นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 181

"เหตุใดจึงต้องกลัวเล่า? ท่านอ๋องไม่ใช่สัตว์ร้ายหรือหายนะใดสักหน่อย" น้ำเสียงของเฟิ่งชิงเฉินแม้จะบางเบานุ่มนวล แต่ก็ฟังชัดเจนสดใส ทำให้ซู่ชินอ๋องเข้าใจได้ว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่กลัวเขาจริงๆ และไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ

"น่าสนใจ สมัยนี้หายากนักคนที่ไม่เกรงกลัวข้า เจ้าเก้าน้อยเป็นคนแรกและเจ้าเป็นคนที่สอง" ซู่ชินอ๋องหัวเราะหึๆ ขึ้นมา ทำให้ภายในห้องที่บรรยากาศดูกดดันผ่อนคลายลงทันที

เจ้าเก้าน้อย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงเป็นเสด็จอาเก้า เพียงแต่ว่าในจิ่วโจวต้าลู่แห่งนี้ คนที่กล้าเรียกตงหลิงจิ่วแบบนี้มีไม่มาก

ฟู่...... ตี๋ตงหมิงแอบถอนหายใจออกมาแล้วยืดตัวตรงอย่างเงียบๆ คิดไม่ถึงว่าท่าทางของเขาเมื่อครู่นั้นจะถูกซู่ชินอ๋องเห็นเข้า "เจ้าหมอนี่ไม่เอาไหนเสียเลย สู้แม่หนูคนนี้ยังมิได้"

เพราะว่าแรงกดดันส่วนใหญ่ที่ซู่ชินอ๋องปลดปล่อยออกมานั้น มุ่งเป้าไปที่เฟิ่งชิงเฉิน

"ท่านปู่ขอรับ เพราะข้าเคารพท่านไม่ใช่หรือไร" ตี๋ตงหมิงชายหนุ่มรูปร่างกำยำ แต่กลับทำตัวเหมือนลูกแมวเชื่องต่อหน้าซู่ชินอ๋อง

จะทำอย่างไรได้เล่า บิดามารดาของตี๋ตงหมิงจากไปตั้งแต่เขายังเด็ก และเขาถูกซู่ชินอ๋องเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก อีกทั้งให้เงินให้การศึกษา

"แค่กแค่ก......" เฟิ่งชิงเฉินกระแอมออกมาเบาๆ "ท่านซื่อจื่อ ชิงเฉินเคารพท่านอ๋องมากกว่า"

สำหรับตี๋ตงหมิงคนนี้แม้เขาจะรังเกียจนางก็ไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่เงินทองที่จะทำให้ทุกคนชื่นชอบได้ แต่การที่จะเหยียดหยามนาง ด้วยการสรรเสริญเยินยอซู่ชินอ๋องก็เกินไปหน่อย

ตี๋ตงหมิงจ้องไปที่เฟิ่งชิงเฉิน เขาคิดไม่ถึงว่านางจะกล่าวแทรกแซงขึ้นมาในเวลานี้ จึงทำให้เขาไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมาอธิบายได้ชั่วขณะ

ซู่ชินอ๋องเห็นดังนั้นก็รู้สึกโกรธ "ไป! วิ่งรอบจวนอ๋องหนึ่งร้อยรอบ วิ่งเสร็จเมื่อไรค่อยเข้ามา"

ตระกูลทหารเป็นเช่นไรนะหรือ คงเป็นเช่นนี้นั่นเอง

บทลงโทษในการคัดลอกหนังสือหรือคุกเข่าในห้องโถงบรรพบุรุษเหล่านั้นล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อย หากทำผิดล่ะก็จะลงโทษพวกเขาโดยตรงทางร่างกาย

"ขอรับ" ตี๋ตงหมิงทำสีหน้ามืดมนลงแต่ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดมากกว่านี้ เขาหันหลังออกวิ่งไปโดยไม่กล่าวสิ่งใดสักคำ แต่ก่อนที่จะออกไปนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบจ้องมองเฟิ่งชิงเฉิน

เฟิ่งชิงเฉินเงยหน้ามองท้องฟ้าทำท่าเหมือนมองไม่เห็น แต่แท้จริงแล้วในใจของนางได้แอบตำหนิว่าจวนซู่ชินอ๋องเล็กเหลือเกิน เมื่อครู่ที่นางมองดูพื้นที่ภายนอก วิ่งหนึ่งรอบหน้าจะกินระยะทางเพียงสามร้อยห้าสิบเมตร หนึ่งร้อยรอบก็คือ......

เฮ้อ...... เอาเถอะ ดูเหมือนวันนี้นางจะใจร้ายไปหน่อย สามหมื่นห้าร้อยเมตร ในวันนี้คาดว่าตี๋ตงหมิงคงจะเหนื่อยพอควร

เฟิ่งชิงเฉินชื่อว่าเขาจะออกไปวิ่งอย่างซื่อสัตย์ เพราะการปฏิบัติตามคำสั่งเป็นข้อบังคับของทหาร

"คาดไม่ถึงว่าแม่หนูจะใจแข็งเช่นนี้ ไม่เอ่ยปากร้องขอแทนเขาหน่อยหรือ?" ซู่ชินอ๋องยังคงปวดฟันดังเดิม แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีรีบร้อนและไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา

"ท่านอ๋องล้อเล่นหรือเพคะ ชิงเฉินต่ำต้อยยิ่งนัก จะกล้าร้องขอเพื่อท่านซื่อจื่อได้อย่างไร?"

หึๆ…… หวังจิ่นหลิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมีด้านที่ไร้ยางอายเช่นนี้

ซู่ชินอ๋องเองก็ตกตะลึงเช่นกัน "แม่สาวน้อยช่างน่าสนใจยิ่งนัก สามารถกล่าวว่าตนมีตัวตนที่ต่ำต้อยได้อย่างสง่าผ่าเผย หากข้าให้โอกาสเจ้าร้องขอโอกาสเพื่อซื่อจื่อเล่า?"

ไม่ใช่ว่าซู่ชินอ๋องต้องการจะทำให้เฟิ่งชิงเฉินลำบากใจ แต่เป็นดั่งที่ตี๋ตงหมิงคิด ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถรักษาอาการป่วย ของซู่ชินอ๋องได้ หากนางคิดฆ่าชินอ๋องขึ้นมาเล่า?

การที่หมอจะฆ่าใคร อาวุธนั้นมักมองไม่เห็น หากไม่ครุ่นคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ซู่ชินอ๋องจะกล้าใช้นางหรือ

"ไม่เพคะ" เฟิ่งชิงเฉินปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

"เหตุใดเล่า?" ซู่ชินอ๋องรู้สึกผ่อนคลายลงไม่น้อย แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับฟังออกถึงความอาฆาตจากประโยคนั้น

เฟิ่งชิงเฉินแอบคิดอยู่ในใจว่า คนเราเมื่อแก่เฒ่าไปก็เป็นดุจดั่งจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ กล้าได้กล้าเสีย ช่างเก่งกาจเสียจริง

ในตอนแรก เขาใช้คำพูดข่มขู่ให้นางกลัว จากนั้นก็ยิ้มขึ้นในประโยคต่อมา เพื่อทำให้ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากขึ้น ประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย เพียงแค่เป็นมนุษย์ล้วนถูกเขาทำเสียแทบคลั่ง ไม่ว่าจะเป็นการระมัดระวังตัวหรือการป้องกันตัว ทุกอย่างล้วนถูกปล่อยวาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ