"โจวสิง ก่อนหน้านี้พวกเราได้เงินมาไม่น้อยเลยไม่ใช่หรือ เจ้าไปซื้อบ่าวรับใช้มาสักคนสองคนเถิด เรื่องเหล่านี้เจ้าเป็นผู้ชาย คงทำคนเดียวไม่สะดวกนัก"
เฟิ่งชิงเฉินไม่มีความคิดที่ว่าทุกคนเท่าเทียมกัน อีกทั้งไม่มีความคิดว่าบ่าวรับใช้จะต้องเห็นเป็นเพื่อน
เพราะไม่ว่าในยุคใดสมัยใด ผู้คนมักจะถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทหลายชนชั้นวรรณะ ในสมัยโบราณมีกฎเกณฑ์ที่แบ่งเอาไว้อย่างชัดเจน นั่นคือชนชั้นสูง ชนชั้นธรรมดา และชนชั้นล่าง ในสมัยปัจจุบันนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ชัดเจนเช่นนั้น แต่การแบ่งแยกชนชั้นก็ยังมีอยู่ให้เห็น ไม่เช่นนั้นจะมีคำที่เรียกว่าลูกเศรษฐี ทายาทเศรษฐีอะไรเช่นนั้นหรือ?
การที่กล่าวว่า บุตรหลานเชื้อพระวงศ์และบุตรหลานคนธรรมดาทำผิด เมื่ออยู่ต่อหน้ากฎหมายทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน เป็นเพียงแค่เรื่องตลกเท่านั้น
เมื่อกล่าวถึงเรื่องเงินทอง โจวสิงจึงได้ใช้โอกาสนี้ในการบอกกับเฟิ่งชิงเฉินซึ่งเป็นเช่นหัวหน้าจวนนี้ว่า "ท่านพี่ บัดนี้พวกเรามีทองคำทั้งสิ้นสองพันเก้าร้อยตำลึง ลองดูว่าเราจะนำเงินเหล่านี้ไปใช้อย่างไร?"
"มีมากมายเช่นนั้นเชียวหรือ?" เฟิ่งชิงเฉินเบิกตากว้าง
นางเป็นคนยากจนและใช้ชีวิตอย่างยากจนมาเสมอ เมื่อได้ยินว่าบัดนี้มีเงินทองมากมายเพียงนั้นก็ตกใจ เพราะตอนนั้นนางเกือบจะนำค่าสินสอดออกมาใช้ เนื่องจากว่าใกล้จะหิวตายเสียด้วยซ้ำ
"เจ้าโชคดียิ่งนักที่รักษาดวงตาของหวังจิ่นหลิงจนหายขาดได้ ดังนั้นจึงได้ชนะเดิมพันในครั้งนี้ แต่เดิมทีข้อตกลงระหว่างเจ้าและหวังชี เงินที่ได้มาจะต้องแบ่งให้เขาครึ่งหนึ่ง ทองจำนวนหนึ่งพันเก้าร้อยตำลึงได้มาจากการเดิมพันชนะ ส่วนอีกหนึ่งพันตำลึงเป็นเงินที่ทางตระกูลหวังให้เป็นค่ารักษา เจ้าดูเอาเถิดว่าเงินเหล่านี้จะเอาไปทำอะไร"
ทองคำ ทองคำมากมายขนาดนี้ เฟิ่งชิงเฉินนับว่าร่ำรวยขึ้นแล้ว
ในวงการของหมอ แม้จะไม่สามารถกลายเป็นเศรษฐีพันล้านหมื่นล้านได้ แต่รายได้ก็นับว่าอยู่ในระดับกลาง ดังนั้นผู้คนมากมายจึงเลือกที่จะเป็นหมอ เนื่องจากว่าเงินเดือนของหมอนั้นไม่เลว
จะนำไปใช้อย่างไร?
นางทำการค้าไม่เป็น และไม่มีความสนใจจะทำการค้า ดังนั้น......
หากมีเงินก็ควรจะนำมันมาใช้ทำให้ชีวิตดีขึ้น
"โจวสิง มาบูรณะจวนเฟิ่งกันเถอะ ข้ารู้สึกว่าบ้านหลังนี้เพียงแค่มีลมฝนพัดมาก็จะพังได้ทุกเมื่อ"
บ้านนี้ทำขึ้นจากไม้ ซึ่งไม่ได้ปรับปรุงดูแลมาเป็นเวลานาน แต่ละแห่งมักจะมีรูไปทั่ว ภายในสวนดอกไม้ ทั้งต้นหญ้าและดอกไม้เหล่านั้นหากไม่เหี่ยวเฉาแห้งตาย มองไปก็รู้สึกโดดเดี่ยว โดยรวมก็คือภายในสวนนั้นไม่มีที่ใดที่น่าชื่นชมเลย
นางจำได้ดีว่าจวนหวังนั้นงดงามเหลือเกิน ไม่ว่าที่ใด ล้วนตกเเต่งอย่างละเอียดอ่อนประณีตดูดี
แน่นอนว่านางไม่ได้ต้องการให้จวนของนางเป็นเช่นจวนของตระกูลหวัง และไม่จำเป็นจะต้องดูมั่งคั่งเหมือนเศรษฐีในเจียงหนาน เพียงแค่ภายในจวนมีสวนดอกไม้ ศาลา สะพานข้ามแม่น้ำเล็กๆ นี่คือสิ่งที่นางต้องการและใช้ชีวิตอย่างสุขสันต์
"เจ้ามีเงื่อนไขเช่นไรหรือไม่?"
"ไม่มี เพียงแต่บ้านนั้นไม่จำเป็นต้องใหญ่โตเกินไป ต่อให้มีคนรับใช้ ข้าคิดว่าก็ไม่ควรจะมีให้มากเกินไป มีคนทำกับข้าวคนหนึ่ง คนทำความสะอาดคนหนึ่ง ก็เพียงพอแล้ว หากคนมากเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาได้"
"ถ้าเช่นนั้นข้าจะมุ่งเน้นไปที่การซ่อมแซมเรือนหลัก ส่วนเรือนด้านข้างก็คงจะไม่ไปจัดการอะไรมากนัก" โจวสิงกำลังคิดอยู่ในใจว่าจะจัดการเช่นไรดี
"เรือนด้านข้าง? ไม่จำเป็นหรอก โจวสิงรื้อเรือนนั้นทิ้งไปเสีย แล้วสร้างเป็นกระท่อมไม้หลังเล็กๆ ให้เป็นดั่งเช่นตระกูลหวังที่พวกเขาสร้างบ้านข้างหน้าและข้างหลังไว้อย่างละหลัง" เฟิ่งชิงเฉินครุ่นคิด เนื่องจากหากว่านางตั้งใจจะเดินทางสายการรักษานี้จริงๆ ก็จำเป็นจะต้องสร้างห้องพักผู้ป่วย
แม้ว่านี่จะอยู่ในบ้านของนาง และทำให้ภายในบ้านมีกลิ่นยา แต่นางก็ไม่มีสถานที่อื่นให้เลือกมากนัก อีกอย่างเพียงแค่เรือนหลังและเรือนด้านข้างสร้างให้ห่างไกลกันเล็กน้อย แค่ปิดประตูก็หมดปัญหา
"ถ้าเช่นนั้นคงจะต้องใช้เงินจำนวนมาก อีกอย่างเจ้าจะสร้างกระท่อมไม้ทำไมกัน?" โจวสิงรู้สึกไม่เห็นด้วย
"เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องเลยถามข้า แน่นอนว่าข้าต้องใช้มันเป็นประโยชน์ จงไปทางตามที่ข้ากำชับก็พอ เงินเหล่านั้นใช้จนหมดก็ได้"
เพราะว่าห้องพักคนไข้นั้นจะต้องทำขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากหากมีเพียงหวังจิ่นหลิงเป็นคนไข้เพียงคนเดียวก็ไม่เท่าไร แต่หากมีคนไข้เพิ่มมากขึ้น นางจะเอาห้องพักผู้ป่วยที่ไหนให้ผู้ป่วยคนอื่นๆ อาศัยเล่า?
ผู้ป่วยบางคนไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ ดังนั้นจึงต้องพักผ่อนอยู่ภายในห้องเงียบๆ
อย่างเช่นการผ่าตัดก็จำเป็นจะต้องมีห้องผ่าตัด ด้านในใช้สำหรับให้ผู้ผ่าตัดพักฟื้น ด้านนอกสามารถให้บ่าวรับใช้หรือแม่บ้านคอยดูแล หากมีคนมากอาจจะต้องใช้ถึงทั้งสองห้อง เพียงแค่สร้างห้องด้านหน้าและด้านหลังเป็นพอ
เดิมทีดูเหมือนโจวสิงต้องการจะห้ามนางและโน้มน้าว แต่พบว่าเฟิ่งชิงเฉินตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมาก กล่าวเพียงว่า "เงินเหล่านี้เพียงพอแล้ว และยังมีเหลือด้วยซ้ำไป"
สิ่งที่พวกเขามีในมือตอนนี้คือทองคำไม่ใช่เงิน
"หากยังพอมีเหลือล่ะก็ ไปซื้อร้านเพิ่มสักสองสามร้าน จากนั้นพวกเราจะให้พวกเขาเช่าแล้วเก็บเงินค่าเช่า" เฟิ่งชิงเฉินผู้ที่ได้รับผลกระทบมาจากเรื่องราคาพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างสูงในชาติที่แล้ว ดังนั้นนางผู้ที่ไม่ค่อยเก่งเรื่องการลงทุนเท่าไรนัก จึงค่อนข้างมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องของราคาอสังหาริมทรัพย์
หากว่านางมีบ้านและร้านอยู่ในมือ ต่อให้นางไม่ได้เลือกเดินทางรักษาผู้คนแล้ว อย่างน้อยก็คงไม่อดตาย
โจวสิงพยักหน้าพูดว่า "อืม อันนี้ดียิ่งนัก จากนั้นก็ซื้อที่ดินที่อุดมสมบูรณ์สักเล็กน้อย เช่นนั้นพวกเราก็จะไม่ต้องอดตาย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...