นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1074

สรุปบท บทที่ 1074 น่าเวทนา,จุดจบของชีวิตดวงน้อย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1074 น่าเวทนา,จุดจบของชีวิตดวงน้อย – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บท บทที่ 1074 น่าเวทนา,จุดจบของชีวิตดวงน้อย ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เมื่อไม่มีองครักษ์คอยปกป้อง เจ๋อเจ๋อก็ไม่ต่างอะไรกับเสือที่ไร้เขี้ยวเล็บ แต่เจ๋อเจ๋อกลับไม่คิดเช่นนั้น เมื่อเห็นทหารพาตัวเหล่าองครักษ์ของเขาออกไป เขายังคงพยายามพูดออกมาทุกวิถีทาง บอกให้ตี๋ตงหมิงปล่อยคนของเขา ไม่อย่างนั้นตี๋ตงหมิงจะได้เจอดีแน่

ตี๋ตงหมิงยิ้มออกมาด้วยความสุขใจ เขาตะโกนออกมาเสียงดังว่า “เจ้าเด็กไร้สมอง เด็กตัวแค่นี้ แต่กล้าพูดจาอวดดีกับข้า เขาไม่กลัวข้าสังหารเขาด้วยฝ่ามือเดียวเลยหรืออย่างไง!”

“เจ้าอย่าดูถูก......” เฟิ่งชิงเฉินยังไม่ทันพูดจบ ก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นนอกประตู เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นงูเหลือมขนาดใหญ่เท่ากับเสาบ้านกำลังพุ่งเข้ามาด้านหน้าของตี๋ตงหมิง

“หงเหลียน กัดเขาให้ตายไปเลย" เจ๋อเจ๋อชี้ไปที่ตี๋ตงหมิงและออกคำสั่งกับงู งูขนาดใหญ่เหมือนกับเข้าใจภาษามนุษย์เป็นอย่างดี เมื่อเจ๋อเจ๋อกล่าวออกมา มันก็พุ่งหาตี๋ตงหมิงทันที

“ตี๋ตงหมิง หลบเร็ว” เฟิ่งชิงเฉินเคยเห็นเจ๋อเจ๋อใช้วิธีการนี้มาก่อน และเคยเสียท่างูตัวนี้มาแล้วเช่นกัน นางตกใจจนล้มลงพื้น เห็นงูตัวใหญ่เลื้อยเข้ามา เฟิ่งชิงเฉินรีบแจ้งเตือนให้ตี๋ตงหมิงได้รับรู้ พร้อมกับนำปืนออกมาเพื่อปกป้องตนเอง

เจ๋อเจ๋อเป็นเด็กที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

“อายุเพียงเท่านี้ แต่กลับคบหากับสัตว์เดรัจฉานที่ดุร้าย” เสด็จอาเก้าจ้องมองเจ๋อเจ๋อด้วยสายตาขยะแขยง ความเย่อหยิ่งปรากฏบนใบหน้าเล็ก ๆ ของเจ๋อเจ๋ออีกครั้ง เสด็จอาเก้าส่ายหน้า จากนั้นก็ชักดาบที่เอวของเขาออกมาพร้อมกับพุ่งเข้าหางูขนาดใหญ่ตัวดังกล่าว

“ข้า ข้า......” ตี๋ตงหมิงถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของเขาซีดขาวด้วยความตกใจ

ไม่ว่าใครก็ตาม เมื่อเห็นงูขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาหาตนเองก็จะรู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูกกันทั้งนั้น ตี๋ตงหมิงถือว่าทำได้ดีมากแล้ว อย่างน้อยเขาก็ชักดาบออกมา แม้ว่าในสายตาของเฟิ่งชิงเฉิน ดาบเล่มนั้นมันจะไม่อาจทำให้งูตัวดังกล่าวบาดเจ็บได้ก็ตาม

“ฟ่อ ฟ่อ......” การเคลื่อนไหวของงูยักษ์รวดเร็วเป็นอย่างมาก ขดตัวอยู่ด้านหน้าตี๋ตงหมิง จากนั้นพุ่งทะยานขึ้นสูงกว่าร่างกายของตี๋ตงหมิง อ้าปากกว้างและพุ่งเข้าหาศีรษะของตี๋ตงหมิง

ตี๋ตงหมิงตกใจจนเสียสติ เหวี่ยงดาบในมือไปตามสัญชาตญาณ แอบคิดว่ามันเป็นความผิดพลาดของตนเองที่ต้องมาตกอยู่ในกำมือของปีศาจตัวน้อย

ไม่ใช่ว่าตี๋ตงหมิงไม่มีคุณลักษณะของแม่ทัพ แต่ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเร็วเกินไป และเขาก็ไม่ได้ทำการป้องกันแต่อย่างใด เนื่องจากเจ๋อเจ๋อเพิ่งจะพูดออกมาเท่านั้น

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตี๋ตงหมิงประเมินปีศาจตัวน้อยอย่างเจ๋อเจ๋อต่ำเกินไป เขาคิดไม่ถึงว่าเด็กตัวเล็กเพียงแค่นี้ บอกว่าจะฆ่าก็ฆ่าในทันที

ในตอนที่ตี๋ตงหมิงคิดว่าตนเองต้องมีจุดจบอย่างอนาถ เสียง “ปัง......” ก็ดังขึ้น มันคือเสียงของปืน ด้านหน้าของตี๋ตงหมิงเปลี่ยนเป็นฉากสีแดง อุณหภูมิเพิ่มขึ้น เมื่อลืมตาก็เห็นว่างูยักษ์ตัวนั้นล้มลงกับพื้นและขดตัว เคลื่อนไหวแบบสุ่ม ๆ อ้าปากกัดทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ

“จะงงอะไรอยู่ รีบหนีเร็ว” โชคดีที่เสด็จอาเก้าเข้ามาทันเวลา คว้าคอเสื้อของตี๋ตงหมิงไป โยนเขาออกไปหน้าประตู ส่วนอีกมือที่ถือดาบไว้ เขาก็แทงมันเข้าไปที่ดวงตาข้างซ้ายของงูยักษ์

จากนั้นก็ได้ยินเสียง “แคร่ง” ดังขึ้นมา เสด็จอาเก้าใช้ประโยชน์จากร่างกายที่เอนไปด้านหน้า แต่ดาบดังกล่าวกลับไม่สามารถแทงเข้าไปในลูกตาของงูยักษ์ได้ งูยักษ์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และในตอนนั้นเอง เฟิ่งชิงเฉินก็ยิงปืนของนางออกมาอีกนัด ซึ่งลูกกระสุนก็พุ่งเข้าไปยังลำคอของมัน......

กระสุนนัดนี้ ความรุนแรงของมันน่าเหลือเชื่อ มันทะลุลำคอของงูยักษ์ออกไป ทำให้เกิดรูตรงลำคอของงูยักษ์ เลือดสีแดงสาดกระเซ็นออกมา

“กลิ่นคาวเลือดรุนแรงเหลือเกิน! น่ากลัวยิ่งนัก” ตี๋ตงหมิงหันกลับไปเห็นฉากดังกล่าว เขาตกใจจนไม่กล้าเคลื่อนไหว รู้สึกไม่แปลก ๆ บนใบหน้า เมื่อยื่นมือออกไปสัมผัสก็พบว่ามันคือคราบเลือด......

เอือก......ตี๋ตงหมิงกลืนน้ำลาย ถือดาบไว้ในมือและลุกขึ้นยืน เขาคิดจะเข้าไปช่วยเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉิน แต่เมื่อเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ตี๋ตงหมิงก็เลือกที่จะถอยหลังกลับมา “ข้าไม่เข้าไปวุ่นวายจะดีกว่า”

งูยักษ์ตัวนั้นได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ถึงกับชีวิต ตอนนี้มันกำลังตกอยู่ในความบ้าคลั่ง ดวงตาทั้งสองข้างบอดและมองไม่เห็น แม้ว่ามันจะไม่จำเป็นต้องใช้ดวงตาในการมองสิ่งต่าง ๆ แต่ความเจ็บปวดของมันยังคงอยู่ มันเจ็บปวดและทรมานเป็นอย่างมาก เพียงพอที่จะทำให้งูยักษ์ตัวนี้อยู่ในอาการบ้าคลั่ง

เขายังไม่มีทายาทเลย ตระกูลตี๋มีเขาเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียว ชีวิตของเขาล้ำค่ากว่าเงินทอง หากเขาตายไป แน่นอนว่าปู่ของเขาไม่มีทางอายุยืน เขาจะสละตัวเองเพื่อคนแปลกหน้า และยอมให้คนในครอบครัวเจ็บปวดหัวใจได้อย่างไร

เมื่อพบกับสามปรมาจารย์อันเลือดเย็นและโหดเหี้ยมทั้งสาม เจ๋อเจ๋อช่างน่าสงสารยิ่งนัก งูยักษ์สูญเสียสติไปตั้งแต่แรก มันไม่เข้าใจในคำสั่งของเจ๋อเจ๋อ อ้าปากกว้างและงับศีรษะของเจ๋อเจ๋อเอาไป......

และในตอนนั้นเอง!

เสด็จอาเก้าเขย่งปลายเท้าของเขา ดาบในมือฟันไปยังหางของงูยักษ์ ไม่รู้เหมือนกันว่าดาบในมือของเสด็จอาเก้าทำมาจากวัสดุอะไร เพียงดาบเดียวก็ทำให้งูยักษ์เกิดบาดแผลขนาดใหญ่ เนื้อของมันล้นออกมาอยู่ด้านนอก

งูยักษ์ร้องด้วยความเจ็บปวด หางของมันคลายลง ร่างของเจ๋อเจ๋อก็หลุดจากการควบคุมของงูยักษ์

ราวกับนัดกันไว้ ในตอนที่เสด็จอาเก้าลงมือ เฟิ่งชิงเฉินกระโดดขึ้นไปเบา ๆ กระโดดไปทางด้านซ้ายของงูยักษ์ และยิงเข้าไปที่แก้มของมันหนึ่งนัด

“ฟ่อ......” งูยักษ์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด คลายเจ๋อเจ๋อที่อยู่ในปากของมันออกมา

ช่างเป็นเด็กที่สกปรกยิ่งนัก

เสด็จอาเก้าขมวดคิ้ว ยื่นมือออกไปรับเจ๋อเจ๋อเอาไว้ จากนั้นโยนร่างของเจ๋อเจ๋อไปให้ตี๋ตงหมิงโดยที่เขาไม่แม้แต่จะมองมันด้วยหางตา......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ