การติดต่อครั้งแรกระหว่างเสด็จอาเก้า หวังจิ่นหลิง และชุยห้าวถิงถือว่าประสบความสำเร็จ อย่างน้อยทั้งคนก็ได้บรรลุข้อตกลงโดยปริยาย แม้ว่าจะไม่ได้เปิดใจคุยกันอย่างซื่อตรงมากนัก แต่ก็ไม่มีใครรั้งใครเอาไว้
หวังจิ่นหลิงและชุยห้าวถิงเป็นตัวแทนของตระกูลหวังและตระกูลชุย เหมือนกับเฟิ่งชิงเฉินที่เป็นตัวเชื่อมสัมพันธไมตรีของตระกูลเฟิ่งหลี ตระกูลหวังและตระกูลชุยเฝ้ารอวันที่ตระกูลเฟิ่งหลีจะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง และก็หวังใจว่าเฟิ่งชิงเฉินจะได้กลายเป็นทายาทที่ครอบครองอำนาจโดยชอบธรรมของตระกูลเฟิ่งหลีคนต่อไป
อำนาจของเฟิ่งชิงเฉินนั้นสอดคล้องกับผลประโยชน์ของตระกูลชุยและตระกูลหวังมากกว่าคนที่พวกเขาไม่เข้าใจการมีอยู่ของอำนาจ
และจนกระทั่งถึงตอนนี้ เฟิ่งชิงเฉินถึงเพิ่งจะเข้าใจ สาเหตุที่ตระกูลขุนนางมีอำนาจก็เพราะการสนับสนุนจากกำลังทางทหารของตระกูลเฟิ่งหลี เฟิ่งหลีอ๋องเป็นผู้ภักดีต่อตระกูลหลาน แต่อย่าลืมว่าตระกูลเฟิ่งหลีเองก็เป็นอดีตตระกูลขุนนางที่ร่ำรวย ตระกูลชุยและตระกูลหวังจึงรู้สึกดีใจมากที่ตระกูลเฟิ่งหลีจะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใด ผู้ที่ครอบครองอำนาจถึงจะเป็นราชาที่แท้จริง นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมตระกูลหลานถึงคิดที่จะทำลายตระกูลเฟิ่งหลี และแย่งชิงอำนาจจากตระกูลเฟิ่งหลีไป เพราะหากมีตระกูลเฟิ่งหลีอยู่ ผู้ที่เป็นจักรพรรดิก็ไม่มีทางรวบรวมอำนาจทั้งหมดมาอยู่ในมือได้
เฟิ่งชิงเฉินเองก็คิดว่าการกระจายอำนาจทางการทหารนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดอะไร หากจักรพรรดิเป็นผู้ควบคุมอำนาจทางการทหาร แต่เป็นผู้ขาดศีลธรรม เขาก็สามารถทำทุกอย่างได้ตามที่เขาต้องการ
ไม่ใช่เรื่องดีที่จักรพรรดิจะสามารถกำหนดชะตากรรมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก หากจักรพรรดิฉลาดก็ถือเป็นเรื่องดี แต่หากจักรพรรดิผู้โง่เขลามีอำนาจอยู่ในมือ เช่นนั้นประชาชนคงต้องมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาน
หลังจากพูดคุยกับหวังจิ่นหลิงและชุยห้าวถิงเรียบร้อย เฟิ่งชิงเฉินก็ได้ปรับเปลี่ยนแผนการของตัวเอง จากนั้นก็ตรวจสอบรายงานที่ได้จากเป่ยหลิง
แม้ว่าจะได้รับความร่วมมือจากตระกูลหวังและตระกูลชุย แต่ก็ยังไม่ได้รู้อะไรมากมาย นี่แสดงให้เห็นว่าการปกปิดของเป่ยหลิงนั้นหนาแน่นเพียงใด จนถึงขั้นทำให้หวังจิ่นหลิงและชุยห้าวถิงสงสัยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของราชวงศ์เป่ยหลิงก็คือคนของตระกูลเฟิ่งหลี
การต่อสู้ระหว่างหนานหลิงและเป่ยหลิงสิ้นสุดลงแล้ว และเป่ยหลิงได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ แต่กลับไม่มีตราราชลัญจกรของเป่ยหลิงปรากฏออกมา
“ตราราชลัญจกร หากได้ครอบครองมันจะสามารถขึ้นไปนั่งบนตำแหน่งนั้นได้จริงงั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินสงสัย เสด็จอาเก้าจึงให้คำตอบที่แน่ชัดกับเฟิ่งชิงเฉิน “ขอแค่เป็นองค์ชายแห่งเป่ยหลิง ก็สามารถขึ้นไปนั่งบนตำแหน่งจักรพรรดิได้”
เสียงเปิดประตูดังขึ้น เสด็จอาเก้าเปิดประตูนำทางแสงจันทร์ให้ส่องทอดตามช่องทางเดิน
“เจ้ามาได้อย่างไร?” เฟิ่งชิงเฉินวางรายงานที่อยู่ในมือลง ลุกขึ้นมาพร้อมกล่าวว่า “ไม่ใช่ ข้าควรจะพูดว่า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร?” ทหารม้าสิบแปดเอาแต่กินไม่รู้จักทำงานเลยหรืออย่างไร?
“มันครบกำหนดเวลาสิบห้าวันแล้ว”
“อ่า?” ตอนแรกเฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกสับสน ทำให้ใบหน้าของเสด็จอาเก้ากลายเป็นสีดำในทันใด “เจ้าลืมไปแล้วงั้นหรือ?”
“อะไร?” เฟิ่งชิงเฉินมองไปที่เสด็จอาเก้าด้วยความสับสน ในตอนที่นางได้สติกลับคืนมา เสด็จอาเก้าก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางที่ไร้อารมณ์ จ้องมองมาที่นาง
เฟิ่งชิงเฉินรีบเดินไปด้านหน้าของเสด็จอาเก้า จากนั้นก็ยิ้มออดอ้อนออกมา “คือว่า ช่วงนี้ข้ายุ่งมากเลย”
เสด็จอาเก้ายังคงไม่พูดอะไรออกมา เขาเพียงแค่จ้องมองมาที่เฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาพร้อมกับดึงแขนเสื้อของเสด็จอาเก้า “เจ้าโกรธอย่างนั้นหรือ?”
“อย่าโกรธข้าเลย ข้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจ เจ้าเองก็รู้ ระยะเวลาสิบห้าวันมันไม่ได้อะไรเลย ข้าก็แค่ล้อเล่น และอยากให้เจ้าได้พักผ่อนอยู่ที่จวนอย่างสบายใจ”
เฟิ่งชิงเฉินสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นรอบกายของนาง นางจึงกล่าวออกมาอย่างเชื่อฟัง “ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้วจริง ๆ เจ้าอย่าโกรธข้าเลย”
“ฮึ......” ส่งเสียงออกมาเล็กน้อย ถือว่าเป็นการให้เกียรติ แต่ก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นไม่เคลื่อนไหว เฟิ่งชิงเฉินทำตัวออดอ้อนอยู่นาน แต่เสด็จอาเก้าก็ยังคงไม่เคลื่อนไหว เฟิ่งชิงเฉินกลอกตาขาว จู่ ๆ ก็กอดแขนซ้ายของตัวเองและร้องออกมาว่า “โอ๊ยเจ็บ”
“เป็นอะไรงั้นหรือ?” เสด็จอาเก้าทนนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้ ถามออกมาด้วยความเป็นห่วง นี่ทำให้หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินเต้นแรง หากเสด็จอาเก้ารู้ว่าถูกตนเองหลอก เขาจะฆ่านางหรือไม่?
ในเมื่อลงมือทำไปแล้ว เช่นนั้นก็มีแต่ต้องทำให้ถึงที่สุด
“ข้าเจ็บ” เฟิ่งชิงเฉินแสร้งทำเป็นเจ็บปวด ท่าทางของเสด็จอาเก้าเปลี่ยนไปทันใด พยุงเฟิ่งชิงเฉินด้วยความระมัดระวัง “เจ้านั่งลงก่อน ไหนลองให้ข้าดูหน่อย”
นี่คือความกังวลอย่างชัดเจน เหงื่อของเฟิ่งชิงเฉินไหลออกมาเต็มหน้าผาก เสด็จอาเก้าคิดว่านางกำลังรู้สึกเจ็บปวด แต่ในความจริงแล้วนางแค่กังวลเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...