นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 352

รถม้าหยุดลง คนขับออกไปอย่างเงียบๆ เฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าราวกับว่านัดกันมาแล้ว พวกเขาไม่ได้ออกมาจากรถม้าในทันที แต่ยังคงนั่งในท่าทางที่กำลังโอบกอดกันอยู่ด้านใน ไม่ได้ขยับไปไหนและไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่นั่งอยู่เงียบๆอย่างนั้น เหมือนกับว่าช่วงเวลานี้เป็นนิรันดร์......

อ้อมแขนที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความรัก เสด็จอาเก้าไม่อยากที่จะขยับ และเฟิ่งชิงเฉินเองก็ยังลังเลใจ การที่ได้ใกล้กับเสด็จอาเก้ามากขนาดนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก นางไม่อยากที่จะออกไปโดยเร็วขนาดนี้

ครั้งหน้าก็ไม่รู้ว่าจะสามารถใกล้ชิดได้เท่านี้หรือไม่ จะได้แนบอยู่ในอ้อมกอดของเสด็จอาเก้าอีกเมื่อไหร่ บางทีอาจจะเป็นสิ่งที่ทั้งนางและเสด็จอาเก้าไม่อาจจะทำได้อีกครั้ง ในใจมีความโหยหา นางมุดเข้าไปในอ้อมแขนของเสด็จอาเก้าอย่างเงียบๆ

ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่นางไม่สามารถมีได้ และนางเตรียมที่จะไม่มีเขาไว้แล้ว นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่นางยอมทำตามความรู้สึกของตนเอง

เฟิ่งชิงเฉินหลับตาลง มือทั้งสองกำที่เสื้อผ้าของตัวเองอย่างแน่น เพื่อบรรเทาความเศร้าในใจของนาง และความรู้สึกที่ไม่ควรหลั่งไหลออกมา

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินแน่ใจแล้วว่าตนเองระงับความรู้สึกเหล่านี้เอาไว้ได้แล้ว นางจึงลืมตาทั้งสองข้าง ดวงตาของนางสงบนิ่ง เหมือนผิวน้ำที่ไม่เคลื่อนไหว เฟิ่งชิงเฉินผลักเสด็จอาเก้าออกไป "เสด็จอาเก้า ควรไปทำเรื่องธุระแล้ว"

เสด็จอาเก้าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในใจมีความสังหรณ์ที่ไม่ดีอยู่รางๆ แต่เมื่อนึกถึงอันตรายที่จะต้องเผชิญต่อไป เสด็จอาเก้าระงับความรู้สึกต่างๆเอาไว้ เขาช่วยจัดเสื้อผ้าให้เฟิ่งชิงเฉิน และช่วยประคองนางลงจากรถ

"นี่คือที่ไหน?" เฟิ่งชิงเฉินสังเกตดูสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างละเอียด และพบนี่ไม่ใช่สถานที่ที่นางได้นัดแนะกันไว้กับเซี่ยหวงกุ้ยเฟย

หลังจากที่จวนเฟิ่งเกิดไฟไหม้ เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไปทั้งหมดล้วนอยู่ในการแผนการของเฟิ่งชิงเฉิน แต่การปรากฏตัวออกมาของเสด็จอาเก้าในคืนนี้ เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือแผนการของนางไปแล้ว

คืนนี้เป็นคืนที่สำคัญมากที่สุดคืนหนึ่ง นางจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องที่ผิดพลาดขึ้นมา ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

เสด็จอาเก้าไม่ได้อธิบายอะไร เขาจูงมือของเฟิ่งชิงเฉินแล้วเดินไปข้างหน้า เมื่อเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินสะบัดมือของเขาออก เขาจึงหยุดก้าวเดินด้วยความไม่เต็มใจ

"ตามข้ามา ข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้า เส้นทางที่คนของตระกูลเซี่ยรู้ข้าเองก็รู้ แต่เส้นทางที่ข้ารู้คนของตระกูลเซี่ยนั้นไม่รู้ แทนที่จะทำเรื่องนี้กับตระกูลเซี่ย โดยที่ขัดความตั้งใจเดิมของเจ้า จะดีกว่าถ้าอยู่กับข้า ข้าเคยบอกไปแล้วว่าเรื่องนี้เจ้าอยากจะทำอะไรก็ทำไป ข้าจะช่วยเจ้าอย่างสุดความสามารถและจะไม่ขอสิ่งใดตอบแทน"

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาช่วยคนอื่นโดยไม่มีเงื่อนไข แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่รับน้ำใจเขาแม้แต่น้อย เก้าวันนี้เฟิ่งชิงเฉินได้ทำเรื่องต่างๆไว้มากแล้ว และนางก็ไม่เคยคิดที่จะยืมกำลังของเขาเลย การมาในคืนนี้เป็นสิ่งที่เข้าตั้งใจมาด้วยตนเอง

เมื่อนึกถึงจุดนี้ เสด็จอาเก้าก็รู้สึกท้อแท้อยู่เล็กน้อย เขาที่ไม่ค่อยได้ทำดีกับผู้หญิงคนไหน แต่ผู้หญิงคนนี้ทำเหมือนว่าเขาเป็นโจรและระแวงเขามากขึ้น

"ไม่ขอสิ่งตอบแทน? แล้วเรื่องระเบิดเทียนเหล่ยล่ะ?" เฟิ่งชิงเฉินเดินตามเสด็จอาเก้าไปในทางลับและพูดเยาะเย้ยขึ้นมา

นางไม่มีวันลืมเรื่องที่เกิดขึ้นที่เรือนแยก ชายคนนี้ที่เมื่อครู่เพิ่งจะมองดูนางด้วยความรักอยู่ที่สระบัว แต่ต่อมาไม่นานก็ใช้นางเพื่อหาประโยชน์และกดขี่นางได้อย่างไม่ลังเล

นางเชื่อว่าเสด็จอาเก้าคิดว่านางเป็นคนพิเศษ แต่ความพิเศษนี้มาจากการที่นางเป็นเบี้ยที่ทำประโยชน์ได้อย่างล้ำค่า นางก็เป็นเหมือนกับหลี่เซี่ยง เป็นเพียงเครื่องมืออย่างหนึ่ง เมื่อเครื่องมือนั้นหมดประโยชน์แล้ว นางก็จะไม่ได้เป็นอะไรอีกทั้งนั้น

"ข้าไม่ได้บังคับให้เจ้าทำ" เสด็จอาเก้าขมวดคิ้วทั้งสองเมื่อได้ยินคำว่าระเบิดเทียนเหล่ย ในโลกใบนี้มีเพียงเขาคนเดียวที่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินสามารถสร้างระเบิดเทียนเหล่ยขึ้นมาได้ และเขาก็ไม่ได้บังคับนาง สำหรับเรื่องนี้สร้างความรำคาญใจให้กับลูกน้องไม่ใช่น้อย เพราะเหตุนี้เฟิ่งชิงเฉินจึงรู้ดีว่าเขาแบกรับแรงกดดันมากแค่ไหน

"ไม่ได้บังคับข้า แล้วข้ามีสิทธิ์ที่จะเลือกด้วยหรือ?" ผู้ชายกับผู้หญิง ขุนนางกับสามัญชน พวกเขาพิจารณาเรื่องต่างๆจากมุมมองที่แตกต่างกัน ไม่มีใครเคยคิดว่าระเบิดเทียนเหล่ยจะมีความหมายกับเสด็จอาเก้าได้อย่างไร

ถ้าหากเสด็จอาเก้าสร้างระเบิดเทียนเหล่ยออกมาได้อย่างไม่จำกัด เช่นนั้นก็จะมีความหมายมาก มีบางเรื่องที่สามารถทำให้สำเร็จได้ก่อนสิบปีหรือยี่สิบปี แต่ชีวิตมนุษย์นั้นจะมีได้กี่สิบปี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ