สรุปเนื้อหา บทที่ 308 เตือน ไม่ให้เจ้าไปเป็นสนม – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บท บทที่ 308 เตือน ไม่ให้เจ้าไปเป็นสนม ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
การที่เฟิ่งชิงเฉินสวมใส่อาภรณ์สีเดียวกับเสด็จอาเก้า เกรงว่าจะไม่ใช่อุบัติเหตุ แล้วก็มิใช่เรื่องบังเอิญแล้วกระมัง การที่พระองค์วางแผนขึ้นมาเช่นนี้ ย่อมมีจุดประสงค์ของพระองค์อยู่แล้ว
ค่ำคืนนี้ ทั้งองค์รัชทายาทและซีหลิงเทียนเหล่ยอาจจะคิดว่า เฟิ่งชิงเฉินทำเช่นนี้ ก็เพื่อที่จะเปิดเผยว่าตนเองแอบรับกับเสด็จอาเก้าข้างเดียวหรือไม่ ทว่า เมื่อถึงวันพรุ่งนี้นั้น พวกเขาก็จักรู้ว่า อาภรณ์ของเสด็จอาเก้าเป็นสิ่งที่เสด็จอาเก้าตระเตรียมไว้ให้นางจนหมด
การที่เสด็จอาเก้ากระทำเช่นนี้ หาใช่เพราะพระองค์เบื่อหน่ายไม่ หรือเป็นการสร้างความลำบากให้กับเฟิ่งชิงเฉินแต่อย่างใด หากแต่เป็นเพราะพระองค์ได้ยินข่าวมาว่า ซีหลิงเทียนเหล่ยต้องการมาที่ตงหลิงเพื่อเลือกเฟ้นหานางสนมนั่นเอง
เสด็จอาเก้าย่อมต้องใช้โอกาสนี้ ในการเตือนซีหลิงเทียนเหล่ยเอาไว้ เฟิ่งชิงเฉินเป็นสตรีที่ตงหลิงต้องการจะรักษาเอาไว้ หากซีหลิงต้องการเลือกสนมในตงหลิงละก็ ต้องดูให้ดี ๆ มิใช่ผู้ใด เจ้าอยากได้ก็จะสามารถได้ไป อย่างน้อยก็ไม่อาจเลือกเฟิ่งชิงเฉินได้แล้ว
ผู้อื่นจักเข้าใจหรือไม่ หวังจิ่นหลิงมิรู้ ทว่า หวังจิ่นหลิงมั่นใจว่าซีหลิงเทียนเหล่ยต้องเข้าใจอย่างแน่นอน ถึงแม้จักไม่เข้าใจก็ไม่เป็นอันใด เขาจักใช้วิธีการของเขาเอง ทำให้ซีหลิงเข้าใจ หากต้องการสร้างปัญหาให้กับเฟิ่งชิงเฉินละก็ ย่อมต้องเป็นศัตรูกับตระกูลหวังด้วยเช่นกัน หากซีหลิงเทียนเหล่ยฉลาดละก็ ย่อมต้องเข้าใจว่าสมควรทำเช่นไรต่อไป
สำรับที่เสด็จอาเก้าเตรียมไว้ให้นั้น มิได้มีความอร่อยมากนัก ทว่า ผู้ที่ถูกเสด็จอาเก้าเชิญมา ย่อมมิใช่ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือผู้ที่ไร้ประโยชน์แต่อย่างใดเช่นกัน
ค่ำคืนนี้มีทั้งเซี่ยซาน ตี๋ตงหมิง และยังมีเขา ที่เป็นคนคอยปกป้องเฟิ่งชิงเฉินเช่นนี้ พวกเขาต้องการที่จะบอกซีหลิงเทียนเหล่ยว่า เฟิ่งชิงเฉินมีเครือข่ายมากมายที่อยู่ในตงหลิง หากเขาต้องการจะใช้ประโยชน์จากเฟิ่งชิงเฉินนั้น เกรงว่าจะไม่ง่ายดายนัก
ไม่ต้องพูดว่า แม้แต่ตัวของเฟิ่งชิงเฉินเอง ก็หาใช่บุคคลที่จะเข้าไปรังแกได้ง่ายอยู่แล้ว รวมพวกเขาอีกสองสามคนเข้าไปด้วย อย่างไรก็ไม่ยอมให้เฟิ่งชิงเฉินถูกซีหลิงเทียนเหล่ยเลือกไปเป็นสนมอย่างแน่นอน อีกทั้งทางที่ดี ซีหลิงเทียนเหล่ยมิควรมาสร้างปัญหาให้เฟิ่งชิงเฉินจะดีที่สุด
หวังจิ่นหลิงพลันอธิบายเรื่องนี้ให้เฟิ่งชิงเฉิน เข้าใจง่าย ๆ อีกครั้ง ทว่า เรื่องที่เสด็จอาเก้าส่งสัญญาณแอบเตือนให้ซีหลิงเทียนเหล่ยได้ทราบนั้น หวังจิ่นหลิงมิได้เอ่ยออกไป เขาเพียงเล่าให้ฟังว่า เป้าหมายของซีหลิงเทียนเหล่ยคือนางแต่เพียงเท่านั้น
"ซีหลิงเทียนเหล่ยต้องการแต่งข้าเป็นนางสนมของเขา? เขาไม่มีสมองหรืออย่างไรกัน? ข้ามีสิ่งใดให้ใช้การได้กัน สิ้เปลืองตำแหน่งพระชายาไปเปล่าประโยชน์เสียจริง" เฟิ่งชิงเฉินตกตะลึงเสียจนลืมก้าวเท้าเดินตามพวกเขาไปในทันที
มิใช่ว่าเฟิ่งชิงเฉินคิดว่าตนเองต่ำต้อย หากแต่ ไม่ว่าจะพิจารณาในด้านใดแล้ว นางก็ไม่เหมาะที่จะเป็นเป้าหมายของซีหลิงเทียนเหล่ยทั้งนั้น
หากว่าดูจากมุมมองทางการเมืองแล้ว นางที่เป็นสตรีกำพร้าบิดามารดาไร้อำนาจในมือเช่นนี้ จะไปมีประโยชน์อันใดต่อเขา ทั้งยังไม่อาจช่วยเหลืออสิ่งใดต่อซีหลิงเทียนเหล่ยได้เสียด้วยซ้ำ หากพูดถึงมุมมองในเรื่องโลกสวยแล้ว ถึงแม้ว่านางจะเป็นสตรีที่มีหน้ามีตา แต่ก็หาได้จัดอยู่ในสตรีที่งามล่มเมืองไม่ หากนางงามจนถึงจุดนั้นจริง ๆ แล้ว เป็นไปได้ว่า จักรพรรดิอาจจะเรียกนางเข้าไปเป็นสนม โดยไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไปหาซีหลิงเทียนเหล่ยหรอก
เฟิ่งชิงเฉินก็มิคิดเช่นกัน ว่าซีหลิงเทียนเหล่ยจะรู้สึกชมชอบนาง หรือมีความรู้สึกรักแรกพบต่อนาง นางหาได้ไร้เดียงสาไม่ การที่ถูกบุรุษชมชอบนาง นับว่าเป็นเรื่องปกตินัก
จากประสบการณ์ชีวิตของนางที่ผ่านมา มันบอกกับนางว่า อย่าได้ไปให้ค่ากับความรู้สึกของบุรุษที่เล่นการเมือง ถึงแม้ว่าความรู้สึกของเขาจักเป็นเรื่องจริง แต่ทว่า ความรู้สึกของพวกเขาที่ออกมาทุก ๆ ครั้งนั้น ล้วนแต่ถูกกลั่นกรองออกมาหมดแล้ว ทุก ๆ วินาทีล้วนแต่มีจุดประสงค์ของมันเองทั้งนั้น
ในสายตาของพวกเขา สตรีถูกแบ่งออกเป็นสองอย่าง คือสิ่งที่มีค่าและสิ่งที่ไร้ค่า ไม่ว่าจะมองด้านใด นาง เฟิ่งชิงเฉินย่อมจัดเป็นสตรีที่ไร้ค่า การที่เขาจะทุ่มทุกอย่างมาเลือกนางนั่น ย่อมไม่อาจเป็นไปได้
หวังจิ่นหลิงไม่รู้ว่าตนเองควรจะร้องไห้หรือหัวเราะออกมาดี ทำอย่างไร เขาก็ไม่คิดเลยว่า เฟิ่งชิงเฉินจะพูดเช่นนั้นออกมา ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงนางยิ่งนัก เฟิ่งชิงเฉินทั้งเข้าใจทุกอย่าง และมองทุกอย่างออกแล้ว
นางรู้ดีว่าการแต่งงานของพวกเขานั้น จักต้องมีจุดประสงค์และมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าความสัมพันธ์จะลึกซึ้งเพียงใดก็ตาม มันย่อมต้องถูกพังทลายไปตามแนวคิดของการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป บางทีอาจจะเกิดความกดดันของบรรพบุรุษเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย
ฮูหยินของพวกเขานั้นต้องแบกรับความรับผิดชอบของตระกูลเอาไว้ด้วยเช่นกัน มันไม่อาจจะรักษาได้เพียงแค่ความรักเพียงอย่างเดียวได้ ไม่ว่าเขาจะขัดการปัญหาทั้งหมด เพื่อมาแต่งกับเฟิ่งชิงเฉินนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่อาจจะแบกรับภาระของนายหญิงตระกูลเอาไว้ได้เช่นกัน หากเขาเอาแต่ช่วยเฟิ่งชิงเฉินจัดการปัญหาละก็ ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาก็จะเหนื่อยล้าและไปกันไม่รอดเอง
เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี ฉะนั้นแล้ว นางถึงได้ปฏิเสธเขาไปตั้งแต่แรก เช่นนั้น นางก็จะปฏิเสธผู้อื่นด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน
"ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความตายแล้ว เจ้าวางใจเถิด สิ่งใดที่ซีหลิงเทียนเหล่ยมันได้วางแผนเอาไว้ จักต้องไม่เป็นไปตามที่เขาหวัง ข้าจักไม่ยอมให้เจ้าถูกแต่งออกไปเป็นสนมอย่างแน่นอน" อย่าได้พูดถึงเพียงแค่เขา แม้แต่เสด็จอาเก้าก็ยังไม่ยินยอมเป็นแน่ มิเช่นนั้น พระองค์คงไม่คิดจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นมา อีกทั้งคงไม่สั่งให้องค์หญิงอันผิงเรียกที่ซีหลิงเหยาหวาและซูหว่านมาด้วยอย่างแน่นอน
ผู้คนที่อยู่ที่นี่ หาใช่คนไม่รู้ความไม่ จากคำพูดของซีหลิงเทียนเหล่ย หวังจิ่นหลิงสามารถคาดเดาได้ว่า ผู้ที่เป็นเป้าหมายในการแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีในครานี้ ซีหลิงเทียบนเหล่ยเลือกเสด็จอาเก้า และในขณะเดียวกันซูหว่านก็เลือกเสด็จอาเก้าเช่นกัน
การเคลื่อนไหวของเสด็จอาเก้าในครานี้ ก็เพื่อเป็นการเตือนทั้งซีหลิงเทียนเหล่ยและซูหว่านว่า หากต้องการบรรลุปรารถนาของตนแล้ว พวกเขาควรจะมาทำข้อตกลงกันเสียก่อน นั่นเพราะว่า ตำแหน่งพระชายาของเสด็จอาเก้ามีเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น
เสด็จอาเก้ามิชอบเรื่องยุ่งยาก จึงต้องการให้พวกเขาต่อสู้กันเอง ทว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นเช่นไร หาใช่เรื่องที่ซูหว่านและซีหลิงเหยาหวาจักคาดเดาได้ เมื่อถึงยามนั้น หากเสด็จอาเก้ามิต้องการตบแต่งกับผู้ใด ซูหว่านและซีหลิงเหยาหวาก็ไม่อาจทำอันใดได้เช่นกัน เนื่องจากเสด็จอาเก้าหาได้เอ่ยสัญญาอันใดไว้ไม่
เมื่อเห็นสีหน้าคิ้วขมวดของเฟิ่งชิงเฉินเช่นนั้น หวังจิ่นหลิงพลันตบไปที่บ่าของเฟิ่งชิงเฉินเบา ๆ "มิต้องคิดมาก และก็ห้ามแสดงออกมากเกินไปนัก ปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมันเถิด หากซีหลิงเทียนเหล่ยต้องการจะแต่งเจ้าเป็นนางสนมของเขา เกรงว่าจะไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะ ผู้ใดก็รู้ว่าเจ้าเคยเป็นคู่หมั้นคู่หมายกับลั่วอ๋องเช่นนี้"
สถานะเช่นนี้ ถูกกำหนดขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้บุรุษธรรมดาคนใดกล้าตบแต่งกับเฟิ่งชิงเฉิน อีกทั้งผู้ที่กล้าตบแต่งกับเฟิ่งชิงเฉิน ก็ไม่อาจยกนางขึ้นเป็นพระชายาเอกได้เช่นกัน
"ข้ารู้ ข้าเพียงไม่ค่อยเข้าใจว่าซีหลิงเทียนเหล่ยถูกใจข้าที่ใดกัน" เฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ ฝืนยิ้มออกมา ทว่า มันกลับดูน่าเกียจมากกว่ายามที่นางไม่ยิ้มออกมามากนัก
เฟิ่งชิงเฉินในยามนี้ยิ้มไม่ออกจริง ๆ นางกลัวเหลือเกินว่า ซีหลิงเทียนเหล่ยจะไม่สนอันใด พร้อมกับเข้าไปขอสมรสพระราชทานจากฝ่าบาทแทน ฝ่าบาทเอง ย่อมไม่สนใจความคิดเห็นของนางอย่างแน่นอน เมื่อถึงยามนั้น นางก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงหมากในกระดานได้อีกต่อไปแล้ว
ในเมื่อนางสามารถรู้ล่วงหน้าได้เช่นนี้แล้ว นางย่อมต้องหาวิธีมาป้องกันตนเองเอาไว้ เฉกเช่นยามที่นางพูดไปก่อนหน้านั้นว่า ซีหลิงเทียนเหล่ยถูกใจนางที่ใด นางก็เปลี่ยนมันเสีย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...