากนั้นก็ปล่อยนางไป
หลังจากผ่านการออกกำลังกาย การนอนหลับก็ยิ่งสบายขึ้น เฟิ่งชิงเฉินนอนหลับสนิท หลังจากตื่นขึ้นมาก็พบว่าสภาพจิตใจนั้นดีขึ้นมาก ความหดหู่ของเมื่อวานหายไป ใบหน้าสดใส และพ่อบ้านชราก็ยิ้มให้นางด้วยความนับถือ
วัยรุ่นนี่นะ ควรจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันให้มาก ๆ แบบนั้นถึงจะทำให้สภาพจิตใจและอารมณ์คงที่ เห็นเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเดินออกมาพร้อมกัน พ่อบ้านจึงรีบสั่งให้คนรับใช้จัดวางอาหารเช้าทันที
อาหารเช้าในวันนี้อุดมสมบูรณ์มากกว่าปกติ และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือเลือดกวางสีแดงในถ้วย ท่านอ๋องเก้าเหลือบมองหน้าของพ่อบ้านชรา พ่อบ้านหรี่ตาลงเล็กน้อยด้วยใบหน้าอันภาคภูมิใจ
เสด็จอาเก้าเก็บสายตากลับมาด้วยความไม่พอใจ ทำเหมือนพ่อบ้านชราเป็นเลือดกวาง และไม่มองไปที่เขาอีก
เสด็จอาเก้าแอบถอนหายใจที่เจ้านายไม่มีความจริงใจเอาเสียเลย เมื่อคืนวานพวกเขากลิ้งอยู่บนเตียงตั้งหลายรอบ แน่นอนว่าพ่อบ้านชรารู้เรื่องที่เกิดขึ้น มันช่างเป็นสิ่งที่ทำให้คนพูดไม่ออกเสียจริง
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็ออกจากจวนมาพร้อมกัน เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าเสด็จอาเก้าจะเดินออกมาส่งนางเท่านั้น จึงไม่ได้ถามอะไรมาก แต่เมื่อเห็นเสด็จอาเก้าขึ้นรถม้าคันเดียวกับนาง นางจึงถามออกมาด้วยความสงสัยว่า “เจ้าจะไปจวนเฟิ่งกับข้างั้นหรือ?”
“อื้อ” เสด็จอาเก้านั่งลงบนรถม้าและตอบกลับมาโดยท่าทาง
“เจ้ายุ่งมาเลยไม่ใช่หรือ?” มีคนคอยสนับสนุน แม้ในใจของเฟิ่งชิงเฉินจะรู้สึกดีใจ แต่นางกังวลว่าจะทำให้เสด็จอาเก้าเสียเวลากับเรื่องสำคัญมากกว่า
“ต่อให้ยุ่งแค่ไหนมันก็ไม่ได้เสียเวลาขนาดนั้น” เมื่อรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินถูกคนทรมานในจวนเฟิ่ง เขาจะนิ่งดูดายอยู่ได้อย่างไร เขาเองก็อยากเห็นนายน้อยเจ๋อเจ๋ออยู่เหมือนกัน เด็กอายุเพียงหกขวบ ต้องบอกเลยว่าเป็นเด็กที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
“อื้อ อื้อ อื้อ” เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าติดต่อกันหลายครั้งด้วยความรู้สึกประทับใจ
นักรบที่แท้จริงกล้าเผชิญกับความท้าทาย และเสด็จอาเก้าก็เป็นนักรบที่แท้จริงผู้นั้น
มีเสด็จอาเก้าอยู่เป็นเพื่อน เฟิ่งชิงเฉินอารมณ์ดีขึ้นมา ไม่ต้องพูดถึงว่าจะทำอย่างไรกับเจ๋อเจ๋อ อย่างน้อยก็มีคนกล้าได้กล้าเสีย เดินเข้าไปยังจวนเฟิ่ง นางก็ไม่มีทางตื่นตระหนก
ไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินคิดมากเกินไปหรือมีอะไรผิดปกติ นางรู้สึกว่าตั้งแต่เจ๋อเจ๋อเข้ามาในจวนเฟิ่ง ประตูสีแดงชาดสองบานนั้นของจวนเฟิ่งก็มีรัศมีแห่งความเยือกเย็นแอบแฝงอยู่
เฟิ่งชิงเฉินอดไม่ได้ที่จะตัดสั่น
“เป็นอะไรงั้นหรือ? หรือว่าหนาว?” เสด็จอาเก้าถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไร” เฟิ่งชิงเฉินรีบตอบกลับไป
นางไม่อาจบอกกับเสด็จอาเก้าได้ว่า นางรู้สึกหวาดกลัวบ้านของตนเอง เช่นนั้นจะเป็นเรื่องน่าอายอย่างมาก
“ไม่มีอะไรก็เข้าไปได้แล้ว”
เสด็จอาเก้าเดินอยู่ด้านหน้า ปกป้องเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ด้านหลัง ส่วนองครักษ์ที่คอยปกป้องเขา เสด็จอาเก้าไม่ได้พามาด้วยสักคน เขาไม่ได้ต้องการพึ่งพาความกล้าหาญของใคร ต่อให้เด็กคนนั้นจะมีวิธีการที่โหดเหี้ยมแค่ไหน เขาก็เป็นเพียงแต่เด็กอายุหกขวบ
มันเป็นเพียงปลายฤดูใบไม้ผลิ แต่จวนเฟิ่งในเวลานี้เต็มไปด้วยความหดหู่ แม้ว่าจะไม่มีบรรยากาศนองเลือด แต่ก็ยังให้ความรู้สึกที่เยือกเย็น ทำให้เสด็จอาเก้าอดไม่ได้ที่จะนับถือความสามารถและวิธีการของเจ๋อเจ๋อ
ผู้ที่ออกมาจากลัทธิปีศาจนั้นแตกต่างออกไปอย่างที่คิด เด็กอายุเท่านี้กลับมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใด ต่างสามารถทำให้มันเป็นเหมือนสถานที่หนึ่งของลัทธิปีศาจได้
เสด็จอาเก้าเดินเข้ามาพักหนึ่งก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของใคร ด้านในจวนสะอาดจนน่าตกใจ เสด็จอาเก้าขมวดคิ้วขึ้นมา ถามเฟิ่งชิงเฉินด้วยสายตา เฟิ่งชิงเฉินส่ายหน้าเพื่อบ่งบอกว่าตนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
น่าจะเป็นเพราะว่าวันนี้อารมณ์ของนายน้อยเจ๋อเจ๋อเป็นปกติ ดังนั้น......เขาจึงไม่สร้างบรรยากาศนองเลือดขึ้นมา
“พาทุกคนออกมาเดี๋ยวนี้” จนกระทั่งเดินไปสุดทางของห้องรับรอง เสด็จอาเก้าไม่เห็นแม้แต่เงาของใคร เขาจึงเอ่ยปากออกมาอย่างเยือกเย็น
“ขอรับ” ไม่รู้ว่าเสียงดังมาจากทางไหน มันเป็นเสียงของการตอบรับ จากนั้นก็เห็นลมหายใจล่องลอยออกมา ราวกับเป็นสิ่งของบางอย่างที่สกปรกลอยมาจากทางด้านหลัง เฟิ่งชิงเฉินลูบแขนของตัวเอง แสดงให้เห็นว่าความกล้าของนางลดลงแล้ว
“ไป เข้าไปรอ” เข้ามาในจวน เสด็จอาเก้าก็ไม่ได้หวาดระแวงหรือระมัดระวังอะไรมากขนาดนั้น เขาจูงมือเฟิ่งชิงเฉินเดินเข้าไปในจวน
ไม่มีคนรับใช้อยู่ในจวนเฟิ่ง ดังนั้นจึงไม่ต้องคาดหวังเกี่ยวกับเรื่องของชาร้อนและขนมหวานที่จัดเตรียมไว้ ต่อให้มีการจัดเตรียมไว้เฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าก็ไม่มีทางสัมผัสมัน เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าเจ๋อเจ๋อใส่อะไรลงไปบ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...