นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 183

"ท่านอ๋อง โปรดใจเย็นเถิด การที่ท่านทำเช่นนี้มีแต่จะทำให้ความเจ็บปวดบนใบหน้าทวีมากขึ้น" มนุษย์เราล้วนจะใส่ใจเรื่องของตัวเองเป็นอันดับแรก เมื่อได้ยินเฟิ่งชิงเฉินกล่าวเช่นนั้น ซู่ชินอ๋องก็รู้สึกว่าใบหน้าของตนเจ็บไปมากกว่าเมื่อครู่ ยังดีที่หวังจิ่นหลิงก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาช่วยพูดโน้มน้าวใจให้ซู่ชินอ๋องสงบสติลง

"ท่านอ๋อง โปรดนั่งรอสักครู่เถิด ชิงเฉินจะไปหยิบยามาเดี๋ยวนี้" เมื่อกล่าวจบก็ขยิบตาให้กับหวังจิ่นหลิง เมื่อได้รับการตอบกลับจากหวังจิ่นหลิงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินไม่รอให้ซู่ชินอ๋องเห็นด้วยก็รีบวิ่งออกไปทันที

บัดนี้ซู่ชินอ๋องช่างเจ็บปวดเหลือเกิน จึงได้ฟังสิ่งที่พวกเขาโน้มน้าว

รถม้าจอดอยู่ด้านในจวนอ๋อง ดังนั้นจึงสะดวกมาก เฟิ่งชิงเฉินวิ่งไปตลอดทางเพราะเกรงว่าหวังจิ่นหลิงไม่อาจเกลี้ยกล่อมซู่ชินอ๋องได้

นางกระโดดขึ้นไปบนรถม้าโดยไม่สนใจภาพพจน์ตนเอง ท่าทางอันไม่สง่างามและดูกระโดกกระเดก ถูกตี๋ตงหมิงที่วิ่งมาบริเวณนั้นพอดีเห็นเข้า เนื่องจากผู้ฝึกวิทยายุทธล้วนมีความสัมผัสที่ว่องไว เมื่อตี๋ตงหมิงได้ยินเสียง เขาจึงกระโดดขึ้นไปบนกำแพงและเห็นภาพตรงหน้า

แม่นางผู้นี้ช่างห้าวหาญเหลือเกิน ตี๋ตงหมิงปาดเหงื่อที่หน้าผากของเขาและชื่นชมหวังจิ่นหลิง แม่นางที่แข็งแกร่งเช่นนี้ไม่รู้ว่าเขาชื่นชอบไปได้อย่างไร

แข็งแกร่งก็ยังไม่พอ แต่ในใจของแม่นางผู้นี้เห็นได้ชัดว่ามีเสด็จอาเก้าอยู่ ไม่เช่นนั้นนางคงไม่มาที่จวนซู่ชินอ๋องหรอก

อาการปวดใบหน้า ตามการรักษาของแพทย์ตะวันตกคงใช้ได้เพียงยาคาร์บามาซีปีนในการบรรเทาอาการเจ็บปวดเท่านั้น หากต้องการรักษาจากต้นเหตุต้องรักษาจากแรงดันหลอดเลือดฝอย

เฟิ่งชิงเฉินกระโดดขึ้นไปบนรถม้าแล้วหยิบกระเป๋ายาอัจฉริยะเพื่อนำยาแก้ปวดออกมา ตอนแรกตั้งใจจะหยิบไปหลายเม็ด แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเสด็จอาเก้าจะให้นางนำของไปให้อวี่เหวินหยวนฮั่ว จึงได้วางมันกลับไป

ดูจากสถานการณ์นี้แล้ว หากไม่มีเหตุมีผลล่ะก็ซู่ชินอ๋องคงจะไม่ปล่อยให้นางกลับจวนแน่

เฟิ่งชิงเฉินกำยาแก้ปวดเอาไว้แล้วกระโดดลงจากรถม้า

ตี๋ตงหมิงโชคดีเหลือเกินที่ได้เห็นท่าทางอันกระโดกกระเดกของเฟิ่งชิงเฉินอีกครั้ง

"ต้องยอมรับว่าทักษะของนางค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าสตรีทั่วไปที่เป็นคุณหนูในจวนใหญ่" ตี๋ตงหมิงกระโดดลงมาจากกำแพงแล้ววิ่งต่อ

เฟิ่งชิงเฉินรีบวิ่งกลับไปที่ห้องนั้นอีกครั้ง พบว่าอาการโกรธของซู่ชินอ๋องบรรเทาลงมากแล้ว นางแอบยกนิ้วโป้งให้แก่หวังจิ่นหลิงด้วยความชื่นชม

หวังจิ่นหลิง ชายหนุ่มผู้นี้มีความสามารถทำให้ผู้ที่กำลังโมโหสงบสติลงได้ดีทีเดียว

เฟิ่งชิงเฉินยื่นยาเม็ดไปให้แก่ซู่ชินอ๋องแล้วกล่าวว่า "ท่านอ๋อง จะให้หมอมาตรวจยาก่อนหรือไม่"

"นี่คือยาอะไร?" ซู่ชินอ๋องมองไปยังเม็ดยาสีขาวด้วยท่าทางสงสัย

"เป็นยาที่ชิงเฉินปรุงขึ้นมาเอง มีคุณสมบัติพิเศษในการระงับความเจ็บปวด ในวันนี้ได้เดินทางไปรักษาอาการให้ฮูหยินของหมอซุนมา ดังนั้นจึงได้ใส่เอาไว้ในกระเป๋าสองเม็ด เมื่อตอนกลางวันให้ซุนฮูหยินรับประทานไปแล้วหนึ่งเม็ด" ที่จริงแล้วเฟิ่งชิงเฉินกำลังโกหก

ยาที่ซุนฮูหยินใช้เป็นเพียงแค่ยาระงับความเจ็บปวดธรรมดา ในขณะที่ของซู่ชินอ๋องคือยาคาร์บามาซีปีน ซึ่งเป็นยาออกฤทธิ์ต่อประสาท ไม่ควรใช้หากไม่ได้รับการยืนยันจากแพทย์

แต่ที่เฟิ่งชิงเฉินกล่าวเช่นนั้น เพื่อต้องการให้ซู่ชินอ๋องวางใจ

"เอาเถอะ ดูจากท่าทางแล้วเจ้าก็ไม่กล้าจะทำร้ายข้าหรอก" ซู่ชินอ๋องหยิบยาเม็ดขึ้นมาแล้วใส่เข้าไปในปากของเขา อาจเป็นเพราะเขากินยาจนเป็นความเคยชินแล้ว ยังไม่ทันได้ลิ้มรสอย่าก็กลืนมันลงไปเสียสิ้น

"ยาเม็ดนี้สะดวกนัก" ซู่ชินอ๋องพยักหน้าเห็นด้วย

หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว อีกทั้งได้ยินหวังจิ่นหลิงโน้มน้าวใจ ซู่ชินอ๋องก็ยิ่งรู้สึกชื่นชอบเฟิ่งชิงเฉินมากขึ้น ตอนที่เขาโมโหนั้นมีไม่กี่คนที่สามารถสงบนิ่งกับอารมณ์ของเขาได้

เฟิ่งชิงเฉินหัวเราะออกมาเบาๆ นางไม่ได้ใช้โอกาสนี้เอาอกเอาใจเขา ยานี้ไม่ได้ให้ผลทันที เฟิ่งชิงเฉินคาดว่าการที่มีความเจ็บปวดบนใบหน้า ใช้ทักษะฝังเข็มก็น่าจะพอช่วยได้บ้าง ตำแหน่งเหล่านั้นนางจำได้เพียงแต่นางฝังเข็มไม่เป็น

เมื่อพบว่าซู่ชินอ๋องสงบอารมณ์ลงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินจึงได้เอ่ยปากแนะนำให้เขาเชิญหมอหลวงเข้ามาฝังเข็มให้

"เจ้าเป็นคนดีนัก" ซู่ชินอ๋องกล่าวออกมาอย่างเย็นชา ไม่แสดงให้เห็นถึงความโมโหหรือโกรธแต่อย่างใด

"ชิงเฉินเพียงหวังว่าท่านอ๋องจะมีความเจ็บปวดน้อยลง" เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่าไม่ว่าซู่ชินอ๋องจะตกลงหรือไม่ก็ตาม นางก็ควรรักษาท่าทางอันสงบเอาไว้ ไม่ควรจะทำท่าทางโอ้อวดเนื่องจากตนหาสาเหตุในการเจ็บป่วยของซู่ชินอ๋องได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ