นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 365

แน่นอนว่าข่าวการปฏิเสธการแต่งงานกับซูหว่านของเสด็จอาเก้าไม่ได้แพร่กระจายออกไป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเฟิ่งชิงเฉินจะไม่รู้ หากเป็นข่าวที่เสด็จอาเก้าต้องการให้คนอื่นรู้ แม้เฟิ่งชิงเฉินจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็คงไม่ได้

คืนนั้นหวังจิ่นหลิงนำข่าวมาบอกเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินแสดงสีหน้าเจ็บปวดชั่วครู่ แต่นางก็แสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นไร "จิ่นหลิง เจ้าว่าเสด็จอาเก้าหมายความว่าอย่างไร? ไม่อยากแต่งก็ไม่แต่ง การปฏิเสธโดยไม่ไว้หน้าเช่นนี้จะทำให้ตระกูลซูเกลียดเขา"

หวังจิ่นหลิงส่ายหัวแสดงว่าเขาไม่รู้ หวังจิ่นหลิงยอมรับว่าเขามองคนออกอยู่บ้าง แต่เขามองเสด็จอาเก้าไม่ออกเลย เรื่องวันนี้ที่เสด็จอาเก้าปฏิเสธที่จะแต่งงานกับซูหว่านนั้นไม่งามเอาเสียเลยและไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมยามปกติของเสด็จอาเก้า การเป็นปฏิปักษ์กับตระกูลซูนั้นไม่เป็นผลดีต่อเขาแม้แต่น้อย

"ช่างเถอะ ไม่สนใจเขาดีกว่า เป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายก็ล้วนหลบไม่พ้น" เฟิ่งชิงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มไม่ทุกข์ร้อน แต่ในใจนางกลับรู้สึกขมขื่น

ที่แท้เหตุผลที่เข้าเมืองมาพร้อมนางในวันนี้เป็นเพราะต้องการใช้นางเป็นโล่นี่เอง เมื่อหลี่เซี่ยงตายไป ความได้เปรียบของจักรพรรดิก็หายไปด้วย ซีหลิง หนานหลิงและเป่ยหลิงจะรวมตัวกันเพื่อตั้งเงื่อนไขกับจักรพรรดิ จักรพรรดิจะไม่ถอยง่ายๆ แต่จะไม่ได้แข็งกระด้างดังเช่นแต่ก่อน การเมืองเป็นการประนีประนอมทุกรูปแบบ ตราบใดที่ไม่ล่วงเกินขีดความอดทนของจักรพรรดิเข้า เขาก็จะยอมประนีประนอมอย่างแน่นอน

ของตระกูลซูต้องการจับมือเป็นพันธมิตรกับเสด็จอาเก้ามาโดยตลอด ซูหว่านจึงต้องการแต่งงานกับเสด็จอาเก้า แน่นอนว่าย่อมจะไม่พลาดโอกาสนี้ เสด็จอาเก้าปฏิเสธซูหว่านก็เท่ากับเป็นการปฏิเสธตระกูลซู

แต่ถ้าหากเขาเลือกปฏิเสธซูหว่าน แม้ว่าจะไม่ได้เป็นพันธมิตรกับตระกูลซูแต่ก็จะไม่มีความเกลียดชังอย่างลึกซึ้งและตระกูลซูก็จะไม่คอยจับจ้องเสด็จอาเก้า ผู้ที่ลุ่มหลงในอิสตรีไม่มีทางทำเรื่องยิ่งใหญ่ได้

เสด็จอาเก้าขจัดความระแวงของจักรพรรดิอย่างไร้ร่องรอยพร้อมทั้งให้จักรพรรดิและตระกูลซูเห็นด้านที่ต้องการบัลลังก์และสาวงามของเขา

ถ้าเสด็จอาเก้ารู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินคิดแบบนี้จะต้องอึดอัดจนแทบกระอักเลือดเป็นแน่ เพราะเขาไม่ลังเลใจที่จะล่วงเกินตระกูลซูในการปฏิเสธการแต่งงานกับซูหว่าน สุดท้ายกลับแลกมากับความระแวงสงสัยของเฟิ่งชิงเฉิน

ที่จริงต้องไม่โทษเฟิ่งชิงเฉินที่คิดแบบนี้ หากต้องการโทษก็ควรไปโทษเสด็จอาเก้าที่ก่อนหน้านี้เขาหลอกใช้นางมามากมายหลายครั้งจนทำให้นางมีปมในใจที่ต้องคิดไปในทางแย่ที่สุดเสมอ

ในยามราตรี หลานจิ่วชิงปรากฏตัวอย่างเงียบเชียบราวกับวิญญาณในห้องลับของจวนซู เมื่อปู้จิงหยุนและซูเหวินชิงหันหลังมา พวกเขาก็เห็นหลานจิ่วชิงผู้แทบจะไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ยืนอยู่ตรงหัวมุม สีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไป แต่เมื่อเห็นคนที่มาชัดแล้วก็โล่งใจ

"จิ่วชิง เจ้าคิดจะทำให้ข้าหัวใจวายตายหรือ" ปู้จิงหยุนถลึงตามองเขาอย่างกล่าวโทษ หลานจิ่วชิงเมินเฉยต่อเขาเดินผ่านเขาไปถามซูเหวินชิง "เหวินชิง วันนี้เรื่องมงคลที่จวนเฟิ่งเป็นฝีมือของเจ้าหรือ?"

"เอ๊ะ เจ้ารู้ได้อย่างไร? เฟิ่งชิงเฉินบอกเจ้าแม้แต่เรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ? ไม่จริงน่ะ ผู้หญิงคนนั้นเชื่อไม่ได้เอาเสียเลย นางบอกข้าว่าอย่าบอกคนอื่นๆ แต่พอลับหลังแล้วกลับทรยศข้าเสียอย่างนั้น นางไม่รู้หรือว่าเมื่อเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปจะเป็นเรื่องใหญ่ เป็นโทษประหาร" ใบหน้าของซูเหวินชิงบึ้งตึง เมื่อเห็นท่าทางสงบนิ่งและสง่างามของหลานจิ่วชิงแล้วก็เกิดตกใจกลัวว่าหลานจิ่วชิงจะเอาโทษที่เขาแอบไปยุ่งกับเฟิ่งชิงเฉิน เขาจึงรีบพูดเอาใจ

"จิ่วชิง นี่เป็นความผิดของข้าเอง เจ้าต่างหากที่มองการณ์ไกล อย่าให้เป่าเอ๋อรู้เรื่องของเราเลยนะ อย่าบอกเฟิ่งชิงเฉินถึงตัวตนที่แท้จริงของเจ้า สตรีช่างไม่น่าเชื่อถือจริงๆ" ไม่น่าแปลกใจที่แม้ว่าจิ่วชิงจะให้ตราประทับจิ่วโจวแก่เฟิ่งชิงเฉิน แต่ก็ไม่ได้บอกนางเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเขา สตรีเก็บความลับได้ย่ำแย่ยิ่งนัก

หากเป็นยามปกติ หลานจิ่วชิงจะยอมรับไปอย่างเงียบเชียบ แต่วันนี้ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร เขาจึงได้แก้ต่างแทนเฟิ่งชิงเฉินว่า "ไม่เกี่ยวกับนาง"

เขาไม่ได้บอกเฟิ่งชิงเฉินถึงตัวตนที่แท้จริงของเขานั่นเป็นเพราะเขา ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อใจเฟิ่งชิงเฉิน แต่เพราะพูดไปนางก็คงไม่เข้าใจ บิดามารดาของนางไม่ได้บอกอะไรนางไว้เลย เฟิ่งชิงเฉินจึงไม่รู้เรื่องรู้ราวนัก ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ควรรีบเร่ง ค่อยๆ ไปเรื่อยๆ จะดีกว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ