นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 326

เมื่อมาถึงที่จวนเฟิ่ง ซุนเจิ้งเต้าได้เห็นกลุ่มคนมากมายที่กำลังมองมาที่เฟิ่งชิงเฉิน จึงรีบจัดการหาที่พัก และพานางไปที่ห้องหนังสือ โดยที่ไม่ได้ให้โอกาสนางได้พูดคุยกับซุนซือสิงและซุนฮูหยินเลยแม้แต่น้อย

ไม่ได้เป็นเพราะว่าซุนเจิ้งเต้าเป็นคนที่ตกใจและอ่อนไหวง่ายเกินไป แต่ในความเป็นจริงแล้วองครักษ์ทั้งสิบหกคนที่อยู่รอบตัวเฟิ่งชิงเฉินนั้นมีท่าทางที่น่ากลัว ร่างกายเหมือนเสือ สายตาเหมือนหมาป่า เพียงมองแค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าพวกเขาเพิ่งจะฆ่าคนมา กลิ่นอายที่ดุร้ายบนร่างกายของพวกเขาทำให้คนอื่นๆต้องถอยกลับไป

ซุนเจิ้งเต้ากังวลว่าจะเกิดเรื่องกับเฟิ่งชิงเฉิน ในตอนที่เขาเข้าไปถามให้ชัดเจนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาเอามือเช็ดหน้าผากด้วยท่าทีที่กังวลใจเป็นอย่างมาก

เขาผิดแล้ว เฟิ่งชิงเฉินจะไปทุกข์ร้อนเรื่องอะไร คนที่รู้สึกทุกข์ร้อนนั้นล้วนเป็นคนที่ไม่ได้สบสายตากับนางต่างหาก

"ชิงเฉิน ทำไมเจ้าถึงได้ประมาทเช่นนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าการฆ่าคนกลางถนนแบบนั้นมีโทษถึงขั้นประหาร ถ้าหากเป็นเช่นนั้นคงไม่มีใครที่จะสามารถช่วยเจ้าได้แน่

เจ้าฆ่าผู้คนบนถนนไปมากมาย ต่อให้อยากปิดก็คงไม่สามารถปิดบังไว้ได้ เรื่องนี้คงไม่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้แล้ว เจ้าไม่สามารถใช้วิธีการอื่นได้หรืออย่างไรกัน?

ถ้าหากไม่ได้ เจ้าฆ่าเพียงคนสองคนก็สร้างความตกใจได้มากแล้ว การฆ่าคนไปมากมายขนาดนี้ จะกระตุ้นความโกรธแค้นของประชาชน ต่อให้ฝ่าบาทต้องการจะเพิกเฉยก็ไม่สามารถทำได้"

ในขณะเดียวกัน ที่ส่วนลึกของจิตใจมีความสุขและความปีติเกิดขึ้นมาเล็กน้อย สมกับที่เป็นสายเลือดของตระกูลเฟิ่งหลี ในร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินนั้นมีเลือดของตระกูลเฟิ่งหลีที่ไหลเวียน และในกระดูกก็มีความโอหังและทรงเกียรติของตระกูลเฟิ่งหลีที่ยังคงเป็นเหมือนดังเดิม

เมื่อได้เผชิญหน้ากับแผนการปองร้าย ก็ควรจะฆ่าเพื่อเป็นตัวอย่าง ถ้าหากเกิดเรื่องแบบนี้ในยุคสมัยอดีตราชวงศ์ การฆ่าขอทานร้อยคนก็สามารถยุติเรื่องนี้ได้

ทำให้จักรพรรดิทรงโกรธ ศพจะถูกฝังเอาไว้ในที่ห่างไกลหลายพันไมล์ ให้เฟิ่งหลีโกรธ จะมีศพนอนเกลื่อนอยู่ทุกที่

ปลุกพลังตระกูลเฟิ่งหลี สังหารอย่างไร้ความปรานี!

สตรีสูงศักดิ์ของตระกูลเฟิ่งหลีควรจะมีสถานะและตำแหน่งที่สูงส่ง ควรที่ทำการสังหารได้อย่างเด็ดเดี่ยว แบบนั้นถึงจะไม่เสียชื่อเสียงของคำว่า "เฟิ่งหลี" แต่ในตอนนี้ไม่ใช่ยุคสมัยของอดีตราชวงศ์ คำว่า "เฟิ่งหลี" ไม่สามารถที่จะปกป้องเฟิ่งชิงเฉินได้ แต่กลับเป็นสิ่งที่จะเร่งเอาชีวิตของนาง

"ข้าก็ไม่ได้ต้องการจะปิดบัง จะให้ปิดบังอะไร?" เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ใส่ใจกับมัน นางจิบชาอย่างสบายใจ ท่าทางที่สบายอกสบายใจของนางทำให้คนต้องอิจฉา

ในตอนนี้ซุนเจิ้งเต้าไม่รู้ว่าควรจะโกรธหรือว่าควรจะดีใจ

ความไม่สะทกสะท้านแบบนี้ จิตใจเยือกเย็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าใครๆมีได้ แต่ว่า......

สถานะของเฟิ่งชิงเฉินในตอนนี้ เป็นเพียงสตรีของจวนขุนนางผู้ภักดี

"ชิงเฉิน ใกล้จะถึงวันประสูติของฝ่าบาทแล้ว เกิดการนองเลือดขึ้นแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นสิริมงคลอย่างมาก ฝ่าบาทจะต้องไม่พอใจแน่ๆ" ไม่ว่าใครที่อยู่ที่นี่ต่างก็ก้มหน้าลงอย่างหมดหนทาง มีเพียงเฟิ่งชิงเฉินที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดหยิ่งผยอง

"ไม่พอใจก็ไม่พอใจ ข้าก็ไม่ได้คาดหวังว่าฝ่าบาทจะต้องยอมปล่อยข้าไป" ถ้าเกิดฝ่าบาทยอมปล่อยนางไปก็คงไม่มีทางปล่อยให้เกิดข่าวลือแพร่ออกไป

คิดว่านางเป็นคนโง่เง่าจริงๆหรือ ถ้าหากไม่ใช่เจตนาของฝ่าบาท จะมีข่าวลือของนางกับเสด็จอาเก้าแพร่ออกไปทั้งเมืองหลวงได้อย่างไร วันนี้ต่างจากเมื่อก่อน ก่อนหน้านี้นางไม่มีความสามารถในการเผชิญหน้ากับข่าวลือ และไม่มีคนที่ช่วยนางยุติข่าวลือได้ แต่ในตอนนี้ต่างออกไป.......

มีองค์ชายใหญ่ ตี๋ตงหมิง หรือแม้แต่เสด็จอาเก้าอยู่ เป็นเรื่องง่ายมาก ที่พวกเขาจะระงับข่าวลือเช่นนี้

"เจ้ามีวิธีรับมือหรือ?" ซุนเจิ้งเต้ามองไปที่เฟิ่งชิงเฉินอย่างประหม่า

เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ตอบอะไร และมองไปที่ซุนเจิ้งเต้าอย่างมีความหมาย "ท่านเป็นกังวลมากว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับข้าหรือ?"

ปกติแล้วนางไม่ได้รู้สึกอะไร แต่เมื่อพูดถึงเรื่องความเป็นความตายของนาง นางก็พบว่าซุนเจิ้งเต้านั้นเป็นคนที่มีความบริสุทธิ์ใจอย่างมาก

อะแฮ่ม......ซุนเจิ้งเต้าหันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สบายใจและมีความอายอยู่เล็กน้อย "เจ้าเป็นอาจารย์ของลูกชายข้า จะไม่ให้ข้าเป็นกังวลได้อย่างไร ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้า ลูกชายของข้าก็คงไม่อาจสบายใจ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ