นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 267

"จิ่นหลิง" น้ำเสียงที่แหบแห้งขององค์รัชทายาท พลันเดินเข้าไปตบบ่าหวังจิ่นหลิง เขารู้ดีว่าเรื่องราวในวันนี้ เป็นเขาเองที่ไปใช้แสงของหวังจิ่นหลิง ถ้าหากหวังจิ่นหลิงมิอยู่ เฟิ่งชิงเฉินย่อมมิออกหน้าให้ พร้อมทั้งยังไม่ดึงเขาขึ้นมาด้วย

เมื่อมีชื่อเสียงที่เลื่องลือไปด้วยคุณธรรมเช่นนี้ หากเขาตายไป เสด็จพ่อย่อมไม่อาจผลักไสเขาไปอีกแน่ ไม่คิดเลย ทางเดินน้ำแข็งบาง ๆ ที่เขาได้เยียบย่ำมานานหลายปีเช่นนี้ กลับสามารถรักษาตำแหน่งของเขาให้กลับมามั่นคงได้ เพียงเพราะสถานการณ์อันตรายที่เกิดขึ้นตรงหน้า มันทำให้เขาสามารถกลับเข้ามาโลดเล่นชิงอำนาจได้อีกครั้ง

"ฝ่าบาทพะยะค่ะ ผู้ที่พระองค์ต้องไปขอบคุณหาใช่กระหม่อมไม่ หากแต่เป็นเฟิ่งชิงเฉินพะยะค่ะ หากมิใช่นาง พวกเราสองคนคงไม่อาจอยู่ในสภาพนี้ได้" แม้ว่าสถานการณ์ที่นี่จะอันตรายมากนัก แต่ทั้งเขาและองค์รัชทายาทย่อมไม่อาจเสี่ยงอันตรายเช่นนี้แน่ หากมิมีนางอยู่

เป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์จักแสวงหาผลประโยชน์ของตน เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้คนเองต้องเสียผลประโยชน์ไป ในฐานะคุณชายใหญ่ตระกูลหวังนั้น เขาย่อมมีความเมตตาของตัวเขาเอง ทว่า ทุกอย่างจักต้องเกิดขึ้นภายใต้ความปลอดภัยที่ตัวของเขาเองสามารถควบคุมได้เท่านั้น

ในฐานะคุณชายใหญ่ตระกูลหวังนั้น เขามีภาระที่ต้องแบกรับมากเกินไปนัก หากเทียบกันกับเฟิ่งชิงเฉินแล้ว การที่เขาจักสามารถเข้าไปช่วยผู้คนได้นั้น ตัวเขาเองจักต้องได้รับความปลอดภัยเสียก่อน

หากการช่วยชีวิตผู้อื่น ต้องทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตรายนั้น หาใช่วิธีที่ฉลาดไม่ เขาไม่อาจผลักภาระหน้าที่ของตระกูลตนเอง บิดามารดาและครอบครัวตนเอง เพื่อไปช่วยชีวิตคนแปลกหน้าได้

"เฟิ่งชิงเฉิน ช่างเป็นคนดีจริง ๆ นางดูแตกต่างยิ่งนัก มิน่าเล่า เสด็จอาเก้าถึงได้ชื่นชมนางนัก นางเป็นดาวนำโชคจริง ๆ " หากได้สานสัมพันธ์กับนางละก็ ย่อมมีแต่ได้กับได้อย่างแน่นอน

เช่นอวี่เหวินหยวนฮั่วและหวังจิ่นหลิง

หากไม่มีเฟิ่งชิงเฉิน อวี่เหวินหยวนฮั่วย่อมไม่อาจได้รับความช่วยเหลือจาเสด็จอาเก้าได้แน่ หากไม่มีเฟิ่งชิงเฉิน ดวงตาของหวังจิ่นหลิง ย่อมไม่อาจกลับมามองได้ดังเดิม

ภายในใจขององค์รัชทายาทในยามนี้ เฟิ่งชิงเฉินเป็นบุคคลที่สำคัญมากที่สุด ที่ตามหลังเพียงหวังจิ่นหลิงเท่านั้น

"นางให้ความโชคดีกับคนอื่น หากแต่ตนเองกลับต้องแบกรับความยากลำบากไว้เสียเอง"

ภายใต้แสงแดดที่ส่องลงมากระทบทั่วร่างของเฟิ่งชิงเฉินที่เนื้อตัวมอมแมมนั้น นางกำลังเคลื่อนตัวไปมาผ่านกลุ่มฝูงชนที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งค่อย ๆ ชี้นิ้วสั่งการให้ทหารทั้งหลาย ทยอยพาคนเจ็บออกไป จากนั้นจึงเริ่มรักษาให้กับผู้ป่วยที่มีอาการสาหัสก่อน

"มิต้องกังวลไป อาการบาดเจ็บของเจ้า ไม่เกินหนึ่งเดือนจักต้องหายอย่างแน่นอน"

"ในเมื่อขาไม่มีแล้ว อย่างไรก็ยังมีสองมืออยู่ มือของเจ้าทั้งสองข้างล้วนแต่แข็งแรงยิ่งนัก"

"ไหล่ซ้ายของเจ้าถูกตัดขาดไปแล้ว ข้าขอโทษด้วย ที่ไม่อาจรักษามันไว้ได้"

เฟิ่งชิงเฉินที่ในยามนี้กำลังสั่งให้ทหารนำคนเจ็บออกไป พร้อมกับหันมาเอ่ยปลอบใจกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บด้วยนั้น มันเต็มไปด้วยความตั้งใจและเต็มไปด้วยความจริงใจยิ่งนัก ทั้งยังเจือไปด้วยความเด็ดขาด รอบ ๆ ตัวนาง คล้ายกับมีพลังงานบางอย่าง ที่ทำให้ผู้อื่นคล้อยตามคำสั่งของนาง

ทั่วร่างของเฟิ่งชิงเฉินคล้ายกับมีมนตร์สะกด นางมักจะเป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนโดยเสมอ คำพูดของนางในแต่ละครั้ง มักจะไม่มีช่องว่างให้ผู้ใดกล้าตอบโต้ได้ ทหารองครักษ์พวกนั้น แม้ว่าจักไม่มีคำสั่งขององค์รัชทายาทและตี๋ตงหมิง แต่พวกเขากลับทำตามคำสั่งของเฟิ่งชิงเฉินอย่างไม่บิดพริ้ว

ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ก็ยังต้องหยุดร้องโอดครวญเมื่อได้เห็นนาง ยามที่นางเอ่ยคำปลอบใจออกมานั้น ความหวาดกลัวภายในจิตใจของพวกเขาก็ค่อย ๆ หายไปในทันที พร้อมกับยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับนางโดยพลัน

ในยามนี้ นอกจากเฟิ่งชิงเฉินแล้ว หวังจิ่นหลิงคล้ายกับว่า ตนเองจะมองไม่เห็นสิ่งใดอีก ในสายตาของเขา มีเพียงเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้น เฟิ่งชิงเฉินที่เคลื่อนตัวไปมาท่ามกลางคนเจ็บที่นอนรอความช่วยเหลืออยู่มากมาย

ท่ามกลางหมอกควันที่กระจัดกระจายอยู่นั้น หวังจิ่นหลิงคล้ายจะเห็นแต่เพียง สตรีสวมอาภรณ์สีขาวที่เดินถือกล่องยาไปเดินมา ท่ามกลางกองกำลังทหารกับเปลวเพลิง

ราวกับว่าภาพที่อยู่ตรงหน้าเป็นเสมือนดั่งภาพวาด ที่มีเปลวเพลิงกำลังล่องลอยไปมา ทั่วทุกที่ล้วนแต่มีสะเก็ดไฟมากมายลอยอยู่รอบตัว หากแต่เฟิ่งชิงเฉินที่อยู่ตรงกลางของเปลวเพลิงนั้น สีหน้าพลันขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา ดวงหน้าของนางมีริ้วรอยของความอ่อนล้าแสดงให้เห็นอยู่จาง ๆ หากแต่แววตาของนางยังคงจดจ่อทุกอย่างด้วยความตั้งใจ พร้อมทั้ง ยังแย้มยิ้มปลอบใจให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

"เหตุใดข้ากลับมาคิดถึงภาพวาดที่แปลกประหลาดเช่นนี้ได้กัน ชิงเฉิน แท้จริงแล้ว เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่ ที่เจ้าเอ่ยถึงเรื่องทะลุมิติมันคือสิ่งใดกัน?" หวังจิ่นหลิงพลันเอ่ยพึมพำออกมา พร้อมกับมองไปยังเฟิ่งชิงเฉินที่อยู่ตรงหน้า เหมือนว่านางจะอยู่ห่างจากเขาเพียงเอื้อมมือเท่านั้น แต่ความรู้สึกของเขากลับรู้สึกว่า นางช่างห่างไกลจากเขาเหลือเกิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ